สุโขทัย - พุทธศาสนิกชนชาวสุโขทัยต่างต้องสลดใจ และหมดโอกาสได้ชื่นชม และกราบไหว้ “พระตีนแลบ” พระพุทธรูปอายุกว่า 700 ปี และพระพุทธรูปเก่าแก่อีกหลายองค์มานานถึง 32 ปี หลังต้องนำไปประดิษฐานบนหอสูงปิดตายทางขึ้น-ลง พร้อมติดลูกกรง 2 ชั้น หนีโจรใจบาปที่จ้องขโมย
รายงานข่าวจากจังหวัดสุโขทัยแจ้งว่า ขณะนี้วัดเชิงคีรี หรือวัดตีนเขา หมู่ 3 ต.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ห่างจากมรดกโลก “อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย” ราว 2กิโลเมตร เป็นวัดที่เชื่อว่ามีมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย เนื่องจากมีโบราณสถานยืนยันความเก่าแก่ คือ ตัวโบสถ์ ใบเสมา และหลวงพ่อโต พระประธานที่เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ อายุกว่า 700 ปี ขนาดหน้าตักกว้าง 100 นิ้ว สูง 138 นิ้ว นับเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ที่มีหน้าตักกว้างที่สุดในสุโขทัย
นอกจากนี้ ภายในโบสถ์ยังมีพระพุทธรูปสัมฤทธิ์สมัยสุโขทัยอีก 2 องค์ ขนาดหน้าตักกว้าง 64 นิ้ว สูง 82 นิ้ว นามว่า พระปลัดซ้าย และพระปลัดขวา หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อสองพี่น้อง ประดิษฐานอยู่ด้วย
พระครูโชติ เสลคุณ เจ้าอาวาสวัดเชิงคีรี กล่าวว่า วัดแห่งนี้ได้มีการบูรณะสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2100 หรือ 455 ปีที่แล้ว แต่จากหลักฐานที่พบคือ โบสถ์ และพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ ยืนยันว่ามีมาตั้งแต่เมื่อ 700 กว่าปีมาแล้ว โดยตัวโบสถ์สร้างขึ้นด้วยอิฐและศิลาแลง ปัจจุบันรูปทรงเดิมยังคงอยู่ แต่ทว่าด้านหน้าโบสถ์ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่
“ในอดีตโบสถ์แห่งนี้เคยเป็นที่ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาของเจ้าเมืองสวรรคโลก เป็นสำนักเรียนปริยัติธรรมของพระสงฆ์ และเป็นที่สอบธรรมสนามหลวง ในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นอีกด้วย” พระครูโชติกล่าว และเล่าต่อว่า
และที่วัดเชิงคีรีนอกจากมีพระพุทธรูปเก่าแก่กว่า 700 ปี คือ หลวงพ่อโต และหลวงพ่อสองพี่น้องแล้ว ยังมี “หลวงพ่อนิรนาม กับพระพุทธบาทแลบ” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “พระตีนแลบ” เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 19 นิ้ว มีพุทธลักษณะงดงามมากองค์หนึ่ง และมีเท้าแลบยื่นออกมามากกว่าพระพุทธรูปที่พบเห็นโดยทั่วไป
แต่ปัจจุบันชาวบ้านไม่สามารถเข้ากราบไหว้ขอพรได้ เนื่องจากองค์พระตีนแลบ รวมทั้งหลวงพ่อนิรนาม กับพระพุทธรูปเก่าแก่อื่นๆ รวมเป็น 5 องค์ ทั้งหมดถูกอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ในกรงเหล็ก 2 ชั้น บนยอดมณฑปจตุรมุขที่สูงถึง 50 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้โจรใจบาปมาลักขโมยไปได้อีก
“เป็นความน่าสลดใจมานานถึง 32 ปีแล้ว ที่เราต้องนำพระพุทธรูปเก่าแก่ มีพุทธลักษณะสวยงามขึ้นไปไว้บนหอคอยสูงอย่างนั้น แทนที่ชาวบ้านจะได้ชม และได้กราบไหว้ขอพรอย่างใกล้ชิด แต่ไม่มีทางเลือกอื่น จำเป็นต้องรักษาสิ่งมีค่านี้ไว้ให้พ้นจากมือโจรที่จะมาลักขโมยเอาพระพุทธรูปไปขายอีก” พระครูโชติกล่าว
