รุมทุบสิบเอกตุ๋นเงินฝากทหารคาห้องแถลงข่าว สภ.เมืองสองแคว

พิษณุโลก - ฮือทุบสิบเอกตุ๋นเงินกว่า 4 ล้านฝากเข้าทหาร แค่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกเปิดแถลงข่าวได้เพียง 2 นาที ผู้เสียหาย 16 คนที่เข้าร่วมฟังแถลงข่าวพร้อมสื่อฯรุมทันที จน จนท.ต้องรีบกันตัวผู้ต้องหาหลบฉากทันควัน ผบก.ภ.พิษณุโลก ย้ำรับราชการทหาร-ตำรวจ ไม่มีใครฝากได้

วันนี้ (16 มิ.ย.55) ที่ห้องประชุม สภ.เมืองพิษณุโลก พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกุล ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก แถลงข่าวการจับกุมส.อ.ธนากร หรือนายเมธา องอาจ อายุ 37 ปีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 697/1ต.ในเมือง อ.เมืองจ.พิษณุโลก ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงทรัพย์ที่หลอกเงินประชาชนจากหลายจังหวัดในภาคเหนือรายละหลายแสนบาท อ้างว่า สามารถฝากบุตรหลานเข้ารับราชการทหารได้ ตั้งแต่ยศนายสิบ-นายร้อย ซึ่งมีผู้เสียหายที่แจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองพิษณุโลกจำนวน 16 ราย รวมเงินถูกฉ้อโกง 4,877,900 บาท มาร่วมรับฟังการแถลงข่าวด้วย

การแถลงข่าววันนี้ ตำรวจได้นัดหมายสื่อมวลชนมาร่วมฟังแถลงข่าวในเวลา 09.00 น. พร้อมกับนัดผู้เสียหาย 16 คน ทั้งจากพิษณุโลก อุตรดิตถ์ และพะเยา มาร่วมดูตัวผู้ต้องหาด้วย กระทั่ง 10.00 น.จึงเปิดแถลงข่าวได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเก้าอี้ให้ผู้เสียหายนั่งในห้องแถลงข่าวด้วย และทันทีที่ พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกุล ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก เดินนำหน้าส.อ.ธนากรหรือนายเมธา องอาจ ผู้ต้องหาเข้ามาในห้อง และให้ ส.อ.ธนากร นั่งโต๊ะแถลงข่าวนั้นบรรดาผู้เสียหายต่างลุกฮือมาจากเก้าอี้ ล้อมวงเข้ามาด่าทอ ส.อ.ธนากร ด้วยความโกรธแค้น

พล.ต.ต.ธรรมนูญ บอกกับสื่อมวลชนและผู้เสียหายว่า ส.อ.ธนากร ยอมรับสารภาพว่าไม่สามารถใช้เงินฝากเข้ารับราชการทหารได้จริง ที่หลอกเงินชาวบ้านไปเพราะต้องการนำเงินไปใช้เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ขณะเริ่มต้นการแถลงได้ประมาณ 2 นาทีเท่านั้น ด้วยอารมณ์แค้นของผู้เสี ยหายเริ่มรุนแรงขึ้น ต่างรุมต่อว่า ด่าทอ ส.อ.ธนากร ด้วยถ้อยคำรุนแรง จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยุติการแถลงข่าว แม้ว่าส.อ.ธนากร จะพยายามพูดว่า ไม่ได้หลบหนีไปไหนก็ตาม

ต่อมา ส.อ.ธนากร ได้ลุกจากเก้าอี้นั่งแถลงข่าวไปอยู่ที่มุมห้อง ระหว่างนั้นผู้เสียหายทั้งชายและหญิงต่างมุ่งเข้าไปจะทำร้ายส.อ.ธนากร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กั้นอย่างเต็มที่ และควบคุมตัวส.อ.ธนากร เดินฝ่าฝูงชนเข้าห้องสอบสวนทันที

พล.ต.ต.ธรรมนูญ พูดคุยกับผู้เสียหาย ให้สงบสติอารมณ์และบอกว่า ส.อ.ธนากรไม่มีอำนาจหน้าที่ และสารภาพว่า ไม่มีขีดความสามารถในการฝากเข้ารับราชการทหารได้ คนที่จะเข้ารับราชการได้ต้องสอบเข้าด้วยความสามารถของตนเองเท่านั้น ที่ทำไปเพราะต้องการหาเงินไปใช้เท่านั้น และขอแจ้งให้ประชาชนทั่วไปทราบด้วยว่า ในการรับราชการทหาร หรือ ตำรวจ ไม่มีใครสามารถฝากเข้ารับราชการได้อย่างไปหลงเชื่อเด็ดขาด

ทั้งนี้ คดีฉ้อโกงทรัพย์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปี 2553-2554 ส.อ.ธนากร องอาจ หรือ ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อมาเป็นนายเมธา องอาจ รับราชการอยู่ที่ศูนย์ควบคุมการส่งกำลังบำรุง กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อ.เมืองพิษณุโลก ช่วงนั้น ส.อ.ธนากร ได้อาศัยตำแหน่งหน้าที่ไปหลอกลวงเงินจากผู้เสียหายในพิษณุโลก และอีกหลายจังหวัดในเขตภาคเหนือ โดยวิธีแอบอ้างว่า รู้จักกับผู้บังคับบัญชาระดับสูง ซึ่งสามารถช่วยเหลือให้เข้ารับราชการทหารทั้งชั้นนายสิบ และนายร้อยได้โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับผู้ต้องหา ระหว่างนั้น มีผู้เสียหายหลายราย ได้หลงเชื่อและยินยอมจ่ายเงินให้กับ ส.อ.ธนากร รายละ 200,000-500,000 บาท โดยทำหนังสือสัญญาเงินกู้ไว้เป็นหลักฐาน

สุดท้ายเรื่องแตก ผู้เสียหายเริ่มรู้ว่า ถูกส.อ.ธนากร หลอก จึงรวมตัวกันแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก และก่อนหน้านี้ ส.อ.ธนากร ก็โดนต้นสังกัด สั่งให้ออกจากราชการไปแล้ว และได้หลบหนีไปหลายพื้นที่ รวมทั้งมีหมายจับของศาลจังหวัดทหารบกพิษณุโลกที่ 22/2555 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555

และเนื่องจากเป็นคดีที่มีผู้เสียหายหลงเชื่อและยินยอมจ่ายเงินให้กับผู้เสียหายจำนวนมากพล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกุล ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลกเร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งวันที่ 15 มิถุนายน 2555 ชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปอยู่ที่จังหวัดลำปาง จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง ตามจับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองพิษณุโลก