xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าท่าติงแก้น้ำท่วมเชียงใหม่ต้องดูเรื่องรุกล้ำด้วย หวั่นแค่ขุดลอกเอาไม่อยู่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เจ้าท่าแจงขุดลอกแม่น้ำปิงเชียงใหม่แม้เสร็จเรียบร้อยดีแต่อาจแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้หมด เหตุไม่ได้นำเรื่องรุกล้ำแม่น้ำปิงมาพิจารณาด้วย ระบุไม่ได้แก้เรื่องรุกล้ำทำให้หลายจุดขุดลอกไม่ได้-ทำได้ไม่เต็มที่ คาดหากน้ำมามากเหมือนปีก่อนหลายจุดจะยังท่วมเหมือนเดิม ชี้หากจะแก้ในระยะยาวทุกฝ่ายต้องระดมความเห็นแก้ปัญหารุกล้ำน้ำปิงคู่กันด้วย

นายอภิสิทธิ์ คำภิโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเชียงใหม่ กล่าวถึงการดำเนินการขุดลอกแม่น้ำปิงของจังหวัดเชียงใหม่ ตามโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยกรณีเร่งด่วน (Flagship Projects) ว่า แม้การดำเนินการขุดลอกในจุดต่างๆ ของแม่น้ำปิงตามโครงการจะดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ครบ 100% แล้ว แต่ยังเกรงว่าหากปริมาณน้ำในปีนี้มีจำนวนเท่ากับปีที่ผ่านมา แม้พื้นที่หลายจุดจะได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยลดลง แต่ในอีกหลายพื้นที่โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่อาจจะยังได้รับผลกระทบ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถทำการขุดลอกหรือขยายทางน้ำตามแผนงานได้ตามเป้าหมาย

นายอภิสิทธิ์เปิดเผยว่า การขุดลอกแม่น้ำปิงที่ได้ดำเนินการไปแล้วนั้น แม้จะดำเนินการเสร็จสิ้นตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ แต่ก็มีอุปสรรคในเบื้องต้นคือ ไม่สามารถขุดลอกพื้นที่เป้าหมายในหลายจุดได้ เนื่องจากพบปัญหาเกี่ยวกับการถือครองของประชาชน ขณะเดียวกันยังจำเป็นจะต้องกันพื้นที่ริมแม่น้ำส่วนหนึ่งไว้เป็นพื้นที่สาธารณะเพื่อกองดินและทรายที่ได้จากการขุดลอกเอาไว้เพื่อรอการตรวจสอบ เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการใหญ่ มีปริมาณดินทรายที่ขุดลอกขึ้นมาได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังไม่สามารถนำดินและทรายที่ขุดได้ไปกองไว้บนพื้นที่ของประชาชนหากไม่ได้รับการยินยอม และหากจะเจรจาขอความร่วมมือจากประชาชนก็อาจกินเวลาเกินกว่าแผนงานที่กำหนด

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อไปว่า แม้จะมีอุปสรรคในขั้นตอนการดำเนินงาน แต่ผลการดำเนินการขุดลอกดังกล่าวก็ช่วยขยายทางน้ำในพื้นที่หลายจุดที่เคยมีปัญหาทางน้ำคับแคบหรือตื้นเขิน ซึ่งจะทำให้น้ำสามารถไหลได้สะดวกและรวดเร็วขึ้นหากถึงฤดูน้ำหลาก โดยหลายจุดก่อนหน้าการขุดลอกนั้นมีความกว้างของแม่น้ำเพียง 40-50 เมตร หรือเส้นทางมีการเบี่ยงเบนให้ขยายออกมาอยู่ที่ระดับ 90-100 เมตร รวมทั้งจะทำให้เส้นทางน้ำกลับมาอยู่ในสภาพปกติอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงภายหลังการดำเนินการขุดลอกแม่น้ำปิงก็คือ แม้พื้นที่หลายจุดจะได้ดำเนินการขุดลอกเพื่อขยายทางน้ำไปแล้ว แต่ในพื้นที่อีกหลายจุด โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่นั้นยังไม่สามารถทำการขุดลอกได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากประสบปัญหาการรุกล้ำแม่น้ำปิงซึ่งยังไม่สามารถดำเนินการได้ โดยกรณีดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะต้องใช้เวลาในการเจรจากับผู้ที่รุกล้ำแม่น้ำปิงเพื่อหาทางออก ทำให้การแก้ไขปัญหารุกล้ำแม่น้ำปิงซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาแม่น้ำปิงทั้งระบบยังไม่มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เพราะหากจะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแล้วจะส่งผลให้การเตรียมการป้องกันปัญหาอุทกภัยไม่แล้วเสร็จทันเวลา ทำให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหันไปให้ความสำคัญที่การขุดลอกแม่น้ำปิงเป็นหลัก

