สุรินทร์ -ชาวเมืองช้างสุดทนทุกข์ ร้องนายทุนแสบสร้างโรงงาน 2 แห่งขนาบข้างที่นา 18 ไร่ปิดทางระบายน้ำพร้อมปล่อยน้ำเสีย ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงที่นา ทำน้ำท่วมขังเน่าเสียไม่สามารถทำนาปลูกข้าวได้ เดือดร้อนหนักมากว่า 4 ปี บากหน้าตระเวนร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องแต่ไร้เหลียวแล ซ้ำร้ายถูกเจ้าของ รง.ขู่อวดเป็นโจกนายทุน “แก๊งแดง” สุรินทร์ มีญาติเป็น ส.ส. “เพื่อแม้ว” วิ่งเคลียร์ “นายกฯ นางโพย” ได้หมด เผยล่าสุดถวายฎีกา “ในหลวง”
วันนี้ (28 มิ.ย.) นางสุทธิวรรณ คนใหญ่ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 บ้านนาเกา ต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับปัญหาได้รับความเดือดร้อนกรณีโรงงานขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ โรงงานไทยสตีลคอน และโรงงานทวีกิจคอนกรีต ทำการก่อสร้างโรงงานขนาบพื้นที่นาจำนวน 18 ไร่ทั้งสองข้าง ปิดทางระบายน้ำ พร้อมปล่อยน้ำเสียและทิ้งขยะสิ่งปฏิกูลลงมาในที่นาจนไม่สามารถทำนาปลูกข้าวได้อีก สร้างความเดือดร้อนมานานกว่า 4 ปี
นางสุทธิวรรณ คนใหญ่ เล่าว่า ตนมีที่ดินทำกินเป็นที่นาพื้นที่ทั้งหมด 18 ไร่ เมื่อช่วง 4 ปีที่ผ่านมาได้มีผู้มาก่อสร้างโรงงานไทยสตีลคอน เมื่อเปิดทำการผลิตได้ปล่อยน้ำเสียไหลออกจากโรงงานเข้ามายังที่นาตนทำให้ทำนาปลูกข้าวไม่ได้ เมื่อแจ้งทางโรงงานก็หยุดไปสักพัก แล้วก็ปล่อยน้ำเสียเข้ามาในที่นาอีกเช่นเดิม
จากนั้นเมื่อปีที่ผ่านมาเจ้าของโรงงานรายเดิมได้ก่อสร้างโรงงานทวีกิจคอนกรีต โดยถมดินปรับพื้นที่สร้างโรงงานแห่งที่สองขนาบที่นาของตนเพิ่มอีกด้านหนึ่ง และปิดทางน้ำทำให้น้ำท่วมขังสูงยิ่งทำให้ทำนาไม่ได้เลยเพราะไม่มีทางระบายน้ำ อีกทั้งโรงงานสร้างใหม่นี้ไม่ได้ทำรั้ว ดินที่ถมปรับพื้นที่ก็ไหลเข้ามายังที่นาทำให้น้ำท่วมหนักขึ้นไปอีก แถมคนงานของโรงงานยังทิ้งขยะสิ่งปฏิกูลออกมาทำให้สกปรกสร้างความเดือดร้อนแก่ตนเป็นอย่างมาก
นางสุทธิวรรณกล่าวต่อว่า อยากให้โรงงานทั้ง 2 แห่งจัดสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย ระบายน้ำเสียไปในพื้นที่อื่น ไม่ใช่ระบายน้ำเสียเข้ามายังที่นาของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน แต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลืออะไรได้เลย โรงงานยังคงปล่อยน้ำเสียเข้าในที่นาเช่นเดิม เมื่อก่อนเคยทำนาขายข้าวได้บ้าง แต่ขณะนี้ทำนาไม่ได้เลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะทางโรงงานต้องการบีบบังคับซื้อที่ดินหรือไม่ นางสุทธิวรรณบอกว่า ไม่ทราบเหมือนกันแต่มีคนมาเตือนว่าโรงงานบีบทางอ้อมต้องการซื้อที่ดินหรือเปล่า อย่างไรก็ตามตนอยากให้โรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือแก้ไขปัญหาไม่ปล่อยน้ำเสียและสิ่งปฏิกูลเข้ามาในที่นาตนอีก เพราะขณะนี้ต้นข้าวที่ปลูกไว้ในนากำลังงามสุดท้ายจะเน่าตายเช่นเดิม และหากฝนตกมามากน้ำก็จะท่วมขังสูง ต้นข้าวจะเน่าเสียหายหมดเก็บเกี่ยวข้าวไม่ได้เพราะไม่มีทางระบายน้ำ
นอกจากนี้ เจ้าของโรงงานเคยข่มขู่ตน บอกว่าเขาเป็นหัวหน้าคนเสื้อแดงจังหวัดสุรินทร์ (นายทุนสนับสนุนเงินการเคลื่อนไหว) มีญาติเป็น ส.ส.สุรินทร์ เขต 1 พรรคเพื่อไทย (พท.) และ บอกว่าเขาไปเคลียร์ปัญหาเรื่องโรงงานกับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้วไม่มีปัญหาแน่นอน ไม่มีใครทำอะไรได้ ทุกอย่างเคลียร์หมดแล้วและให้เดินหน้าโรงงานต่อไป
“สงสัยว่าบ้านเมืองนี้มีความเป็นธรรมเหลืออยู่หรือไม่ จึงขอเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเป็นธรรมกับเราด้วย เพราะสิ่งที่เรียกร้องในขณะนี้เพื่อขอความเป็นธรรมและความถูกต้องเท่านั้น และอยากรู้เช่นกันว่าสังคมนี้ยังมีความเป็นธรรมอยู่อีกไหม” นางสุทธิวรรณกล่าว
นางสุทธิวรรณกล่าวอีกว่า ล่าสุดได้ร่างหนังสือถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านมีรับสั่งให้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังลงมาตรวจสอบพื้นที่ และแจ้งให้เจ้าของโรงงานที่กำลังก่อสร้างได้ทำรั้วกั้นแนวดินไม่ให้ทลายลงมาในที่นาของตน และไม่ให้คนงานโยนสิ่งปฏิกูลเข้ามาอีก เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังยังบอกให้สู้ต่อไป อย่าท้อถอย ความเป็นธรรมมีอยู่ในสังคมแน่นอน แต่ตนก็บอกว่าไม่รู้จะมีแรงสู้แค่ไหนเพราะอายุก็มากแล้ว และลูกชายก็ไม่สบาย แต่จะสู้ต่อไปเท่าที่กำลังมีอยู่
