ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - จังหวัดเชียงใหม่เปิดเวทีระดมผู้บริหารสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมประชุมครั้งใหญ่หาทางขับเคลื่อนและใช้ประโยชน์จากศักยภาพจังหวัด เตรียมความพร้อมเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางการศึกษานานาชาติในประชาคมอาเซียน เสนอสอนภาษาเพื่อนบ้านทั้งในระดับประถม-มัธยม ยันมหาวิทยาลัย
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เป็นประธานการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ณ ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดฯ วานนี้ (26 ก.ค.) เพื่อหาแนวทางขับเคลื่อนและใช้ประโยชน์จากศักยภาพของจังหวัด ซึ่งเป็นศูนย์กลางการศึกษาของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนให้เป็นศูนย์กลางการศึกษานานาชาติได้อย่างเป็นรูปธรรมในประชาคมอาเซียน ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญยิ่งที่จะสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลง และสามารถดำรงชีวิตในสังคมอาเซียนได้อย่างมีคุณภาพ และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า อาเซียนมีเป้าหมายจะก้าวไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558 ซึ่งประกอบด้วย 3 เสาหลัก ได้แก่ ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน โดยมีวิสัยทัศน์ร่วมกันคือ การสร้างประชาคมอาเซียนที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูง มีกฎเกณฑ์กติกาที่ชัดเจน และมีประชาชนเป็นศูนย์กลางนั้น จังหวัดเชียงใหม่ถือได้ว่ามีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางการศึกษานานาชาติ
นอกจากนั้นยังมีศักยภาพอีกหลายประการที่สามารถพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางการพัฒนาของประชาคมอาเซียน ได้แก่ มีทรัพยากรทางการท่องเที่ยวที่หลากหลาย มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม และลอจิสติกส์ เชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS : Greater Mekong Sub-region) และกลุ่มประเทศเอเชียใต้ (BIMSTEC : Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation) มีโรงแรมที่พัก รีสอร์ต และศูนย์ประชุมที่มีมาตรฐานระดับนานาชาติ พร้อมที่จะพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางการประชุมและจัดนิทรรศการของภูมิภาค (Meeting Incentive Convention Exhibition : MICE) มีสถานบริการทางการแพทย์และการรักษาพยาบาลที่ได้มาตรฐานสากล รวมทั้งแหล่งบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ พร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางการบริการสุขภาพ (Medical/Health Hub) ของภูมิภาค มีมหาวิทยาลัย 8 แห่ง มีหลักสูตรนานาชาติหลายแห่ง พร้อมที่จะรองรับการเป็นศูนย์กลางการศึกษา (Education Hub) ของภูมิภาค
ไม่เพียงเท่านั้น เชียงใหม่ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานและกิจกรรมระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 18 เมื่อปี พ.ศ. 2538 การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ (Royal Flora Ratchapruek) เมื่อปี พ.ศ. 2549 และระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน 2554-15 กุมภาพันธ์ 2555 รวม 2 ครั้ง
ด้านผู้เข้าร่วมประชุมได้เสนอให้มีการเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่สถาบันการศึกษาในด้านกีฬาให้สามารถก้าวไปสู่การแข่งขันระดับนานาชาติด้วย มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ระหว่างบุคลากรด้านการศึกษาในกลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงนักเรียน นักศึกษา โดยภาครัฐ ท้องถิ่นจัดหาทุนการศึกษาเพื่อให้เรียนรู้ทั้งด้านภาษา ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตของท้องถิ่นเพื่อเตรียมการเป็นประชาชนอาเซียน
ส่วนการพัฒนาหลักสูตรการศึกษา การใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง ควรมีความหลากหลายของหลักสูตร มีการแลกเปลี่ยนและการให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาประเทศเพื่อนบ้าน มีการจัดสอนหลักสูตรภาษาประเทศเพื่อนบ้านในระดับประถม มัธยม และในมหาวิทยาลัย การใช้ IT เป็นสื่อการเรียนการสอน การเตรียมเด็ก เยาวชนให้สามารถอยู่ในสังคมของนานาชาติ เรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน การนำระบบ Buddy System มาใช้ในการเรียนการสอน เน้นคุณธรรมจริยธรรมในการเรียนการสอน
สำหรับการให้ความรู้ด้านข้อมูลข่าวสาร และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ควรปรับปรุงระบบการทำงานของหน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้รวดเร็วและบริการให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มจำนวนบุคลากรในการให้บริการมากขึ้น มีการแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อคณะบุคลากรด้านการศึกษาที่จะเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ มีการให้ความรู้ด้านกฎระเบียบการเข้าเมืองผู้มาติดต่อให้สามารถกรอกข้อมูลได้ถูกต้องสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และควรเพิ่มทักษะและความรู้ด้านภาษาอังกฤษแก่เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาติดต่อด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมในครั้งนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรกเพื่อสร้างการรับรู้แนวทางการขับเคลื่อนร่วมกัน จากนั้นจังหวัดเชียงใหม่จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานชุดเล็กในแต่ละด้าน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการขับเคลื่อนเป็นไปด้วยความรวดเร็วและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
อนึ่ง ในการประชุมครั้งนี้ได้มีผู้แทนหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วมด้วยจำนวนมาก ประกอบด้วย ผู้แทนกงสุลใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่, ผู้แทนกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่, ผู้แทนกงสุลใหญ่ญี่ปุ่นประจำจังหวัดเชียงใหม่, ผู้แทนกงสุลอินเดียประจำจังหวัดเชียงใหม่, ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่, ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่, นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่, นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ และผู้แทนสายการบินต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ฯลฯ
