ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - พม.เชียงใหม่เร่งแก้ปัญหาหลังประชาชนร้องเรียนเด็กขายพวงมาลัยตามสี่แยกเพิ่มไม่หยุด แจงเดินหน้ารณรงค์งดซื้อพร้อมส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจตลอดเดือน ก.ค. หากพบถึงสามครั้งจับดำเนินคดี อีกด้านเดินหน้าสำรวจจำนวนหลังพบสองจุด “ต้นเปา-สวนดอก” แหล่งชุมชนใหญ่ เผยลงพื้นที่ทำความเข้าใจผู้ปกครองกับจัดฝึกอบรมอาชีพช่วยสร้างทางเลือก
นางมยุรี ยกตรี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาเด็กขายพวงมาลัย ดอกไม้ ของที่ระลึกตามสี่แยกไฟแดงและตามร้านอาหารที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า หลังจากที่สำนักงานการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งศูนย์ประชาบดี ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับกรณีของเด็กขายพวงมาลัยตามสี่แยกในจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งมีจำนวนมากในปัจจุบัน ทางสำนักงานการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ สถานีตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเด็กและเยาวชนในจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ร่วมกันประชุมเชิงปฏิบัติการและกำหนดมาตรการเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว
โดยในเบื้องต้นได้ทำการรณรงค์ผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประชาสัมพันธ์ เพื่อขอความร่วมมือจากประชาชนในการงดเว้นและไม่สนับสนุนการซื้อพวงมาลัย ดอกไม้ และของที่ระลึกจากเด็กที่ออกขายตามสี่แยกไฟแดงและร้านอาหาร ขณะเดียวกัน ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราตามจุดต่างๆ ที่ได้รับรายงานว่ามีเด็กออกมาจำหน่ายสินค้าในช่วงเดือน ก.ค. โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 รวมทั้งพระราชบัญญัติการจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง พ.ศ. 2535
สำหรับแนวทางการปฏิบัติในการออกตรวจตราของเจ้าหน้าที่นั้น หากพบเด็กออกมาจำหน่ายสินค้าจะมีการว่ากล่าวตักเตือนก่อน จากนั้นหากยังพบอีกในการตรวจตราครั้งต่อมาจะทำการเชิญตัวผู้ปกครองมาชี้แจงและทำข้อตกลงไม่ให้นำเด็กมาจำหน่ายสินค้าอีก รวมทั้งให้ผู้ปกครองวางเงินเป็นค่าประกัน และหากยังพบเด็กรายเดิมออกมาจำหน่ายสินค้าอีกเป็นครั้งที่สามจะถูกนำตัวไปดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมามีเด็กที่ถูกนำตัวไปดำเนินคดีแล้ว 1 ราย
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังได้ออกทำการสำรวจเพื่อติดตามแหล่งที่อยู่ของเด็กที่ออกมาจำหน่ายสินค้าตามสี่แยกต่างๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่ พบว่าจุดสำคัญที่เด็กๆ เหล่านี้อาศัยอยู่ค่อนข้างมากได้แก่ที่หมู่บ้านมหามงคลใน ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง และชุมชนละแวกวัดสวนดอก โดยที่ ต.ต้นเปานั้นพบว่ามีเอกชนซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ได้ให้กลุ่มชาวไทยภูเขาเช่าที่เพื่อก่อสร้างที่อยู่อาศัย ทำให้มีชาวไทยภูเขาจำนวนมากทั้งจากใน จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย และ จ.ตากมาอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว และทำให้มีเด็กจากชุมชนออกมาจำหน่ายสินค้าเป็นจำนวนมาก ส่วนชุมชนในละแวกวัดสวนดอกนั้นพบว่า แม้จะมีจำนวนมากแต่ไม่ได้รวมตัวเป็นชุมชนขนาดใหญ่ หากแต่อาศัยอยู่ตามห้องเช่าต่างๆ ที่มีอยู่ในบริเวณ
นางมยุรีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการสำรวจจำนวนของเด็กที่มีอยู่ในชุมชนทั้งสองแห่ง และกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหา ด้วยการลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับเด็กและผู้ปกครองในเรื่องดังกล่าว รวมทั้งประสานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจัดให้มีการฝึกอบรมวิชาชีพให้แก่ผู้ปกครองและเด็ก เพื่อให้มีทางเลือกในการประกอบอาชีพทดแทนการขายพวงมาลัย ซึ่งมาตรการต่างๆ เหล่านี้ได้มีการทดลองปฏิบัติแล้วที่โรงเรียนบ้านหนองโค้ง ต.ต้นเปา
โดยทางโรงเรียนได้นำเด็กๆ มาฝึกทำขนม แล้วนำขนมที่ได้มาจำหน่ายภายในโรงเรียน ส่วนผู้ปกครองได้จัดการฝึกอบรมทำย่ามชาวเขา โดยมีองค์กรพัฒนาเอกชนเป็นผู้ดูแลในเรื่องการจัดจำหน่าย นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการสอนพิเศษแก่เด็กๆ ในวันหยุด รวมถึงการจัดหาทุนการศึกษาให้เด็กที่เรียนดี เพื่อจูงใจให้เด็กมีความสนใจในเรื่องการศึกษาเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังเตรียมที่จะประสานไปยังเจ้าของพื้นที่เพื่อเจรจาขอให้มีการกันพื้นที่สำหรับสร้างสนามเด็กเล่นและศาลาอเนกประสงค์สำหรับใช้เป็นสถานที่ในการฝึกอบรมอาชีพ
ทั้งนี้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ระบุว่า จากการตรวจสอบที่ผ่านมายังไม่พบว่าการนำเด็กมาจำหน่ายสินค้านั้นเป็นไปในลักษณะของการค้ามนุษย์ แต่เหตุที่มีการจัดรถรับส่งนั้นเนื่องจากคนในชุมชนเห็นว่าอาชีพดังกล่าวสามารถสร้างรายได้ได้เป็นอย่างดี จึงมีการฝากลูกหลานไปกับผู้ที่มีรถ เพื่อให้ออกไปทำงานนอกชุมชนและรับกลับเมื่อเสร็จงาน
ส่วนการดำเนินการในลำดับต่อไปนั้น พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า หลังจากทำการตรวจตราตามสี่แยกไฟแดงต่างๆ พบว่าจำนวนเด็กที่ออกมาจำหน่ายพวงมาลัยนั้นลดลง แต่มีรายงานว่าพบเด็กที่ออกมาจำหน่ายสินค้าตามร้านอาหารและสถานบันเทิงเพิ่มขึ้น ซึ่งในเดือน ส.ค.นี้เจ้าหน้าที่จะมีการปรับเปลี่ยนแผนการทำงานโดยมุ่งเน้นการออกตรวจร้านอาหารและสถานบันเทิงให้มากขึ้น โดยผู้ที่พบเห็นเด็กออกมาจำหน่ายสินค้าตามสี่แยกหรือร้านอาหารและสถานบันเทิงสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ศูนย์ประชาบดี หมายเลข 1300