ยะลา - จังหวัดยะลาจัดโครงการสะพาน สร้างสำนึกพลเมือง เพื่อส่งเสริมประชาธิปไตย และธรรมาภิบาลในท้องถิ่น โดยมีมหาวิทยาลัยราชภัฏเป็นแกนในการขับเคลื่อน
วันนี้ (21 พ.ค.) ที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานเปิดโครงการสะพาน สร้างสำนึกพลเมือง เพื่อส่งเสริมประชาธิปไตย และธรรมาภิบาลในท้องถิ่น โดยมี ผศ.ไกรสร ศรีไตรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ผศ.ดร.สมบัติ โยธาทิพย์ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ หัวหน้าส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา ผู้นำสตรี ผู้นำองค์กรต่างๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้การต้อนรับ และเข้าร่วมในการประชุมเสวนาเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการนำเสนอผลการวิจัยการรับรู้ของพลเมืองกับการเสริมสร้างประชาธิปไตยของประชาชนในพื้นที่ จ.ยะลา และจังหวัดใกล้เคียง โดยมีการเสวนาในหัวข้อ “วิถีประชาธิปไตยในจังหวัดชายแดนใต้” โดย ผศ.เกสรี ลัดเลีย คณบดีคณะครุศาสตร์ อาจารย์กูมัจดี ยามิรูเด็ง ผู้จัดการศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และ คุณพงษ์พันธ์ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ กรรมการสถานศึกษา นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอผลการวิจัยโดยนักศึกษาทุนวิจัยระดับปริญญาตรี และปริญญาโท ของมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาอีกด้วย
นายรุสพี มะดีเยาะ นักศึกษา ชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาภาษาอังกฤษ (ค.บ.) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเองเป็นนักศึกษาก็มีแนวทางหนึ่งในการส่งเสริมประชาธิปไตย เช่น โครงการที่ได้จัดขึ้นในวันนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างจิตสำนึกให้พลเมือง ที่อยากจะมีส่วนร่วมด้านประชาธิปไตยเพิ่มมากขึ้น มีการจัดกิจกรรม และรูปแบบให้มีความหลากหลายมากขึ้น จะสามารถที่จะเพิ่มศักยภาพให้แก่กลุ่ม หรือองค์กรต่างๆ ในพื้นที่ ให้มีประสิทธิภาพด้านประชาธิปไตย โดยที่ผ่านมา ภาคประชาสังคมหลายๆ ส่วน และองค์กรที่เป็นอิสระ ที่ไม่ขึ้นตรงต่อรัฐ ให้มีส่วนร่วมมากขึ้น มีการลงพื้นที่เพื่อนำเสนองานด้านประชาธิปไตย และทำรูปแบบในการนำเสนอวิจัยที่ทำให้ผู้มีส่วนร่วม เช่น ชาวบ้าน ให้มีส่วนร่วมในการสร้างจิตสำนึกมากยิ่งขึ้น
นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ในปัจจุบัน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.ยะลา ภาคประชาสังคมมีความตื่นตัวในเรื่องประชาธิปไตยและธรรมาภิบาลในท้องถิ่นอย่างสูง มีอยู่หลายต่อหลายกลุ่มด้วยกัน ในแต่ละกลุ่มมีบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่จำเป็นที่ต้องได้รับการพัฒนาก็คือ ในกลุ่มของภาคประชาสังคมเองก็ต้องพบปะกัน เพื่อกำหนดทิศทางในการแก้ไขปัญหา และอุปสรรคในการขับเคลื่อนต่อไป ในส่วนนี้ก็ยังขาดอยู่ ยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร
เพราะฉะนั้นในส่วนนี้ทางฝ่ายวิชาการ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ได้มาเป็นแกนกลางในการขับเคลื่อน ตนเองคิดว่าในจุดนี้มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง เพื่อจะได้เป็นตัวประสานกับหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะกับทางจังหวัด และราชการในส่วนกลาง ที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ และประชาชนจะได้มีการกำหนดแนวทาง ทิศทาง และหนทางที่ปฏิบัติ เพื่อจะให้ภาคประชาสังคมเองได้ขับเคลื่อนสังคม ให้สังคมเป็นสังคมประชาธิปไตย และทำให้การปฏิบัติงานของทุกภาคส่วนในพื้นที่มีธรรมาภิบาล และมีการบริการสาธารณะให้ประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่ต่อไป
