กาญจนบุรี - รอง ผวจ.กาญจนบุรี เป็นประธานพิธีเปิดการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าและล่าสัตว์ป่า ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ
วันนี้ (30 มิ.ย.) ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ รอง ผวจ.กาญจนบุรี เป็นประธานพิธีเปิดการสนธิกำลังป้องกันการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าและล่าสัตว์ป่า ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยมี ดร.ธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายยุทธชัย ปัทมสนธิ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 14 ทหารจากกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 9 และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ 300 นาย เข้าร่วม
ดร.ธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ด้วยปรากฏสถานการณ์การทำร้ายช้าง และการลักลอบล่าช้างป่าในพื้นที่ป่าแก่งกระจาน-กุยบุรี ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และมีกระแสข่าวว่า กลุ่มลักลอบล่าช้างป่าดังกล่าวเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ประกอบกับสถานการณ์การบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อปลูกพืชผลทางการเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี 7 อุทยาน 2 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ได้ร่วมกันจัดทำแผนสนธิกำลังป้องกันการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าและล่าสัตว์ป่าในพื้นที่อนุรักษ์จังหวัดกาญจนบุรีขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพ และประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันรักษาป่า
โดยมุ่งเน้นในพื้นที่อนุรักษ์ที่มีความเสี่ยง และเป็นพื้นที่ล่อแหลมต่อการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าและล่าสัตว์ป่า ตามระยะเวลาในการดำเนินการตามแผนสนธิกำลังในช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน 2555 การสนธิกำลังในครั้งนี้ นอกจากกิจกรรมการลาดตระเวนตรวจป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าและล่าสัตว์แล้ว คณะผู้จัดงานได้เสริมภารกิจการติดตามตรวจสอบรั้วไฟฟ้าที่ราษฎรสร้างขึ้นเองในการป้องกันช้างป่าเข้าทำลายทรัพย์สินและพืชไร่ เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพ และคุณภาพของรั้วไฟฟ้าที่ราษฎรสร้างขึ้นว่ามีอันตรายต่อช้างป่าและมนุษย์หรือไม่
โดยการดำเนินงาน คณะผู้จัดงานได้เชิญคณะอาจารย์จากวิทยาลัยเทคนิคกาญจนบุรีผู้มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านรั้วไฟฟ้ามาร่วมการตรวจสอบในครั้งนี้ สำหรับการดำเนินงานสนธิกำลังตามแผนสนธิกำลังที่ผ่านมา สามารถจับกุมดำเนินคดี กับผู้กระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้จำนวน 119 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 23 คน ตรวจยึดไม้ 151 ท่อน ไม้แปรรูป 214 แผ่น/เหลี่ยม พื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกจำนวน 1,034-3-55 ไร่
ด้านว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ รอง ผวจ.กาญจนบุรี กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาช้างป่าของจังหวัดกาญจนบุรี ที่ได้ดำเนินการร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นั้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการแล้ว คือ จัดชุดลาดตระเวนเฝ้าระวังและผลักดันให้ช้างกลับคืนสู่ป่า ปรับปรุงแหล่งน้ำแหล่งอาหารในป่าให้มีความอุดมสมบูรณ์ สร้างแนวป้องกันช้างป่าออกจากป่าโดยการสร้างรั้วไฟฟ้า และขุดคูดัก ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจถึงการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับช้างป่า แนะนำให้เกษตรกรเปลี่ยนแปลงการปลูกพืชที่ไม่ใช่อาหารช้าง หรือปรับเปลี่ยนอาชีพ และสำรวจ เก็บข้อมูล และวิเคราะห์พื้นที่เพื่อทำแนวเชื่อมต่อให้ช้างเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่อื่นๆ ได้ และสำหรับพื้นที่ที่มาตรการเหล่านี้ยังไปไม่ทั่วถึง
จึงขอฝากไปถึงราษฎรในชุมชนที่จัดทำรั้วไฟฟ้าขึ้นเอง ได้โปรดให้ความระมัดระวังตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้ามิให้เป็นอันตรายต่อผู้คน หรือสัตว์ป่า และฝากพี่น้องสื่อมวลชนช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า ว่าอย่าได้ทำอันตราย หรือทำร้ายช้างป่า หากทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากการกระทำของช้างป่าให้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่ เพื่อขอรับค่าชดเชยจากกองทุนช่วยเหลืออาหารช้างป่าแห่งประเทศไทย ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้จัดตั้งขึ้น
