xs
xsm
sm
md
lg

ช้างกระทืบดับ 1 ศพสังเวย “นายกฯ ปูสัญจร” ตักบาตรบนหลังช้างสุรินทร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชายไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 50 ปี ถูกช้างที่นำมาร่วมงานทำบุญตักบาตรของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ ครม. กระทืบสาหัสจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ภายในวัดจุมพลสุทธาวาส อ.เมือง จ.สุรินทร์ ใกล้สถานที่จัดงาน วันนี้ (30 ก.ค.)
สุรินทร์ - เกิดเหตุช้างกระทืบชายวัย 50 ปีดับสังเวย 1 ศพ ขณะรอร่วมงานนายกฯ ปูและ ครม.ทำบุญตักบาตรบนหลังช้างกลางเมืองสุรินทร์ เผยผู้ตายขึ้นปีนต้นไม้ใกล้จุดนายกฯ ขึ้นอัฒจันทร์ตักบาตรบนหลังช้าง ถูก ตร.ไล่ลง ก่อนไปเล่นกับช้างที่ล่ามโซ่ไว้ในวัดใกล้สถานที่จัดงาน จนถูกช้างกระทืบกระดูกหักหลายแห่งเสียชีวิต รองผู้ว่าฯสุรินทร์แถลงยันช้างไม่ตกมัน ขณะนายกฯเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต

วันนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น.ที่ผ่านมา ก่อนที่ น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรบนหลังช้างที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้เกิดเหตุการณ์ ชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 50 ปี ท่าทางคล้ายคนเมาสุรา หรือสติไม่สมประกอบ ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีเทา ปีนขึ้นไปบนต้นไม้บริเวณหลังรูปปั้นช้าง ข้างอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีฯ ห่างจากอัฒจันทร์จุดที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะขึ้นทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง เพียง 20 เมตร

จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ลงมา จากนั้นชายคนดังกล่าวได้เดินเข้าไปในวัดจุมพลสุทธาวาส ใกล้บริเวณงานทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง ซึ่งห่างจากที่จัดงานไปเพียงประมาณ 200 เมตร ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเข้าไปหยอกล้อเล่นกับช้างโดยที่ควาญช้างไม่ได้อยู่กับช้าง ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าชายคนดังกล่าวได้คลานเข้าไปหยอกล้อเล่นกับช้างที่ควาญช้างล่ามโซ่ผูกร่วมไว้กับช้างอีกหลายเชือกภายในวัด ซึ่งช้างจำนวนดังกล่าวไม่ได้เข้าไปร่วมงานตักบาตรบนหลังช้าง เพราะเป็นช้างที่เตรียมไว้สำหรับสำรองในการทำบุญตักบาตรบนหลังช้างของนายกรัฐมนตรี และคณะ

ในระหว่างนั้น ช้างเชือกดังกล่าวซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดความรำคาญจึงใช้งวงรัดตัวชายคนดังกล่าวโยนขึ้นสูง และร่วงลงมากระแทกพื้น พร้อมเข้ากระทืบซ้ำทันที ก่อนที่ควาญช้างจะเห็นเหตุการณ์ และเข้าระงับควบคุมช้างไว้ได้ก็ไม่ทันการณ์แล้ว เพราะชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนแน่นิ่งหายใจรวยริน ตามร่างกายกระดูกหักหลายแห่ง มีเลือดไหลบริเวณใบหน้า คาง และตามร่างกาย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลสุรินทร์เพื่อช่วยชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิตอย่างเต็มที่แต่ไม่สามารถยื้อไว้ได้ เนื่องจากผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ต่อมา นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ แถลงถึงกรณีที่มีช้างทำร้ายประชาชนจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตภายในงานตักบาตรบนหลังช้างที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ณรงค์จางวาง จ.สุรินทร์ ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในบริเวณวัดจุมพลสุทธาวาส ซึ่งเป็นสถานที่พักช้างจำนวน 45 เชือก โดยในช่วงเช้าพบว่ามีชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 50 ปี อยู่ในสภาพมึนเมา ทราบจากชาวบ้านว่าเป็นคนเร่ร่อน ได้ไปหยอกล้อกับช้าง จนช้างเกิดความรำคาญจึงใช้งวงรัดตัวชายดังกล่าวก่อนจะโยนไปฟาดกับต้นกระถินณรงค์ขึ้นสูงกว่า 3 เมตร

อย่างไรก็ตาม ขอชี้แจงว่าช้างเชือกดังกล่าวไม่ได้มีอาการตกมันแต่อย่างใด แต่อยู่ในสภาพปกติและอยู่ในความดูแลของควาญช้างเป็นอย่างดี แต่กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นปกติวิสัยของช้างที่หากถูกหยอกหรือรังแกจะมีพฤติกรรมอย่างนี้แสดงออกมา

“ยืนยันว่าช้างไม่ได้ตกมัน เพราะทางจังหวัดฯเองได้มีมาตรการดูแลและคัดเลือกช้างที่มีลักษณะนิสัยสุภาพ ไม่เกเร และเชื่อฟังควาญช้างอย่างดี ที่สำคัญเราจะไม่คัดเลือกช้างที่ตกมันมาร่วมงานดังกล่าวเด็ดขาด ฉะนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นเหตุสุดวิสัย” นายยุทธนา กล่าว

ทาง ด้าน นพ.สอาด วีระเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ได้รับรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บจากการถูกช้างทำร้ายเข้ารักษาตัวที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลสุรินทร์ ซึ่งพบว่าอวัยวะหลายส่วนในร่างกายของผู้ป่วยบาดเจ็บหลายจุด อาทิ ซี่โครงยุบ แขนหลุด 1 ข้าง มีเลือดออกในปอด เป็นต้น โดยคณะแพทย์ได้ทำการช่วยเหลืออย่างเต็มที่อยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ผู้ป่วยได้รับอาการบาดเจ็บหลายจุดมากจนทดพิษบาดแผลไม่ไหว และเสียชีวิตในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อของผู้เสียชีวิต เพราะยังไม่พบเอกสารใดๆในร่างกายเลย

ขณะที่ นางสาวศันศนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติครม.สัญจรครั้งที่ 6 ที่ จ.สุรินทร์ ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวกับที่ประชุมครม.ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมว่า อุบัติเหตุช้างในช่วงเช้าวันนี้เกิดก่อนที่นายกฯ จะเดินทางมาตักบาตร และเมื่อนายกฯทราบเรื่องนี้ก็ได้แสดงความเสียใจผ่านจังหวัดสุรินทร์ ไปยังครอบครัวชายคนดังกล่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น