ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “หลวงพ่อคูณ” พักรักษาอยู่ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมาเป็นวันที่ 7 อาการอาพาธโดยรวมดีขึ้นมาก ร่างกายเข้าสู่ภาวะปกติ และแข็งแรงขึ้นตามลำดับ สามารถออกกำลังเบาๆ ด้วยการลุกเดิน ยกแขน ยกขา และปั่นจักรยานได้ แพทย์ระบุเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนอีก 1-2 วันนี้ ก่อนอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่ได้ในวันศุกร์ที่ 15 มิถุนายนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นวันที่ 7 หลังคณะลูกศิษย์ได้นำส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเป็นการด่วน ด้วยอาการภาวะหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน มีไข้ เสมหะมาก และมีอาการสะอึก เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (12 มิ.ย.) อาการอาพาธของหลวงพ่อคูณดีขึ้นมาก ร่างกายเข้าสู่ภาวะปกติและแข็งแรงขึ้นตามลำดับ โดยหลวงพ่อคูณมีใบหน้าที่สดชื่น ฉันอาหารผ่านสายยางเข้าทางช่องท้องได้ดี แต่แพทย์ยังคงติดตามภาวะแทรกซ้อนอื่นที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะนี้
นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า อาการโดยรวมดีขึ้นมากเกือบหายเป็นปกติแล้ว ไม่มีไข้ เสมหะลดลง อาการสะอึกไม่มีแล้ว ความดันและชีพจรปกติ สภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นสามารถลุกเดิน ยกแขน ยกขาเองได้ช้าๆ ซึ่งหลวงพ่อให้การตอบสนองการรักษาและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี คณะแพทย์พอใจในการรักษามาก โดยคราวนี้ท่านไม่มีอาการซึมหรือมีอาการเบื่อให้เราเห็น และเวลาถามอะไรท่านก็อารมณ์ดี พูดคุยหยอกล้อได้ดี
อย่างไรก็ตาม เพียงแต่ขณะนี้ต้องเฝ้าติดตามภาวะแทรกซ้อนอย่างอื่นที่อาจตามมา เนื่องจากหลวงพ่อคูณอายุมาก 88 ปีแล้ว เมื่อเกิดเจ็บป่วยขึ้น ภูมิต้านทานจะมีน้อยกว่าคนทั่วไป ฉะนั้นค่อนข้างเสี่ยงต่อการติดเชื้อซ้ำซ้อน จึงต้องเฝ้าระวังต่อไปอีกสักระยะ 1-2 วัน
สำหรับการรักษาตอนนี้ยังคงให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ และยาลดเสมหะต่อเนื่องในรูปแบบการฉัน ส่วนยารักษาวัณโรคปอดก็ต้องให้ต่อเนื่องไปจนกว่าจะครบ 1 ปีครึ่ง พร้อมกับให้ออกกำลังกายโดยการเดินเบาๆ และปั่นจักรยานสำหรับออกกำลังกายในห้องพัก เพื่อเป็นการสร้างกล้ามเนื้อขาของหลวงพ่อคูณให้แข็งแรงขึ้น
“ส่วนการกลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่นั้น คาดว่าหากอาการหลวงพ่อคูณไม่มีภาวะแทรกซ้อน ก็จะอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่ได้ในวันศุกร์ที่ 15 มิถุนายนที่จะถึงนี้” นพ.พินิศจัยกล่าว
ด้าน นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด และโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กล่าวว่า ในช่วงนี้อากาศค่อนข้างเปลี่ยนบ่อยมากทำให้หลวงพ่อคูณมีโอกาสที่จะเกิดเป็นไข้หวัดและเกิดการติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะเวลาเป็นไข้หวัด ปอดของหลวงพ่อคูณที่เป็นพังผืดเล็กน้อยซึ่งเป็นร่องรอยของวัณโรคเก่า รวมทั้งเมื่อก่อนหลวงพ่อสูบบุหรี่มากอยู่แล้ว พอมีการติดเชื้อเป็นไข้หวัดนิดเดียวก็จะส่งผลทำให้หลวงพ่อเป็นหลอดลมอักเสบเฉียบพลันได้ง่าย