หนองบัวลำภู - พบหนุ่มวัย 21 ปีชาวหนองบัวลำภูป่วยเป็นโรคประหลาด ลำคอแอ่น กล้ามเนื้อเกร็ง ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ด้านพ่อแม่วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ
วันนี้ (19 ก.ค.) เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากนายปิยะศักดิ์ คำสีลา นายอำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู แจ้งว่า ครอบครัวของนายณัฐวุฒิ และนางบุญชู ทาบทอง อายุ 55 และ 59 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 4 บ้านหนองแต้ ต.กุดดินจี่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู กำลังประสบปัญหาและได้รับความเดือดร้อนอันเนื่องมาจากต้องดูแลนายวีระพงษ์ ทาบทอง (น้องอ้น) บุตรชายคนโต อายุ 21 ปี ที่ป่วยเป็นโรคพิการคอแอ่นและเกร็งตลอดเวลาตามลำตัว
ซึ่งพ่อแม่และญาติที่ดูแลต้องคอยดึงแขน ขา นิ้ว ที่เกร็งให้คลายความเจ็บปวดตลอดทั้งวันทั้งคืนและไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และจำเป็นต้องส่งลูกชายอีกคนไปอยู่กับญาติเพื่อลดภาระการเลี้ยงดู
หลังผู้สื่อข่าวเดินทางถึงบ้านเลขที่ 34 หมู่ 4 บ้านหนองแต้ ต.กุดดินจี่ ซึ่งเป็นบ้านครึ่งปูนครั้งไม้ พบพ่อและแม่ของนายวีระพงษ์นั่งเฝ้าปรนนิบัติดูแลลูกชายอยู่บนแคร่หน้าบ้าน และได้มีนางมาสสุรีย์ ศรีพรหมมา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมด้วยนายปิยะศักดิ์ คำสีลา นายอำเภอนากลาง นายประมวล ลาภจิตต์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองบัวลำภู หัวหน้าบ้านพักเด็กจังหวัดหนองบัวลำภู คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดหนองบัวลำภู และคณะผู้บริหารจากเทศบาลตำบลนาหนองทุ่ม อำเภอนากลาง ร่วมให้กำลังใจ สอบถามสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวดังกล่าว
จากการสอบถามนางบุญชู ทาบทอง แม่ของนายวีระพงษ์ หรือน้องอ้น เล่าให้ฟังว่า น้องอ้นมีอาการเริ่มแรกเมื่ออายุ 13 ปี ขณะที่กำลังเรียน ม.1 เริ่มมีอาการคอแอ่นและเกร็งตามตัว จึงพาไปพบแพทย์ที่คลินิกแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองบัวลำภู หมอวิเคราะห์ว่าเป็นโรคที่ไม่ทราบสาเหตุ ให้ยาและกลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน
แต่อาการไม่ดีขึ้นจึงพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น ในขณะนั้นผู้ป่วยยังสามารถเดินได้ แพทย์โรงพยาบาลศรีนครินทร์แจ้งให้ทราบว่าเป็นโรคที่รักษาไม่หาย และไม่ทราบสาเหตุของโรค แพทย์ให้ยาแก้อาการเกร็ง และกลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน อาการก็ยังไม่ดีขึ้น
หลังจากนั้น 3 เดือนก็กลับไปพบแพทย์คนเดิมอีกครั้ง คราวนี้หมอได้เช็กสมอง ปรากฏว่ามีสะเก็ดเลือดค้างในสมอง จึงให้ยามารับประทาน 6 เดือนแต่อาการยังไม่ดีขึ้น ในขณะนั้นผู้ป่วยไม่สามารถเดินได้แล้ว หมอที่ศรีนครินทร์จึงส่งตัวไปโรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ และได้รับการผ่าตัดถึง 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 ผ่าตัดเปิดสมอง ครั้งที่ 2 ผ่าตัดที่หน้าอกด้านซ้ายเพื่อใส่แบตเตอรี่ไม่ให้คอแอ่น
กระทั่งผ่านไปประมาณ 2 เดือน ผู้ป่วยเริ่มมีอาการอักเสบแผลที่ผ่าตัด และอาการคอแอ่นก็ไม่ดีขึ้น ครั้งที่ 3 หมอจึงผ่าเอาแบตเตอรี่ออก และให้รับยามารักษาตัวอยู่ที่บ้าน
ล่าสุดอาการก็มีแต่ทรงกับทรุด สายตาเริ่มมองไม่เห็น ลำไส้ตีบ กินอาหารไม่ได้ ต้องรับประทานยาแก้ปวดอาการเกร็งและรักษาแผลจากเล็บจิกไปวันๆ
ด้านนายบุญเสาร์ มงคลบุญ ครูโรงเรียนบ้านหนองแต้ประชา เล่าให้ฟังว่า ในอดีตน้องอ้นเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนและมีสุขภาพแข็งแรง แต่ในขณะนี้น้องอ้นมีความเป็นอยู่ที่แสนสาหัส และเป็นที่น่าเวทนายิ่งนักเพราะไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตนเองได้เลย พ่อแม่และญาติต้องดูแลตลอดวัน จึงอยากวิงวอนผ่านสื่อมวลชนหาผู้ใจบุญได้ช่วยเหลือครอบครัวนี้เพื่อให้น้องอ้นมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้ผู้ป่วยได้รับเบี้ยยังชีพจากเทศบาลตำบลนาหนองทุ่ม เดือนละ 500 บาท
ประกอบกับพ่อแม่ของน้องอ้นต้องแบกรับหนี้สินทั้งในและนอกระบบร่วมห้าแสนบาท ทรัพย์ที่มีต้องขายเพื่อนำไปดูแลรักษา ซึ่งพ่อแม่ผู้ดูแลมีอาการท้อแท้ และกังวลใจในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และหนี้สินต่างๆ จึงอยากวิงวอนผ่านสื่อช่วยเป็นสื่อกลางหาผู้มีจิตเมตตายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้วย
พร้อมนี้ นางมาสสุรีย์ ศรีพรหมมา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองบัวลำภู ได้ดำเนินการช่วยเหลือเป็นเงินในเบื้องต้นสงเคราะห์ครอบครัว 2,000 บาท และนายอำเภอนากลางมอบเงินสด 2,000 บาท นายแพทย์ศราวุธ สันตินันตรักษ์ มอบเงิน 1,000 บาท หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวมอบเงินสด 1,000 บาท นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาหนองทุ่มมอบเงิน 2,000 บาท และคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดหนองบัวลำภูมอบเงินสดและถุงยังชีพให้การช่วยเหลือเป็นเบื้องต้น และพร้อมที่จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป