ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่จัดเสวนาผู้นำศาสนาภาคใต้สันติสุข เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ได้รับผลกระทบและประชาชนทั่วไป โดยมีผู้นำศาสนาทุกศาสนาในจังหวัดเชียงใหม่ร่วมแสดงมุมมองของผู้นำศาสนาต่อปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ และข้อเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาภาคใต้สันติสุข
นายชูโชค ทองตาล่วง ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทวีความรุนแรงและปรากฏนรูปแบบที่แตกต่าง สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อประเทศไทยทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ประชาชนเกิดความไม่เชื่อมั่นในการทำงานของภาครัฐ ระบบการรักษาความปลอดภัยและสถานการณ์ข่าวที่ขาดความชัดเจน
โดยรัฐบาลได้กำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วน มุ่งเน้นการยุติความรุนแรงด้วยการประชาสัมพันธ์สร้างความสมานฉันท์ ตลอดจนการเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ดังนั้น สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ในฐานะหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของรัฐซึ่งมีหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินงานดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการประชาสัมพันธ์ตามแผนพัฒนาในเขตพิเศษเฉพาะกิจในจังหวัดชายแดนใต้จังหวัดเชียงใหม่ขึ้น ในวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2555 เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมเชียงใหม่ออคิด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ได้รับผลกระทบและประชาชนทั่วไปที่อยู่ในพื้นที่นอกจังหวัดชายแดนใต้ โดยกำหนดจัดการเสวนาประเด็น “ผู้นำศาสนาภาคใต้สันติสุข” ขึ้น กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ผู้นำศาสนาทุกศาสนาในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 30 รูป/คน ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นมุมมองของผู้นำศาสนาต่อปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ และข้อเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาภาคใต้สันติสุขต่อไป
ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดเสวนา “ผู้นำศาสนาภาคใต้สันติสุข” ในครั้งนี้เป็นการสื่อสารให้สังคมทั้งภายในและภายนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เป็นจริงและบริบทเฉพาะของพื้นที่ การจัดการปัญหาตามหลักความเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา รวมทั้งตามแนวทางสันติวิธี เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจและมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ต่อการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ตลอดจนส่งเสริมการสะท้อนความรู้สึกและข้อข้องใจต่างๆ ของประชาชนที่เกี่ยวโยงกับความผิดพลาดในนโยบายของรัฐ และการประพฤติปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ นอกจากนั้นยังเป็นการเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนบนพื้นฐานของความไว้วางใจซึ่งกันและกัน โดยให้ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นประชาชนในพื้นที่ ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา ภาควิชาการ และภาคประชาสังคมทั้งในและนอกพื้นที่ ได้มีส่วนร่วมในระดับที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายและการปฏิบัติอย่างแท้จริง ซึ่งรัฐต้องมีความจริงใจรับฟ้งเสียงของประชาชนในพื้นที่ และนำมาดำเนินการให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างจริงจัง
นายชูโชค ทองตาล่วง ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทวีความรุนแรงและปรากฏนรูปแบบที่แตกต่าง สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อประเทศไทยทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ประชาชนเกิดความไม่เชื่อมั่นในการทำงานของภาครัฐ ระบบการรักษาความปลอดภัยและสถานการณ์ข่าวที่ขาดความชัดเจน
โดยรัฐบาลได้กำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วน มุ่งเน้นการยุติความรุนแรงด้วยการประชาสัมพันธ์สร้างความสมานฉันท์ ตลอดจนการเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ดังนั้น สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ในฐานะหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของรัฐซึ่งมีหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินงานดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการประชาสัมพันธ์ตามแผนพัฒนาในเขตพิเศษเฉพาะกิจในจังหวัดชายแดนใต้จังหวัดเชียงใหม่ขึ้น ในวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2555 เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมเชียงใหม่ออคิด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ได้รับผลกระทบและประชาชนทั่วไปที่อยู่ในพื้นที่นอกจังหวัดชายแดนใต้ โดยกำหนดจัดการเสวนาประเด็น “ผู้นำศาสนาภาคใต้สันติสุข” ขึ้น กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ผู้นำศาสนาทุกศาสนาในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 30 รูป/คน ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นมุมมองของผู้นำศาสนาต่อปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ และข้อเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาภาคใต้สันติสุขต่อไป
ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดเสวนา “ผู้นำศาสนาภาคใต้สันติสุข” ในครั้งนี้เป็นการสื่อสารให้สังคมทั้งภายในและภายนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เป็นจริงและบริบทเฉพาะของพื้นที่ การจัดการปัญหาตามหลักความเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา รวมทั้งตามแนวทางสันติวิธี เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจและมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ต่อการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ตลอดจนส่งเสริมการสะท้อนความรู้สึกและข้อข้องใจต่างๆ ของประชาชนที่เกี่ยวโยงกับความผิดพลาดในนโยบายของรัฐ และการประพฤติปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ นอกจากนั้นยังเป็นการเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนบนพื้นฐานของความไว้วางใจซึ่งกันและกัน โดยให้ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นประชาชนในพื้นที่ ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา ภาควิชาการ และภาคประชาสังคมทั้งในและนอกพื้นที่ ได้มีส่วนร่วมในระดับที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายและการปฏิบัติอย่างแท้จริง ซึ่งรัฐต้องมีความจริงใจรับฟ้งเสียงของประชาชนในพื้นที่ และนำมาดำเนินการให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างจริงจัง