xs
xsm
sm
md
lg

ปชช.บุกกรุงเฮกยื่น “ศาลโลก” จี้ถอนคดี “พระวิหาร” -ย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาคประชาชนกลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน นำโดย นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์  เดินทางไปยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อชาวไทย 4.6 แสนราย ต่อศาลโลก ที่ กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ เรียกร้องจำหน่ายคดีปราสาทพระวิหาร พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ภาคประชาชนบุก “กรุงเฮก” เนเธอร์แลนด์ ยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อคนไทย 4.6 แสนรายเรียกร้อง “ศาลโลก” จำหน่ายคดี “ปราสาทพระวิหาร” ย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก เหตุถอนตัวออกจากภาคีสมาชิกมาตั้งแต่ปี 2505 ชี้อย่าตกเป็นเครื่องมือรัฐบาลขายชาติสมคบกันยืมมือศาลโลกปล้นดินแดนราชอาณาจักรไทยไปแบ่งปันผลประโยชน์กัน เผยเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของภาค ปชช. พร้อมส่งหนังสือ 15 ประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

วันนี้ (19 มิ.ย.) นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน และเลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กรณีคดีที่ประเทศกัมพูชายื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ให้ตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี 2505 เกี่ยวกับเรื่องเขตแดนให้ชัดเจน และทางตุลาการศาลโลกได้เปิดโอกาสให้ประเทศไทยยื่นเอกสารคัดค้านเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ ก่อนจะพิจารณาตัดสินคดีดังกล่าวในเร็วๆ นี้

ล่าสุดคณะตัวแทนภาคประชาชน กลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน รวม 31 คน นำโดยตนและ ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ ได้เดินทางไปยังที่ทำการศาลโลก หรือ พระราชวังแห่งสันติภาพ (PEACE PALACE) ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยได้เข้ายื่นหนังสือรวม 7 หน้ากระดาษ พร้อมแผ่นดีวีดีบันทึกรายชื่อที่ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศร่วมลงชื่ออีกกว่า 460,000 รายชื่อ ส่งถึงคณะตุลาการศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำศาลโลกได้รับหนังสือดังกล่าวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นความสำเร็จของชาวไทยทั้งประเทศ และบรรลุวัตถุประสงค์ของการเดินทางไปครั้งนี้ทุกประการ ส่วนหลังจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับคณะตุลาการศาลโลกว่าจะมีดุลพินิจต่อเรื่องนี้อย่างไรต่อไป

สำหรับสาระสำคัญของหนังสือ 7 หน้ากระดาษที่ยื่นแก่คณะตุลาการศาลยุติธรรมครั้งนี้ ได้ระบุข้อเรียกร้องของประชาชนไทยกลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดินไว้อย่างชัดเจนว่า ราชอาณาจักรไทยเป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ และเคยเป็นภาคีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ต่อมาเมื่อปี 2505 รัฐบาลไทยโดยฉันทามติของประชาชนชาวไทยเห็นว่า การดำเนินงานของศาลโลกไม่เป็นไปเพื่อความยุติธรรม ไม่เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่เคารพต่อความเป็นจริง และอยู่ภายใต้การครอบงำแทรกแซงของประเทศมหาอำนาจ ได้กระทำการอันไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ยุติธรรม ตัดสินให้ปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นของไทยว่าเป็นของกัมพูชา

ดังนั้น รัฐบาลไทยจึงได้ถอนตัวออกจากการเป็นภาคีสมาชิกของศาลโลกนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ราชอาณาจักรไทยจึงไม่มีความเกี่ยวข้องผูกพันใดๆ กับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ และศาลฯ ไม่มีเขตอำนาจหรืออำนาจใดในการพิจารณาพิพากษาเรื่องราวใดๆ เกี่ยวกับราชอาณาจักรไทยอีก ฉะนั้น ศาลยุติธรรมฯ จะต้องให้ความเคารพโดยจะบิดเบือนใช้เล่ห์กลใดๆ ในการใช้อำนาจพิจารณาพิพากษาเรื่องราวใดเกี่ยวกับราชอาณาจักรไทยไม่ได้อีกต่อไป

ประชาชนชาวไทยในนามแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน อาศัยสิทธิของพลเมือง อาศัยกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง ค.ศ. 1966 ย่อมมีสิทธิที่จะใช้หลักอัตวินิจฉัยที่จะดำเนินการร้องขอต่อคณะตุลาการศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อปฏิเสธอำนาจและการกระทำที่ไม่ชอบทั้งปวงของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยที่นำพาประเทศไทยกลับเข้าสู่อำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศอีกครั้ง โดยไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาและประชาชนชาวไทย

ดังนั้น กลุ่มแนวร่วมฯ จึงจำเป็นต้องยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อปฏิเสธการกระทำทั้งปวงของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และยืนยันการถอนตัวออกจากการเป็นภาคีสมาชิกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ที่รัฐบาลไทยได้กระทำมาแล้วในปี 2505

ทั้งนี้ จึงร้องขอต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศว่า รัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทยและประชาชนไทยไม่เคยรู้เห็นและไม่เคยเห็นชอบให้ประเทศไทยกลับเข้าสู่ความเป็นภาคีสมาชิกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศแต่ประการใด และการที่รัฐบาลกัมพูชายื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องเก่า แต่เป็นการฟ้องคดีใหม่ตามแถลงการณ์ของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศที่ได้ประกาศไว้อย่างชัดเจน ซึ่งรัฐบาลไทยได้ปฏิเสธไม่ยอมรับมาตั้งแต่ปี 2505 แล้ว และขอเรียกร้องให้ศาลโลกจำหน่ายคดีดังกล่าวนี้เสีย โดยไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของรัฐบาลที่ปล้นชาติ ขายชาติ ทรยศชาติ ที่สมคบกันยืมมือศาลโลกปล้นดินแดนของราชอาณาจักรไทยไปแบ่งปันประโยชน์กัน

นายไชยวัฒน์กล่าวต่อว่า หลังจากยื่นเอกสารให้แก่ศาลโลกแล้วคณะกลุ่มแนวร่วมคนไทยฯ ได้เดินทางไปยังสถานทูตไทย ประจำประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อเข้าหารือและชี้แจงวัตถุประสงค์ของการเดินทางมายังกรุงเฮก ของคนไทยทั้ง 31 คน เพื่อให้สถานทูตได้รับทราบถึงข้อเรียกร้องและจุดยืนของประชาชนไทย พร้อมกันนี้ยังได้ยื่นสำเนาหนังสือฉบับเดียวกับที่ยื่นให้แก่ศาลโลก มอบให้แก่ นายจาตุรนต์ ไชยคำ ที่ปรึกษา นายวีระชัย พลาศัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ก่อนที่คณะจะเดินทางกลับประเทศไทย

จากนี้ไปทางกลุ่มแนวร่วมฯ จะส่งเอกสารสำเนาหนังสือฉบับเดียวกันพร้อมรายชื่อประชาชนคนไทยอีกกว่า 460,000 รายชื่อ ซึ่งบันทึกในรูปแบบแผ่นดีวีดีส่งไปยังสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติรวม 15 ประเทศ แบ่งเป็นสมาชิกถาวร 5 ประเทศและไม่ถาวรอีก 10 ประเทศ ที่กำกับการทำงานของศาลโลก

“พร้อมกันนี้ยังคงเปิดรับรายชื่อคนไทยคัดค้านอำนาจศาลโลก ไปจนกว่าจะมีการตัดสินคดีของศาลโลก โดยประชาชนชาวไทยที่รักชาติรักแผ่นดินสามารถส่งรายชื่อมายังกลุ่มแนวร่วมคนไทยฯ ได้เพื่อรวบรวมส่งไปยังหน่วยงานต่างๆ เพิ่มเติมอีก” นายไชยวัฒน์กล่าว

ติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้ายื่นหนังสือ

ม.ล.วัลย์วิภา  จรูญโรจน์   เป็นตัวแทนเข้ายื่นหนังสือต่อจนท.ศาลโลก ก่อนเดินออกมา



ศาลโลก หรือ พระราชวังแห่งสันติภาพ ณ กรุงเฮก  ประเทศเนเธอร์แลนด์
เข้ายื่นหนังสือ  ที่สถานทูตไทย ประจำประเทศเนเธอร์แลนด์


กำลังโหลดความคิดเห็น