บุรีรัมย์ - สสจ.บุรีรัมย์ สั่งโรงพยาบาล และสาธารณสุขอำเภอติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเฝ้าระวังป้องกันโรคมือเท้าปาก เน้นเพิ่มความเข้มงวดการตรวจคัดกรองเด็กชาวกัมพูชาที่จะข้ามแดนเข้ามารักษาในไทย หวั่นนำเชื้อมาระบาดในพื้นที่ ขณะทั้งจังหวัดพบผู้ป่วยมือ เท้าปากแล้ว 131 ราย
วันนี้ (12 ก.ค.) นพ.สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้โรงพยาบาลชุมชน สาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่อยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาโดยเฉพาะ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่เปิดเป็นจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนเพื่อมนุษยธรรม ทุกวันศุกร์และวันเสาร์สัปดาห์ละ 2 วัน ให้มีการเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังโรคระบาด หลังมีเด็กชาวกัมพูชาป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมือ เท้า ปาก ด้วยเชื้อชนิดรุนแรง
พร้อมทั้งให้เพิ่มมาตรการตรวจคัดกรองเด็กชาวกัมพูชาที่จะข้ามแดนเข้าประเทศไทยมาขอรับบริการตรวจรักษาโรคยังโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อเข้ามาแพร่ระบาดสู่เด็กไทยในพื้นที่
ส่วนสถานการณ์ผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก ในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้พบผู้ป่วยแล้ว 131 ราย โดยผู้ป่วย ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
นพ.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ได้กำชับให้ศูนย์เด็กเล็กหรือสถานรับเลี้ยงเด็ก ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ได้เน้นดูแลเรื่องความสะอาด และไม่ควรให้เด็กใช้ภาชนะร่วมกัน เพราะโรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส เด็กที่ได้รับเชื้อส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการ หากพบเด็กมีอาการป่วย ปวดศีรษะ คลื่นไส้ มีตุ่มพองเล็กๆ ที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ลิ้น หรือกระพุ้งแก้ม ให้รีบพาไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาโดยเร็ว เพราะหากติดเชื้อรุนแรงหรือเด็กมีภูมิต้านทานต่ำ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