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เป็นประธานการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ณ ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดฯ วานนี้ (26 ก.ค.) เพื่อหาแนวทางขับเคลื่อนและใช้ประโยชน์จากศักยภาพของจังหวัด ซึ่งเป็นศูนย์กลางการศึกษาของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนให้เป็นศูนย์กลางการศึกษานานาชาติได้อย่างเป็นรูปธรรมในประชาคมอาเซียน ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญยิ่งที่จะสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลง และสามารถดำรงชีวิตในสังคมอาเซียนได้อย่างมีคุณภาพ และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า อาเซียนมีเป้าหมายจะก้าวไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558 ซึ่งประกอบด้วย 3 เสาหลัก ได้แก่ ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน โดยมีวิสัยทัศน์ร่วมกันคือ การสร้างประชาคมอาเซียนที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูง มีกฎเกณฑ์กติกาที่ชัดเจน และมีประชาชนเป็นศูนย์กลางนั้น จังหวัดเชียงใหม่ถือได้ว่ามีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางการศึกษานานาชาติ
นอกจากนั้นยังมีศักยภาพอีกหลายประการที่สามารถพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางการพัฒนาของประชาคมอาเซียน ได้แก่ มีทรัพยากรทางการท่องเที่ยวที่หลากหลาย มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม และลอจิสติกส์ เชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS : Greater Mekong Sub-region) และกลุ่มประเทศเอเชียใต้ (BIMSTEC : Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation) มีโรงแรมที่พัก รีสอร์ต และศูนย์ประชุมที่มีมาตรฐานระดับนานาชาติ พร้อมที่จะพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางการประชุมและจัดนิทรรศการของภูมิภาค (Meeting Incentive Convention Exhibition : MICE) มีสถานบริการทางการแพทย์และการรักษาพยาบาลที่ได้มาตรฐานสากล รวมทั้งแหล่งบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ พร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางการบริการสุขภาพ (Medical/Health Hub) ของภูมิภาค มีมหาวิทยาลัย 8 แห่ง มีหลักสูตรนานาชาติหลายแห่ง พร้อมที่จะรองรับการเป็นศูนย์กลางการศึกษา (Education Hub) ของภูมิภาค
ไม่เพียงเท่านั้น เชียงใหม่ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานและกิจกรรมระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 18 เมื่อปี พ.ศ. 2538 การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ (Royal Flora Ratchapruek) เมื่อปี พ.ศ. 2549 และระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน 2554-15 กุมภาพันธ์ 2555 รวม 2 ครั้ง
ด้านผู้เข้าร่วมประชุมได้เสนอให้มีการเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่สถาบันการศึกษาในด้านกีฬาให้สามารถก้าวไปสู่การแข่งขันระดับนานาชาติด้วย มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ระหว่างบุคลากรด้านการศึกษาในกลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงนักเรียน นักศึกษา โดยภาครัฐ ท้องถิ่นจัดหาทุนการศึกษาเพื่อให้เรียนรู้ทั้งด้านภาษา ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตของท้องถิ่นเพื่อเตรียมการเป็นประชาชนอาเซียน
ส่วนการพัฒนาหลักสูตรการศึกษา การใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง ควรมีความหลากหลายของหลักสูตร มีการแลกเปลี่ยนและการให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาประเทศเพื่อนบ้าน มีการจัดสอนหลักสูตรภาษาประเทศเพื่อนบ้านในระดับประถม มัธยม และในมหาวิทยาลัย การใช้ IT เป็นสื่อการเรียนการสอน การเตรียมเด็ก เยาวชนให้สามารถอยู่ในสังคมของนานาชาติ เรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน การนำระบบ Buddy System มาใช้ในการเรียนการสอน เน้นคุณธรรมจริยธรรมในการเรียนการสอน
สำหรับการให้ความรู้ด้านข้อมูลข่าวสาร และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ควรปรับปรุงระบบการทำงานของหน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้รวดเร็วและบริการให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มจำนวนบุคลากรในการให้บริการมากขึ้น มีการแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อคณะบุคลากรด้านการศึกษาที่จะเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ มีการให้ความรู้ด้านกฎระเบียบการเข้าเมืองผู้มาติดต่อให้สามารถกรอกข้อมูลได้ถูกต้องสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และควรเพิ่มทักษะและความรู้ด้านภาษาอังกฤษแก่เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาติดต่อด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมในครั้งนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรกเพื่อสร้างการรับรู้แนวทางการขับเคลื่อนร่วมกัน จากนั้นจังหวัดเชียงใหม่จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานชุดเล็กในแต่ละด้าน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการขับเคลื่อนเป็นไปด้วยความรวดเร็วและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
อนึ่ง ในการประชุมครั้งนี้ได้มีผู้แทนหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วมด้วยจำนวนมาก ประกอบด้วย ผู้แทนกงสุลใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่, ผู้แทนกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่, ผู้แทนกงสุลใหญ่ญี่ปุ่นประจำจังหวัดเชียงใหม่, ผู้แทนกงสุลอินเดียประจำจังหวัดเชียงใหม่, ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่, ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่, นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่, นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ และผู้แทนสายการบินต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ฯลฯ