อุตรดิตถ์ - จังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกับคณะสงฆ์ พุทธศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวจัดงานประเพณี “อัฐมีบูชา” ประจำปี 2555 ถวายพระเพลิงพระสรีระจำลองของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีการปฏิบัติสืบต่อกันมายาวนานกว่า 50 ปี
เมื่อคืนวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานการจัดงานถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระพระพุทธเจ้าจำลอง โดยอัญเชิญพระพุทธสรีระพระพุทธเจ้าจำลองสู่พระเมรุมาศจำลอง ประกอบการแสดงแสง สี เสียง และสื่อผสม
สำหรับการจัดงานอัฐมีบูชาของวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ จัดขึ้นโดยชาวพุทธที่มุ่งมั่นในการธำรงรักษาและสืบสานวัฒนธรรมประเพณีด้วยศรัทธาอันแรงกล้า และเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของชุมชน เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณี โดยเฉพาะในเทศกาลวิสาขบูชา พร้อมกับงานถวายสลากภัตที่มีมานานกว่า 50 ปี ซึ่งถือว่าเป็นงานอัฐมีบูชาแห่งแรกของประเทศไทยที่มีการปฏิบัติต่อเนื่องมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งเป็นประเพณีที่ผูกพันกับชีวิตของพุทธศาสนิกชนมาอย่างยาวนาน
โดยการแสดงเริ่มด้วยเหตุการณ์นับตั้งแต่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ สาละวโรทยาน เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ เมื่อขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ระหว่างต้นสาละทั้งคู่ โดยเสด็จไสยาสน์ตะแคงขวา หันพระเศียรไปทางทิศเหนือ ตั้งพระบาทเหลื่อมด้วยพระบาท ตั้งพระทัยดำรงพระสติสัมปชัญญะ ประทับท่าสีหไสยาสน์
ซึ่งพระองค์ได้ประทานปัจฉิมโอวาทแก่หมู่สาวกที่ชุมนุมอยู่ ณ ที่นั้นว่า “ภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่ตถาคตจะพึงบอกแก่ท่านทั้งหลาย ตถาคตได้บอกหมดแล้ว สังขารทั้งหลายเป็นของไม่เที่ยง ท่านทั้งหลายจงพยายามเพื่อความหลุดพ้นด้วยความไม่ประมาทเถิด” แล้วพระองค์ก็เสด็จดับขันธปรินิพพาน พลันก็เกิดเหตุอัศจรรย์เมื่อต้นสาละทั้งคู่ผลิดอกบานสะพรั่ง แล้วปริดอกร่วงลงบูชาพระพุทธองค์ ดอกไม้ทิพย์ก็โปรยปรายลงมาจากนภากาศ มัลลกษัตริย์ต่างมีความเลื่อมใสจึงได้ทำการสักการบูชาพระพุทธสรีระด้วยการฟ้อนรำ ประโคมดนตรี ประดับมาลัยสุคนธชาติเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาพระสรีระด้วยมโหฬารสักการะ อันเป็นประเพณีที่สืบทอดจากอดีตกาล
