กาญจนบุรี - หนุ่มขี้ยาทาสกาวจากหนองบัวลำภู แอบฉกพระพุทธรูปปางนั่งสมาธิองค์ใหญ่หน้าตัก 9 นิ้ว ในพระตำหนักใส่ถุงปุ๋ยแบกใส่บ่า เดินผ่านด่านตำรวจจราจรที่กำลังตั้งด่าน เห็นมีพิรุธจึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจค้น แต่หนุ่มขี่ยากับทิ้งถุงปุ๋ย และวิ่งหลบหนี แต่ไปไม่รอดถูกรวบไว้ได้ สารภาพแอบเข้าไปในวัดฉกพระพุทธรูป เพื่อนำไปขายซื้อสารระเหยเสพ สอบประวัติพบเดินเตร็ดเตร่อยู่ในตัวเมืองกาญจน์ เคยถูกจับติดคุกมาแล้ว 1 ครั้ง ข้อหาดมสารระเหย
เมื่อเช้าวันนี้ (25 มิ.ย.) พ.ต.ท.สุขสันต์ ชัยรัตน์ พงส.สบ3 สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ 191 จาก นางวนิดา เจริญกิจ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1 เขตเทศบาลตำบลบ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นคนดูแลพระตำหนักที่ประดิษฐ์พระพุทธรูปสถาพรมงคล (หลวงพ่อโต) ปางนั่งสมาธิองค์ใหญ่ขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้ว ภายในวัดถาวรวราราม (วัดญวน) ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้ถูกคนร้ายลักไป
หลังรับแจ้งจึงแจ้งวิทยุสกัดจับคนร้าย ซึ่งในเวลาต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ตั้งด่านตรวจอยู่บริเวณหน้าปากซอย วิทยาลัยอาชีวกาญจนบุรี ว่า ได้มีผู้ชายต้องสงสัยแบกถุงปุ๋ยสีขาวเดินผ่านด่านตรวจ ท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกให้หยุด เพื่อขอทำการตรวจค้น แต่ชายคนดังกล่าวได้ทิ้งถุงปุ๋ย และวิ่งหลบหนีไป และเมื่อเปิดถุงปุ๋ยดู พบว่า ภายในถุงมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีน้ำตาลซุกซ่อนอยู่ จึงนำกำลังออกติดตามจับกุมตัวและในที่สุดชายหนุ่มผู้ต้องสงสัยรายนี้ก็ถูกเจ้าหน้าที่สายตรวจ ร่วมกับตำรวจจราจรจับกุมตัวเอาไว้ได้ และนำตัวไปสอบสวนปากคำที่โรงพัก
จากการสอบสวนปากคำผู้ต้องหารายนี้ทราบชื่อ คือ นายประกาย สีผาแหย่ง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 4 อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งให้การยอมรับสารภาพว่า ได้แอบลักลอบเข้าไปในตำหนักภายในวัดถาวรวราราม (วัดญวน) และยกพระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่ เพื่อนำไปขายซื้อเหล้ากินและซื้อสารระเหยเสพ แต่ระหว่างที่เดินแบกถุงปุ๋ยที่ใส่พระก็มาถูกตำรวจเรียกตรวจสอบจึงทิ้งถุงวิ่งหนี และก็ถูกจับได้ในที่สุด
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้ ทราบว่า เคยติดคุกมาแล้ว 1 ครั้งข้อหาเสพสารระเหย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ต่อไป