ลำปาง - ช้างพังวัย 20 ปี ที่ผู้ใจบุญซื้อเพื่อนำปล่อยป่าป่วยอาการทรุดหนัก สัตว์แพทย์ต้องระดมช่วย แต่ล่าสุดอาการยังหน้าเป็นห่วง
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า ขณะนี้ที่โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ออป. อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง สัตว์แพทย์ต้องพยายามทำการรักษาช้างพังนิดหน่อย อายุประมาณ 20 ปี โดยต้องใช้เครนพยุงร่างกายให้ยืนขึ้น เนื่องจากขาทั้งสี่ข้างอ่อนแรงไม่สามารถขยับเขยื้อน หรือพยุงตัวเองได้ สัตว์แพทย์ต้องให้ช้างนอนบนเบาะ เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเกิดแผลกดทับ สัตว์แพทย์ต้องล้างทำความสะอาดบาดแผลที่มีทั่วร่างกาย ฉีดยาปฏิชีวนะ ให้อาหารเสริมเติมน้ำเกลือเพื่อที่จะพยุงอาการช้างให้ได้นานที่สุด
ทั้งนี้ทีมสัตว์แพทย์พยายามให้การรักษาอย่างเต็มที่เพื่อที่จะให้ช้างมีชีวิตต่อไป
สำหรับพังนอดหน่อยเดิมเป็นช้าง จาก จ.สุรินทร์ โดยมีพ่อค้าช้างได้นำช้างพังนิดหน่อย มาขายให้กับผู้ใจบุญนำมาบริจาคเข้าโครงการคืนช้างสู่ธรรมชาติ เมื่อประมาณเดือน ม.ค.55 ที่ผ่านมา เจ้าของช้างแจ้งว่า
ช้างพังนิดหน่อย สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี แต่เมื่อช้างได้ขนย้ายเข้าสู่โครงการฯ ทางสัตวแพทย์ได้ตรวจพบว่า ช้างพังนิดหน่อยมีลักษณะขาหลังพิการ โดยมีการเคลื่อนของกระดูกสะโพกขาหลังขวา ทำให้เวลายืนขาหลังซ้ายขวาไม่เท่ากัน เมื่อเดิน ข้อเข่าทั้งสองของขาหลังมีลักษณะคล้ายข้อยึด ไม่สามารถงอขาได้ ช้างจึงต้องเดินด้วยความยากลำบาก ลักษณะคือเดินขาแข็งและตรง งอขาไม่ได้ ด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้การรับน้ำหนักเวลายืนหรือเดิน ไม่สมดุลกับน้ำหนักตัว ทำให้ฝ่าเท้าทั้งสองข้างเป็นแผลได้ง่าย และติดเชื้อ
สัตว์แพทย์ ได้มาทำการรักษาตั้งแต่เดือน มีนาคม 2555 เป็นต้นมา และได้เข้ามาทำการรักษาหลายครั้งจนอาการดีขึ้น และนำไปเลี้ยงในป่าต่อ จนล่าสุดวันที่ 7 มิถุนายน 2555 ช้างล้มป่วยไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงเนำรถเครนและรถบรรทุกเข้าไปนำตัวพังนิดหน่อย ออกมาทำการรักษา ที่ ร.พ.ช้าง ดำเนินการรักษาและให้ยาบำรุงได้ประมาณ 6 วัน จนเห็นว่าช้างแข็งแรงขึ้น ในวันที่ 13 มิถุนายน 2555 ได้ใช้รถเครน และรอกช่วยพยุงช้างจนสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
หลังจากนั้น ช้างก็แสดงอาการร่าเริง ปกติ กินอาหารได้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น แต่มีแผลกดทับติดเชื้อที่ลำตัวด้านซ้าย สะโพก และแผลที่เท้าหลังทั้งสองข้าง ทำให้ช้างไม่ยอมล้มตัวลงนอนโดยจะใช้วิธียืนพิงเสาหลับ และใช้งวงจับหลักเวลาหลับตอนกลางคืน คาดว่าช้างคงรู้ตัวว่าหากล้มนอนอีกครั้งจะไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีก
จนถึงวันที่ 8 ก.ค. 2555 ช้างได้ทรุดล้มลงคาดว่าขาหลังคงรับน้ำหนักมานานหลายวัน จนอ่อนล้าจนไม่สามารถรับน้ำหนักได้อีก หลังจากนั้นเป็นต้นมา ช้างก็ไม่พยายามที่จะลุกขึ้นยืนได้อีกเลย แม้จะพยายามใช้รอก และรถเครน ช่วยพยุงอีกหลายครั้ง ปรากฎว่า ขาหลังสองข้างไม่ยอมยันพื้นรับน้ำหนักเหมือนแต่ก่อน และมีภาวะการกินอาหารลดลง
อย่างไรก็ตาม สัตวแพทย์ก็ยังคงให้สารอาหารทางเส้นโลหิต และทำความสะอาดบาดแผลให้เป็นประจำทุกวันเพื่อที่จะยื้อชีวิตให้ได้นานที่สุด