ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “หลวงพ่อคูณ” เกจิชื่อดังเดินทางกลับวัดบ้านไร่แล้ว หลังเข้ารักษาด้วยอาการหลอดลมอักเสบที่ รพ.มหาราชนครราชสีมาเป็นเวลา 10 วันและอาการอาพาธหายเป็นปกติ ด้านลูกศิษย์เผยแพทย์ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดป้องกันหลวงพ่อคูณติดเชื้อซ้ำ พร้อมวอนพุทธศาสนิกชนไม่ควรเข้าใกล้หลวงพ่อเกิน 2 เมตร ที่สำคัญใครไม่สบายเป็นไข้ห้ามเข้าใกล้และงดเคาะหัวอย่างเด็ดขาด
วันนี้ (15 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ได้เข้าตรวจร่างกายพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ หลังเข้ารักษาอาการอาพาธด้วยภาวะหลอดลมอักเสบตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งอาการอาพาธหายเป็นปกติแล้ว และมีกำหนดให้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักฟื้นต่อที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ในวันนี้ ( 15 มิ.ย.)
ภายหลังจากการตรวจร่างกายอย่างละเอียดไม่พบอาการผิดปกติ จึงได้อนุญาตให้หลวงพ่อคูณเดินทางกลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่ได้ โดยมี นายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นางสุมาลี ศิรินันท์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา นายชยาวุธ จันทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นพ.วิชัย ขัตติยวิทยากุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล ผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย และพุทธศาสนิกชนที่ทราบข่าวมารอกราบหลวงพ่อตลอดสองข้างทางที่เข็นรถหลวงพ่อผ่านภายในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งส่วนใหญ่ต่างพากันพนมมือ พร้อมกับกล่าวว่า ขอให้หลวงพ่อคูณสุขภาพแข็งแรง อายุยืน อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกหลานตราบนานเท่านาน ก่อนที่บรรดาลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดจะนิมนต์หลวงพ่อคูณขึ้นรถตู้ ซึ่งจอดรออยู่บริเวณด้านหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และเดินทางกลับวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
นายสมบูรณ์ โสตถิอนันต์ เลขานุการและคณะกรรมการวัดบ้านไร่ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าก่อนแพทย์จะเข้าตรวจร่างกายของหลวงพ่อ แพทย์ได้ขอความร่วมมือคณะกรรมการวัดบ้านไร่ให้ดูแลหลวงพ่อคูณอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหลวงพ่ออายุมากแล้ว ประกอบกับยังอยู่ในช่วงพักฟื้นร่างกายจากอาการอาพาธ ซึ่งหากหลวงพ่อได้รับเชื้อมาอีกอาจจะส่งผลให้หลวงพ่ออาพาธซ้ำอีก ซึ่งคงไม่เป็นผลดีต่อหลวงพ่อ
ดังนั้น จึงได้กำชับให้ลูกศิษย์ที่ดูแลใกล้ชิดทุกคนต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ห้ามมิให้ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย หรือสงสัยว่าเป็นไข้ เข้าไปดูแลหลวงพ่อคูณหรือเข้าใกล้ชิดหลวงพ่อเด็ดขาด นอกจากนี้ ยังให้คณะกรรมการทำการประชาสัมพันธ์เสียงตามสายในวัด ทุกครั้งที่มีประชาชน พุทธศาสนิกชนมากราบหลวงพ่อที่วัดบ้านไร่ ว่าขอให้พุทธศาสนิกชนกราบหลวงพ่อเฉพาะจุดที่กำหนดเท่านั้น ห้ามเข้าใกล้ในระยะ 2 เมตร ที่สำคัญ ห้ามให้หลวงพ่อคูณเคาะหัวโดยเด็ดขาดเนื่องจากอาจติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งหลังจากนี้ ตนจะนำข้อแนะนำของแพทย์ไปแจ้งคณะกรรมการวัดบ้านไร่ และให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามคำสั่งของแพทย์ทันที
ด้าน นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือดโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า อาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ จากการตรวจครั้งล่าสุดดีขึ้นมาก ซึ่งคณะแพทย์ได้หยุดยาฆ่าเชื้อไป 48 ชั่วโมง (ชม.) ไม่มีไข้ ทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์เกือบปกติแล้ว ส่วนเรื่องต้องระวังเป็นพิเศษคือการติดเชื้อ เพราะปัญหาที่ท่านต้องเข้าโรงพยาบาลช่วงหลังคือเรื่องติดเชื้อเป็นหลัก จึงฝากศิษยานุศิษย์ว่า พยายามให้อยู่ห่างหลวงพ่ออย่างน้อย 2 เมตร เพราะเกรงว่าอาจจะนำเชื้อได้ เพราะหลวงพ่อคูณง่ายต่อการติดเชื้อ
ส่วนการออกจากห้องมารับญาติโยม ที่วัดบ้านไร่ นั้น ได้วางระบบไปหมดแล้วโดยให้รับญาติโยมได้วันละ 2 ครั้ง ช่วง 11.00 น. และ 16.00 หรือ 17.00 น. ทั้งนี้อยากให้ประชาชนญาติโยมเชื่อฟังคณะกรรมการวัดบ้านไร่และลูกศิษย์ ในการจัดระเบียบดังกล่าว โดยเฉพาะการเข้ากราบหลวงพ่อคูณ ต้องอยู่ห่าง 2 เมตรด้วย