กาญจนบุรี - จังหวัดกาญจนบุรี ระดมสมองแก้ปัญหาช้างป่า และช้างบ้าน ทางกรมอุทยานฯ เสนอทหารขอดูแลพื้นที่ป่าบ้านสลอบจำนวน 5.6 หมื่นไร่ เพื่อให้เป็นเขตห้ามล่า และเป็นที่อยู่อาศัยของช้างป่า เพื่อป้องกันช้างป่าสลักพระถูกยิง รวมทั้งคนบุกที่หากินของช้างด้วย
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในที่ประชุม โดยมีนายสัตวแพทย์อลงกรณ์ มหรรณพ ที่ปรึกษาส่วนพระองค์สวนจิตรลดา นายยุทธชัย ปัทมสนธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พ.อ.ภพอนันต์ เหลือภานุวัฒน์ รอง ผอ.กอ.รมน.จ.กาญจนบุรี ผู้แทนกองพลทหารราบที่ 9 ผู้แทน จทบ.กาญจนบุรี ปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี สัตวแพทย์จาก ม.มหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี นายอำเภอไทรโยค นายอำเภอบ่อพลอย นายอำเภอหนองปรือ นายอำเภอทองผาภูมิ หัวหน้าอุทยานฯ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และ ทสจ.กาญจนบุรี ร่วมประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาช้างป่า และช้างบ้านในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี
โดยนายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้กล่าวในที่ประชุมว่า เหตุผลที่ช้างป่าถูกล่ามาจากคนที่ต้องการพื้นที่ของช้าง ซึ่งที่ผ่านมา 1 ปี มีช้างป่าถูกทำร้ายจนเสียชีวิต 2 ตัวคือ ช้างพังกาญจนา และช้างป่าจากสลักพระ ถือเป็นตัวอย่างที่ทุกหน่วยงานต้องช่วยกันในการดูแลมิให้เกิดการล่าช้างป่า หรือทำร้ายช้างป่า โดยแนวทางในการช่วยแก้ไขปัญหา คือ เพิ่มแหล่งอาหาร และแหล่งน้ำในพื้นที่ป่าให้พอเพียงสำหรับช้างป่า การดูแลต้องให้ช้างอยู่กับคนได้อย่างเหมาะสม
“การแก้ปัญหาช้างป่าต้องทำให้สังคมโลกยอมรับในแนวทางการแก้ปัญหา เนื่องจากปัจจุบัน ป่าไม้ไม่สมบูรณ์ต้องช่วยกันเพิ่มความสมบูรณ์แก่ป่า และหาแนวร่วมเครือข่ายชุมชนที่อยู่ใกล้แนวชายป่าเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยแก้ปัญหาก็จะเป็นการลดปัญหาขัดแย้งระหว่างคนกับช้างได้ โดยปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากมนุษย์เข้าไปบุกรุกที่อยู่ของช้าง”
ส่วนนายยุทธชัย ปัทมสนธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้เสนอต่อที่ประชุมว่า หลังจากเกิดปัญหายิงช่างป่าสลักพระ จนเสียชีวิตเนื่องจากปัญหาพื้นที่หากินของช้างลดน้อยลง จึงทำให้ช้างป่าออกมาหากินอาหารนอกพื้นที่ของมัน ดังนั้น ทางกรมอุทยานฯ อยากเสนอไปยังกองทัพบกว่า ขอดูแลพื้นที่ป่าบ้านสลอบจำนวน 5.6 หมื่นไร่ เพื่อให้เป็นเขตห้ามล่า และเป็นที่อยู่อาศัยของช้างป่าต่อไป ส่วนแนวทางการช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหารต้องมีการเข้าไปปลูกเพิ่มแหล่งอาหาร และเพิ่มแหล่งน้ำให้แก่ช้างในพื้นที่ที่ช้างมีจำนวนมากขึ้นจึงจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน
ส่วนความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่ยิงช้างป่าสลักพระนั้น พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า การสอบสวนคืบหน้าไปมาก ได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว 5 ปาก ส่วนการสืบสวน ทั้ง ตร.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี และชุดสืบสวน สภ.บ่อพลอย ลงพื้นที่บ้านสลอบ สามารถได้เบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายรายนี้มากพอสมควร แต่ต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานให้รอบคอบ หากครบถ้วนสมบูรณ์ก็จะเสนอศาลขออนุมัติออกหมายจับทันที