กาญจนบุรี - "นายสัตวแพทย์อลงกรณ์ มหรรณพ ที่ปรึกษาส่วนพระองค์สวนจิตรลดา” ลงพื้นที่ดูช้างป่าสลักพระ กาญจนบุรี สลดอาการโคม่า กรมอุทยานฯ ระดมทีมสัตวแพทย์เสริม ม.มหิดล เพื่อยื้อชีวิตเต็มที่
ความคืบหน้าการช่วยเหลือช้างป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลา 10.20 น.วันนี้ (5 มิ.ย.) นายสัตวแพทย์อลงกรณ์ มหรรณพ ที่ปรึกษาส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เดินทางลงพื้นที่ป่าชายขอบติดต่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระในพื้นที่ หมู่ 10 บ้านเขาสิงโต ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจดูอาการของช้างป่าสลักพระที่ได้รับบาดเจ็บ โดยมี นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ นายธนะบดี เอี่ยมสุขประเสริฐ หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 1 สปป.ที่ 1 (ภาคกลาง) พ.ท.วินิจ สว่างเนตร ผบ.ร.19 พัน 2 พ.ต.อ.โกศลยามา ผกก.สภ.บ่อพลอย และทีมสัตวแพทย์จาก ม.มหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี นำโดยนายสัตวแพทย์ ดร.มาโนชญ์ ยินดี ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิทยาเขต คณะสัตวแพทย์ ม.มหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี สัตวแพทย์หญิง สรรธิดา ห.เพียรเจริญ สัตวแพทย์ประจำ รพ.ปศุสัตว์และสัตว์ป่า ม.มหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี ให้การต้อนรับ
โดยนายสัตวแพทย์อลงกรณ์ ได้เดินเข้าตรวจดูสภาพช้างที่ป่วย และได้สอบถามอาการและการรักษาจากนายสัตวแพทย์ ดร.มาโนชญ์ อย่างละเอียด ต่อจากนั้น ได้ดูสภาพอาการบาดเจ็บ โดยเฉพาะบาดแผลที่สะบักสะโพก ขาซ้าย และขาขวา โดยเฉพาะให้ความสนใจดูที่บาดแผลบริเวณขาขวาที่มีอาการอักเสบมากที่สุด จากนั้นสอบถามแนวทางในการปฏิบัติงานต่อไป
หลังจากนั้น นายสัตวแพทย์อลงกรณ์ มหรรณพ ที่ปรึกษาส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวว่าช้างถูกยิงบาดเจ็บก็มาดูเพื่อช่วยกันในเรื่องต่างๆ โดยการลงพื้นที่พบทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่เข้มแข็งมาก จากที่ได้รับฟังจากอาจารย์หมอมาโนชญ์ ทราบว่าช้างถูกยิง และมีอาการติดเชื้อมากพอสมควรจากที่ได้ดูพบว่า ช้างมีสภาพที่อิดโรย และซูบผอม คาดว่าน่าจะเกิดจากการที่ถูกยิงมานานกว่า 1 เดือน แล้วทำให้บาดแผลเกิดอักเสบมากจนช้างไม่สามารถกินอาหารได้ ซูบผอม และอ่อนเพลียมาก ธรรมดาช้างจะหนีคน แต่ครั้งนี้คงทนไม่ไหวจึงเข้าหาคนให้ช่วยเหลือ
นายสัตวแพทย์อลงกรณ์ เปิดเผยถึงสภาพอาการว่า จากการที่ได้ตรวจดูสภาพช้าง พบว่าตอนนี้อาการยังน่าเป็นห่วง เพราะช้างที่อยู่ได้ตอนนี้น่าจะมาจากการที่ทีมสัตวแพทย์ช่วยไว้ โดยให้น้ำเกลือ ยาปฏิชีวนะ ยาบำรุงตลอดเวลา และหากสดชื่นมากขึ้น และมีแรงสามารถลุกยืนได้ก็เป็นเรื่องที่น่าดีใจ แต่ตอนนี้ที่น่าห่วงคือ บาดแผลที่ข้อเท้าหน้าด้านขวามีอาการติดเชื้อมากและช้างนอนนานเกิน 24 ชั่วโมง จะทำให้กระทบกับการไหลเวียนของเลือด ตนได้แนะนำให้ทำคันดินในกรณีที่จะช่วยเหลือพยุงหลังช้างด้านขวาสูงขึ้นเพื่อให้เลือดหมุนเวียนได้สะดวกก็จะช่วยให้ช้างมีโอกาสรอดได้ แต่อาการในช่วงนี้น่าเป็นห่วงมาก เพราะสามารถเกิดอาการซ็อกติดเชื้อในกระแสเลือดได้ตลอดเวลา แต่ก็เป็นกำลังใจให้ทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ทุ่มเทในการช่วยช้างในครั้งนี้
ต่อมา เวลา 11.30 น.นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งการให้นายบรรพต มาลีหวล หัวหน้าฝ่ายสุขภาพสัตว์ป่า กรมอุทยานฯ พร้อมทีมสัตวแพทย์ของกรมอุทยาน 3 นาย ประกอบด้วย นายสัตวแพทย์บุรฉัตร ตันประดิษฐ์, สัตวแพทย์หญิงกิตติยาภรณ์ เอี่ยมสะอาด, สัตวแพทย์หญิงศิรินทิพย์ เข็มทอง และผู้ช่วยสัตวแพทย์ พร้อมอุปกรณ์การแพทย์ได้เข้ามาร่วมทีมสัตวแพทย์เพื่อช่วยช้างในครั้งนี้ พร้อมกับนายสัตวแพทย์สามารถ ประสิทธิ์ผล สัตวแพทย์ประจำปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี ที่เดินทางมาร่วมในการรักษาอาการของช้างป่าตัวนี้
โดยนายสัตวแพทย์ ดร.มาโนชญ์ ได้เป็นหัวหน้าทีมในการวางแผนในการปฏิบัติโดยเบื้องต้นเริ่มให้ยากระตุ้น และให้น้ำเกลือเพิ่มอีก 1 จุด เป็นให้น้ำเกลือ 2 จุด และเพิ่มยาบำรุงวิตามินเกลือแร่เพื่อกระตุ้นให้ช้างมีแรง และกำลังเพื่อเตรียมพร้อมในการดันเนินดินเพื่อรองรับหลังช้างให้สูงขึ้น และเตรียมยกทดลองยกช้างให้ยืนขึ้นต่อไป