ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “หลวงพ่อคูณ” อาการดีขึ้นมากเกือบหายเป็นปกติ หลังเข้ารักษาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมาเป็นวันที่ 5 แพทย์พอใจผลการรักษาแต่ยังต้องเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนอื่นต่ออีก และสั่งงดเยี่ยมเด็ดขาด เหตุหลวงพ่ออายุมากภูมิต้านทานต่ำเสี่ยงติดเชื้อซ้ำซ้อน เผยให้เดินออกกำลังกายและปั่นจักรยานในห้องผู้ป่วย คาดให้กลับวัดบ้านไร่ปลายสัปดาห์หน้า
วันนี้ (10 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นวันที่ 5 หลังคณะลูกศิษย์ได้นำส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเป็นการด่วนด้วยอาการภาวะหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน มีไข้ เสมหะมาก และมีอาการสะอึก เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้อาการอาพาธของหลวงพ่อคูณโดยรวมดีขึ้นมาก ร่างกายเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยหลวงพ่อคูณมีใบหน้าที่สดชื่น เสมหะลดลงมาก ฉันอาหารผ่านสายยางเข้าทางช่องท้องได้ดี แต่แพทย์ยังคงติดตามภาวะแทรกซ้อนอื่นที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะนี้
นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า ได้เข้าตรวจอาการหลวงพ่อคูณ อีกครั้งเมื่อเวลา 09.30 น.ที่ผ่านมา อาการโดยรวมดีขึ้นมากเกือบหายเป็นปกติแล้ว เสลดลดลงอย่างมาก และไม่มีไข้มาเป็นวันที่ 3 แล้ว
คนไข้ให้การตอบสนองการรักษาเป็นอย่างดี คณะแพทย์พอใจในการรักษามาก ตอนนี้ต้องเฝ้าติดตามภาวะแทรกซ้อนอย่างอื่นที่อาจจะตามมา เนื่องจากหลวงพ่อคูณอายุมาก 88 ปีแล้ว เมื่อเจ็บป่วยเกิดขึ้น ภูมิต้านทานจะมีน้อยกว่าคนทั่วไป ฉะนั้นค่อนข้างเสี่ยงต่อการติดเชื้อซ้ำซ้อน จึงต้องเฝ้าระวังต่อไปอีกสักระยะ
สำหรับการรักษาตอนนี้ยังคงให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ และยาลดเสมหะต่อเนื่องในรูปแบบการฉัน ส่วนยารักษาวัณโรคปอดก็ต้องให้ต่อเนื่องไปจนกว่าจะครบ 1 ปีครึ่ง พร้อมกับให้ออกกำลังกาย โดยการเดินเบาๆ และปั่นจักรยานสำหรับออกกำลังกายในห้องพัก เนื่องจากช่วงนี้ที่ จ.นครราชสีมาอากาศแปรปรวน และมีฝนตกปรอยๆ ทุกวัน หากให้ท่านออกมาเดินนอกห้องผู้ป่วยจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากช่วงใดที่สภาพอากาศเหมาะสมก็จะให้ลูกศิษย์นำท่านออกมาเดินสูดอากาศนอกห้องด้วย
“แม้อาการหลวงพ่อจะดีขึ้นและเกือบหายเป็นปกติแต่ยังต้องขอความร่วมมือในการงดเยี่ยมท่านเพื่อให้ท่านได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ และป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อนอย่างอื่น ส่วนการกลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่นั้นจะหารือกับลูกศิษย์ในเร็วๆ นี้ ว่าจะให้ท่านกลับไปได้เมื่อไหร่ เพื่อทีมแพทย์ พยาบาล และคนดูแลจะได้จัดเตรียมอุปกรณ์ และสถานที่ให้พร้อม คาดว่าอาจจะเป็นช่วงปลายสัปดาห์ที่จะถึงนี้ หรือไม่ก็อาจเป็นวันพฤหัสบดี หรือวันศุกร์หน้า” นพ.พินิศจัย กล่าว