xs
xsm
sm
md
lg

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีค้านควบรวมองค์การสวนสัตว์ฯ ชี้เดินถอยหลัง-ไม่เอื้อประโยชน์ชุมชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีระดมพนักงานพร้อมชาวบ้านชุมชนใกล้เคียงเข้ายื่นหนังสือถึง ผวจ.เชียงใหม่คัดค้านการควบรวมกับองค์การสวนสัตว์ หลัง ครม.เห็นชอบแนวคิด ก.พ.ร.ให้รวมเป็นหน่วยงานในสังกัด ชี้ไนท์ซาฟารีกำลังเดินถูกทาง-ผลประกอบการดีขึ้น แต่หากไปสังกัดองค์กรสวนสัตว์จะส่งผลทั้งต่อพนักงาน ความร่วมมือกับชุมชน และแนวทางการบริหาร

วันนี้ (27 ก.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ผู้บริหาร พนักงาน และลูกจ้างของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี พร้อมด้วยนักเรียนจากโรงเรียนบ้านฟ่อน สมาชิกวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 3 ตำบล สมาชิกสมาคมผู้ใช้น้ำแม่แตง 5 อำเภอ 55 ตำบล กลุ่มผู้ขับรถสี่ล้อแดง และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงกับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี รวมจำนวนประมาณ 100 คน เดินทางเข้าพบหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อคัดค้านการควบรวมโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเข้ากับองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีนายชุมพล มุสิกานนท์ รองผู้จัดการพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นตัวแทนยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

การเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการเชียงใหม่ของชียงใหม่ไนท์ซาฟารีในครั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมาเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เสนอเห็นควรให้ควบรวมโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเข้ากับองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เนื่องจากเห็นว่าเป็นองค์การในลักษณะเดียวกัน โดยเสนอให้ยังคงสถานะเป็นหน่วยธุรกิจดังเช่นในปัจจุบัน ทำให้กลุ่มผู้บริหาร พนักงานและลูกจ้างของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีซึ่งไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวได้ออกมาเคลื่อนไหวและยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษาพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีโดยตำแหน่ง

นายชุมพล มุสิกานนท์ รองผู้จัดการพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กล่าวว่า การออกมาคัดค้านการควบรวมโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเข้ากับองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าข้อเสนอของ ก.พ.ร.ดังกล่าวจะก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีและประชาชนในพื้นที่โดยรอบ จากเดิมที่ในปัจจุบันองค์กรมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านธุรกิจและความสัมพันธ์กับชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง

แต่การควบรวมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเข้าเป็นส่วนหนึ่งขององค์การสวนสัตว์จะก่อให้เกิดปัญหาหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะในส่วนของลูกจ้างที่จะได้รับผลกระทบหากมีการยกเลิกเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี หรือความร่วมมือกับชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเดิมได้รับประโยชน์ทั้งจากการเป็นผู้ผลิตและจัดหาอาหารให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี รวมทั้งเป็นแหล่งงานและมีความร่วมมือในด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของชุมชน แต่หากเปลี่ยนไปเป็นองค์กรในสังกัดขององค์การสวนสัตว์ฯ เรื่องต่างๆ เหล่านี้ก็อาจจะลดความสำคัญลงไป นอกจากนี้ยังมีปัญหาในเชิงการบริหารจัดการ เนื่องจากหากให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไปสังกัดอยู่กับองค์การสวนสัตว์ฯ จะทำให้เชียงใหม่ไนท์วาฟารีมีสถานะเหมือนรัฐวิสาหกิจที่จะมีความคล่องตัวและความสามารถในการตัดสินใจต่างจากการเป็นองค์กรอิสระ

นายชุมพลกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ แนวทางขององค์การสวนสัตว์ฯ และเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีนั้นแตกต่างกัน แม้ว่าอาจจะมีรูปแบบเป็นสวนสัตว์เหมือนกัน กล่าวคือองค์การสวนสัตว์ฯ มุ่งเน้นไปที่การเป็นแหล่งความรู้และการอนุรักษ์ ในขณะที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเกิดขึ้นภายใต้แนวคิดเรื่องการเป็น Natural Theme Park ที่ไม่ได้มีแต่สวนสัตว์กลางคืนเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ทั้งต่อองค์กรเองและชุมชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงด้วย

นายชุมพลระบุว่า แนวความคิดเรื่องการควบรวมในลักษณะนี้เคยมีการนำเสนอขึ้นมา 2-3 ครั้งแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีและสถาบันการศึกษาที่ได้เชิญมาทำการศึกษาวิจัยได้นำเสนอข้อมูลว่าไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว แต่เมื่อในขณะนี้มีการนำเสนอแนวคิดดังกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง รวมทั้งรัฐบาลเห็นพ้องกับข้อเสนอของ ก.พ.ร. ที่พิจารณาโดยใช้มิติของรูปแบบที่เหมือนกันเพียงอย่างเดียว ทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจึงต้องเข้ามาร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เพื่อให้ช่วยนำเสนอข้อเท็จจริงในอีกแง่มุมหนึ่งไปถึงผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ

นอกจากนี้นายชุมพลยังให้ความเห็นว่า แนวทางในการพัฒนาเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีนั้นควรที่จะคงสภาพการเป็นองค์กรมหาชนเอาไว้ แต่อาจพิจารณาต่อไปในอนาคตว่าจะให้องค์กรมหาชนนี้ไปสังกัดอยู่กับหน่วยงานใด ซึ่งมีทั้งจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งก็ได้

ด้านนายดี จันทคลักษณ์ ประธานวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ 3 ตำบล กล่าวว่า ปัจจุบันเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีให้ความสำคัญและมีความร่วมมือที่ดีกับชุมชนทั้ง 3 ตำบลที่อยู่ใกล้เคียง ได้แก่ ตำบลหนองควาย ตำบลสุเทพ และตำบลแม่เหียะ ทั้งการให้วิสาหกิจขุมชนเป็นผู้ผลิตและจัดส่งอาหาร การมีส่วนร่วมในการจัดการด้านการท่องเที่ยว และเป็นตลาดแรงงาน แต่หากมีการควบรวมไปอยู่กับองค์การสวนสัตว์ก็จะเกิดคำถามว่าความร่วมมือต่างๆ ที่มีอยู่นี้จะยังคงเป็นไปตามเดิมหรือไม่ ซึ่งคนในท้องถิ่นเห็นว่าหากจะมีความเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นควรให้คนในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาและดูแล หรือหากองค์กรใหม่ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไปสังกัดนั้นสามารถให้คำรับรองได้ว่าเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะยังคงดำเนินงานตามนโยบายและข้อตกลงต่างๆ ที่ได้ทำไว้กับชุมชนก็เป็นสิ่งที่ชุมชนสามารถยอมรับได้

ขณะที่หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จะได้นำเรื่องดังกล่าวพร้อมกับข้อคิดเห็นจากทางท้องถิ่นเสนอต่อหน่วยงานในส่วนกลาง ทั้งนี้เห็นว่าที่ผ่านมาเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีถือเป็นองค์กรหนึ่งที่มีส่วนช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างชื่อเสียงให้จังหวัดเชียงใหม่มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่ควรจะคงเอาไว้ ส่วนแนวทางการให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมาสังกัดจังหวัดหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นเห็นว่ายังเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันในระยะยาวต่อไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้พิจารณา



นายชุมพล มุสิกานนท์ รองผู้จัดการพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
กำลังโหลดความคิดเห็น