ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชมรมอาสาสมัครผู้รักษาผลประโยชน์เมืองพัทยา ร้อง DSI หลังพบมีการลักใช้กระแสไฟหลวงเป็นจำนวนมาก สร้างความค่าเสียหายแก่ภาครัฐอย่างมหาศาล
วันนี้ (12 ก.ค.55) ที่สำนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายคมสัน เวชพันธ์ อายุ 25 ปี ประธานชมรมอาสาสมัครผู้รักษาผลประโยชน์เมืองพัทยา นำสมาชิก เข้ายื่นหนังสือต่อนายประวิทย์ ไชยบัวแดง หัวหน้ากรมสอบสวนพิเศษ DSI ภาคตะวันออก เพื่อร้องขอให้มีการตรวจสอบ และดำเนินคดีเอาผิดแก่กลุ่มธุรกิจบางประเภทที่ลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าของรัฐจนทำให้รัฐเกิดความเสียหาย รวมทั้งภาคประชาชนและภาคธุรกิจทั่วไปที่เกิดผลกระทบต่อการกระทำดังกล่าวอย่างกว้างขวาง
นายคมสัน กล่าวว่า ชมรมฯนี้จัดตั้งขึ้นด้วยกลุ่มบุคคลที่มีความหวังดีต่อบ้านเมือง ด้วยอุดมการณ์ที่จะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง เป็นกำลังเสริมสำคัญของประชาชนในการปกป้องผลประโยชน์ของบ้านเมืองจากกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดี รวมทั้งการกระทำและความประพฤติมิชอบของบุคคลบางกลุ่ม หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ และการมีส่วนร่วมในการสนับสนุนและผลักดันเพื่อให้เกิดการแก้ไขเปลี่ยนแปลงปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทุกสถาบันและภาพลักษณ์ของบ้านเมือง
ล่าสุดทางชมรมฯ ได้รับการร้องเรียนจากนายสายชล กลมสูงเนิน อายุ 25 ปี ผู้ประกอบการรับเหมาระบบสายสัญญาณโทรศัพท์ว่าไปพบผู้ประกอบกิจการบางประเภททำการลักลอบเชื่อมต่อกระแสไฟฟ้าจากเสาไฟฟ้าสาธารณะของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อนำไฟมาจ่ายเลี้ยงให้กับอุปกรณ์พาวเวอร์ซัพพลายในระบบโดยไม่มีการไม่ผ่านมิเตอร์วัดกระแสของการไฟฟ้า
กรณีดังกล่าวถือว่าสร้างความเสียหายให้กับรัฐเป็นอย่างมาก และจากการสำรวจตรวจสอบในพื้นที่เมืองพัทยาพบว่ามีการกระทำดังกล่าวอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเบื้องต้นนับได้จำนวน 19 จุด อาทิ บริเวณซอยกอไผ่ พัทยาใต้ สี่แยกไฟแดง ถนนพัท ยาสาย 3 หน้าธนาคารไทยพานิชย์ สาขาเทพประสิทธิ์ ซอยนกเขา ซอย 5 กรมที่ดิน ซอยเดย์ไนท์พัทยาใต้ และอื่นๆ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากมีการจงใจละเมิดและเข้าข่าย ลักทรัพย์สินของหลวง โดยมีการดำเนินการอย่างเปิดเผยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย แต่กลับพบว่าไม่มีการเข้าดำเนินการจากหน่วยงานที่ควบคุมและกำกับดูแลแต่อย่างใด ทั้งนี้จึงได้นำเรื่องเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี ไปแล้ว
นายคมสัน กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีการลักลอบกระทำมานานหลายเดือน โดยทำกันแบบกว้างขวางเป็นขบวนการและดำเนินการอย่างเปิดเผย ซึ่งจากการลักลอบเช่นนี้พบว่ามีกลุ่มธุรกิจหลากหลายที่ดำเนินการอยู่ทั้งผู้ประกอบการเคเบิ้ลทีวีบางราย ธุรกิจโรงแรมขนาดใหญ่และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งนอกจากรัฐจะเสียหายแล้ว กรณีนี้ยังส่งผลให้เกิดปัญหาไฟตก ไฟเกิน และไฟฟ้าดับ อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลไปถึงประชาชน ภาคธุรกิจ และองค์กรอื่นๆที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จึงได้ร้องเพื่อให้ DSI เข้ามาจัดการอย่างเด็ดขาด
ด้านนายประวิทย์ ไชยบัวแดง หัวหน้า DSI ภาคตะวันออกกล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่าเป็นความผิดทางอาญาเนื่องจากเป็นการลักทรัพย์ของหน่วยงานราชการซึ่งมีโทษจำคุก 5 ปี ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปยังหน่วย งานที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งจากเอกสารหลักฐานเบื้องต้นจากทางชมรมฯพบว่ามีการกระทำผิดจริง และมีพื้นที่กว้างขวางหลายจุด มูลค่าความเสียหายคงมีเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีการลักลอบมานาน โดยทาง สภ.เมืองพัทยา ก็ได้เรียกผู้เสียหายคือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ที่ลักลอบซึ่งคงมีหลายราย หลายประเภทจึงทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ
นอกจากนี้ทาง DSI ภาคตะวันออก ยังได้ประสานไปยังอธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ เพื่อขออนุญาตทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริง เนื่องจากพบว่าอาจมีเรื่องของผลประโยชน์และมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งคงต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อเอาผิดทางกฎหมายต่อไป