โดยนายอภิสิทธิ์ชี้แจงว่า เมื่อไม่สามารถดำเนินการเจรจาแก้ไขปัญหาการรุกล้ำแม่น้ำปิงได้ ทำให้การขุดลอกพื้นที่หลายจุด โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่นั้นสามารถทำได้เพียงขุดลอกเพื่อขยายความลึก ส่วนจุดที่มีปัญหาก็จำเป็นจะต้องเว้นไว้ก่อน ซึ่งกรณีดังกล่าวจะส่งผลให้การไหลของน้ำในหลายจุดอาจเกิดปัญหา เพราะแม้ว่าการไหลของน้ำในพื้นที่ส่วนใหญ่จะดีขึ้นจากการขุดลอก แต่เมื่อน้ำไหลเข้าสู่พื้นที่ที่ไม่สามารถทำการขุดลอกหรือยังคงมีสิ่งที่กีดขวางทางน้ำ ก็อาจส่งผลให้น้ำเปลี่ยนทิศทางการไหลหรือเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ข้างเคียงได้

นายอภิสิทธิ์ระบุว่า กรณีในลักษณะดังกล่าวมีตัวอย่างมาแล้วจากการเกิดเหตุอุทกภัยในปีที่ผ่านมา โดยที่บริเวณชุมชนป่าพร้าวนอก ใกล้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ปรากฏว่าปริมาณน้ำที่ท่วมในพื้นที่มีความสูงของน้ำมากกว่าเมื่อครั้งเกิดเหตุอุทกภัยในปี 2548 ทั้งที่ปริมาณน้ำในปี 2548 มีมากกว่าปี 2554 ซึ่งสาเหตุนั้นก็เนื่องมาจากการที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ตั้งกีดขวางทางน้ำ ทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมชุมชนซึ่งอยู่ในฝั่งตรงข้าม ขณะที่ในปีนี้ปัญหาดังกล่าวยังไม่ได้รับการแก้ไข อีกทั้งยังมีการก่อสร้างเขื่อนของบางหน่วยงานในพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งกีดขวางทางน้ำเช่นกัน ทำให้กรมเจ้าท่าไม่สามารถดำเนินการขุดลอกแม่น้ำปิงได้ตามแผนที่วางเอาไว้

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเชียงใหม่ให้ความเห็นว่า การจะแก้ไขปัญหาอุทกภัยของจังหวัดเชียงใหม่ให้ได้ครบถ้วนทั้งระบบนั้น จำเป็นที่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องนำเรื่องการบุกรุกแม่น้ำปิงเข้ามาหารือและดำเนินการด้วย เพราะหากไม่มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ในระยะยาวแม้จะมีการขุดลอกแม่น้ำปิงแล้ว แต่หากน้ำมีปริมาณมาก เมื่อไหลผ่านจุดที่ยังมีปัญหาก็จะท่วมเหมือนเช่นที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม แม้ที่ผ่านมาจะมีการหารือกันถึงเรื่องดังกล่าวบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีการประชุมหารือหรือกำหนดแนวทางการดำเนินงานอย่างจริงจัง มีเพียงการยึดเอาแนวปฏิบัติที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกแม่น้ำปิงเคยกำหนดไว้เมื่อปี 2548 มาเป็นหลักในการทำงาน ได้แก่ การตรวจสอบการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ขอบเขตแม่น้ำปิงทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่เหนือสะพานนวรัฐขึ้นไป 10 กิโลเมตร และใต้สะพานนวรัฐลงมา 10 กิโลเมตร ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีการเข้าทำประโยชน์โดยที่ไม่มีเอกสารสิทธิใดๆ จำนวน 1,033 แปลง รวมทั้งดำเนินการขุดลอกขยายความกว้างของแม่น้ำปิงให้ได้ไม่ต่ำกว่า 90 เมตร

ดังนั้น ทางจังหวัดจึงควรเดินหน้าดำเนินการในเรื่องดังกล่าวควบคู่กันไป โดยหากมีการดำเนินการ ทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคเตรียมที่จะเสนอให้เชิญ พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง อดีตประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกแม่น้ำปิง เข้ามาร่วมให้ความคิดเห็น รวมทั้งอาจจะต้องมีการพิจารณาหลักเกณฑ์ต่างๆ อาทิ การกำหนดค่าชดเชยให้สอดคล้องกับระยะเวลาที่เปลี่ยนไปด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น