พระครูโชติยังได้เล่าเหตุการณ์โจรบุกปล้นวัดเมื่อปี พ.ศ. 2522 ให้ฟังว่า ขณะนั้นท่านเป็นพระลูกวัด ส่วนเจ้าอาวาสคือ พระสมุห์เจิง ณิปัญโญ หรืออาจารย์แมว ท่านยังคงจำได้ดีว่าระหว่างที่กำลังจำวัด สวดมนต์อยู่กับพระอีก 3 รูป ได้มีคนร้าย 4 คนถือปืนถือระเบิดบุกขึ้นมาบนกุฏิ แล้วจับพวกท่านขังไว้ในห้อง
จากนั้นก็พยายามพังลูกกรงในห้องกุฏิของเจ้าอาวาสเพื่อจะขโมยเอาพระตีนแลบ กับพระพุทธรูปเก่าแก่อีกหลายองค์ แต่ทำไม่สำเร็จเพราะเจ้าอาวาสที่เห็นเหตุการณ์อยู่นอกกุฏิวิ่งไปบอกให้ชาวบ้านมาช่วยเหลือไว้ได้ทัน ทำให้โจรได้ไปเพียงเงินที่ญาติโยมนำมาถวาย 6,000 กว่าบาทเท่านั้น
จากเหตุการณ์โจรบุกปล้นครั้งนั้น ทำให้เจ้าอาวาส คณะกรรมการวัด และชาวบ้าน เห็นชอบร่วมกันที่จะให้สร้างมณฑปจตุรมุขแบบปิดตายทางขึ้น-ลง เมื่อปี พ.ศ. 2523 เพื่อเก็บรักษาพระพุทธรูปล้ำค่าไว้รวม 7 องค์ ให้พ้นจากการถูกปล้นขโมย แต่โจรก็ไม่ได้ละความพยายามที่จะแอบปีนขึ้นไปงัดลูกกรงเหล็ก และสามารถขโมยเอาพระพุทธรูปอายุกว่า 400 ปีไปได้ 2 องค์ แต่ก็ยังนับว่าโชคดีที่พระพุทธรูปเก่าแก่กว่า 700 ปี 4 องค์ และสมัยกรุงรัตนโกสินทร์อีก 1 องค์ยังคงอยู่
อย่างไรก็ตาม หลังถูกโจรแอบปีนขึ้นไปงัดลูกกรงเหล็ก บนยอดมณฑปจัตุรมุข ขโมยเอาพระพุทธรูปไปได้ครั้งหนึ่งแล้ว ทางวัดจึงได้มีการติดตั้งลูกกรงเหล็กเพิ่มเป็น 2 ชั้น พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อเฝ้าระวังไว้อีกด้วย
“ก่อนที่วัดนี้จะถูกบุกปล้นพระพุทธรูปโบราณนั้น เคยมีโจรแอบมาลักตัดเศียรพระพุทธรูปในวัดไปได้หลายองค์แล้ว รวมทั้งเศียรของหลวงพ่อสองพี่น้องที่เก่าแก่กว่า 700 ปีด้วย ทำให้ปัจจุบันทางวัดต้องมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด และเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา” เจ้าอาวาสวัดเชิงคีรี กล่าว
ทั้งนี้ “วัดเชิงคีรี” สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่บนพื้นที่ 37 ไร่ 2 งาน เดิมเรียกว่า “วัดตีนเขา” เพราะตั้งอยู่ตีนเขาที่ชาวบ้านเรียกว่าเขาคีรี เป็นกลุ่มเทือกเขาเดียวกับเขาพระศรี ต.ศรีสัชนาลัย ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2456 และมีตำนานเล่าต่อกันมาว่า เมื่อครั้งเมืองสวรรคโลก ได้ย้ายไปอยู่ที่ ต.วังไม้ขอน (ตำบลหนึ่งของ อ.สวรรคโลก ปัจจุบัน) ได้มีการอัญเชิญหลวงพ่อโต พระพุทธรูปเก่าแก่สมัยสุโขทัย ไปยังเมืองสวรรคโลกแห่งใหม่ เพื่อไว้ประกอบพิธีสาบานของทหารสมัยนั้น
แต่ทว่าเมื่อขบวนเกวียนมาถึงบริเวณหน้าวัดเชิงคีรีแห่งนี้ เกวียนได้เกิดชำรุด ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ แม้กระทำทุกวีธีก็ไม่สามารถเดินทางได้ เจ้าเมืองสวรรคโลกจึงได้อัญเชิญหลวงพ่อโต ให้ประดิษฐานที่วัดเชิงคีรีมาจนถึงทุกวันนี้ และนำทหารมาสาบานตนเป็นประจำทุกปี
และภายในวัดเชิงคีรี ก็ยังมีโบราณสถานและโบราณวัตถุอีกมาก เช่น รอยพระพุทธบาทจำลอง ที่มีอายุการสร้างเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย รวมทั้งพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ อายุกว่า 700 ปี อีกหลายองค์