ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านในพื้นที่ตำบล “สุรศักดิ์” จี้หน่วยงานรัฐและเจ้าของที่ดิน ชี้ให้ชัดเรื่องปัญหาที่ดิน หลังไม่มีความชัดเจน โดยขอร้องให้ดำเนินการตรวจสอบ หากผิดถูกพร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
วันนี้ (25 มี.ค.) นายประยูร หรั่งศาสตร์ ชาวบ้านหมู่ 5 ต.สรุศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวถึงปัญหาแปลงที่ดินที่ชาวบ้านหลาย 10 ครัวเรือน อยู่อาศัยมาเป็นเวลานานกว่า 50 ปี แต่ปัจจุบันถูกบริษัทโรงน้ำตาลตะวันออก ขับไล่ โดยอ้างว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของบริษัท โดยชาวบ้านที่มาอยู่อาศัยนั้นเป็นผู้บุกรุกและพร้อมจะดำเนินการตามกฎหมายทันที
ที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ทำการฟ้องขับไล่ชาวบ้านมาแล้วหลายราย เนื่องจากหวั่นเกรงกฎหมาย ทั้งๆ ที่ถูกขับไล่ออกไปแล้วจะไปอยู่อาศัยที่ไหนก็ยังไม่รู้และส่วนที่ยังไม่ได้ย้ายออกไป เนื่องจากไม่มีที่จะไปและที่สำคัญยังเคลือบแคลงใจในที่ดินแปลงดังกล่าวว่าเป็นของบริษัทโรงน้ำตาลตะวันออกได้อย่างไร เพราะที่ดินของโรงน้ำตาลตะวันออก อยู่ในพื้นที่ที่ล้อมกำแพง ส่วนพื้นที่ที่ชาวบ้านอยู่อาศัยนั้นอยู่ภายนอกรั้วโรงงานทั้งสิ้น
นายประยูร กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ตนได้ร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่องค์การบริหารส่วนตำบล นายอำเภอศรีราชา ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี แต่ทุกหน่วยงานก็ไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และไม่มีที่อยู่อาศัยในขณะนี้ได้ แต่กลับไปช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว หรือผู้ที่ไม่ที่ดินทำกินกลับให้ความช่วยเหลือได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าน้อยใจเป็นอย่างมาก
“ผมต้องการให้หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบออกมาตรวจสอบ หรือชี้แจงในที่ดินแปลงนี้ว่าเป็นอย่างไร มีใครเป็นเจ้าของ และเป็นเอกสารสิทธิแบบใด ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีใครมาช่วยเหลือ หรือชี้แจงให้ชัดเจนเลย นอกจากนั้น ทางบริษัท โรงน้ำตาลตะวันออก ก็ออกมาชี้แจงว่าเป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ เป็นโฉนดที่ดิน โดยมอบอำนาจให้ นายสมพิศ สุวรรณรัตน์ เป็นผู้ดูแล ซึ่งผมต้องการให้เจ้าของที่ดินของมาชี้แจง และหากเป็นอย่างไรในที่ดินแปลงนี้ชาวบ้านก็พร้อมจะปฎิบัติตาม แต่ขณะนี้ยังคลุมเครือและไม่ชัดเจนจึงทำให้ชาวบ้านต้องออกมาร่วมตัวเพื่อเรียกร้องความถูกต้องต่อไป จนกว่าปัญหาทุกอย่างจะกระจ่างขึ้น” นายประยูร กล่าว
นายประยูร กล่าวต่อว่า ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวจะขอต่อสู้ให้ถึงที่สุด หากยังไม่มีความชัดเจนในที่ดินแปลงนี้และขณะนี้ก็ได้ทูลเกล้าถวายฎีกา เพื่อขอความช่วยเหลือจากพระองค์ท่าน และทางสำนักพระราชวังก็มีหนังสือส่งมาถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี แต่เรื่องก็ยังเงียบเฉย ดังนั้น ก็จะขอต่อสู้เช่นนี้ต่อไป จนกว่าเรื่องทั้งหมดจะชัดเจน
