ศึกชิงนายกเล็กเมืองกาญจน์โค้งสุดท้ายคึกคัก

กาญจนบุรี - ศึกรับเลือกตั้งนายกเล็กเมืองกาญจนบุรี โค้งสุดท้ายเริ่มคึกคัก ผู้สมัครแต่ละทีมเร่งออกขอคะแนนเสียงชาวบ้าน ลุ้น 10 มิ.ย.นี้

วันนี้ (8 มิ.ย.) การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาญจนบุรีครั้งนี้ มีผู้สมัครชิงเก้าอี้นายกเทศบาลเมืองกาญจนบุรี 2 ราย 2 ทีม ประกอบด้วย หมายเลข 1 นางเบญจวรรณ เปรมประยูร หัวหน้าทีมฟ้าใส-ตะวันกาญจน์ หมายเลข 2 นายประสิทธิ์ โอภาสทิพากร อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาญจนบุรี 4 สมัย

สำหรับผู้สมัครเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาญจนบุรี หมายเลข 1 นางเบญจวรรณ เปรมประยูร หัวหน้าทีมฟ้าใส-ตะวันกาญจน์นั้นไม่ธรรมดา ถึงแม้เธอจะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่จิตใจของเธอเป็นคนเข้มแข็ง กล้าพูด กล้าคิด กล้าทำ อีกทั้งยังมีจิตอาสาช่วยเหลือสังคมมาตลอด โดยไม่หวังผลประโยชน์ใดๆ ตอบแทน ขอเพียงทำแล้วสบายใจก็เพียงพอ ส่งผลให้ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรีรัก และสนับสนุนจึงหนุนให้เป็นผู้สมัครนายกเล็กในครั้งนี้

ที่สำคัญ นางเบญจวรรณ ยังเป็นนักธุรกิจการค้าเกี่ยวกับอุปกรณ์วัสดุก่อสร้าง และเป็นลูกสาวคนเล็กของตระกูล “จงเจริญ” ซึ่งเป็นตระกูลเก่าแก่ที่คนเมืองกาญจน์ต่างรู้จัก อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากสามีสุดที่รัก และครอบครัว

ปัจจุบัน นางเบญจวรรณ เปรมประยูร อายุ 54 ปี สถานภาพด้านการศึกษาจบปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาเกริก ปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง สถานภาพทางสังคม ประธานกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดกาญจนบุรี นายกสมาคมสโมสรโรตารี่มณีกาญจน์ และอดีตผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนสถานภาพตำแหน่งทางการเมือง เป็นอดีตเทศมนตรี เทศบาลเมืองกาญจนบุรี ฝ่ายการศึกษา

ขณะที่ผู้สมัครหมายเลข 2 นายประสิทธิ์ โอภาสทิพากร อดีตนายกเทศบาลเมืองกาญจนบุรี 4 สมัย ที่ชาวบ้านเรียกกันจนติดปากว่า “นายกหนา” สมัยที่ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ก็ได้พัฒนาเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี รวมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิต และสาธารณูปโภคจนเป็นที่ยอมรับของประชาชน

อีกทั้งยังส่งเสริมเรื่องการศึกษาพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวชุมชน พร้อมกับสร้างแรงจูงใจให้แก่ข้าราชการ ทำงานอย่างเข้าอกเข้าใจกัน ผลงานที่ผ่านมานั้นเด่นชัด จนชาวเทศบาลเมืองกาญจน์ไว้วางใจเลือกเข้ามาบริหารเทศบาลถึง 4 สมัย

สำหรับบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครทั้ง 2 ทีม ต่างใช้รูปแบบการหาเสียงที่คล้ายๆ กัน คือขึ้นป้ายหาเสียงไปตามถนนสายต่างๆ และตามเขตชุมชนอย่างหนาตา มีการใช้รถแห่หาเสียงทุกวัน ปราศรัยย่อยชี้แจงนโยบาย และเดินแจกเอกสารแนะนำตัวแบบเคาะประตูบ้านไม่เว้นแม้แต่วันเดียว การเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา คนในชุมชนมักจะรอฟังทิศทางจากแกนนำชุมชนในการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครทั้ง 2 ทีม ก็ยังคงเดินขอกำลังใจ และเคาะประตูขอคะแนนสงสารจากประชาชนต่อเนื่อง ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรี (กกต.) ได้กำหนดให้วันอาทิตย์ ที่ 10 มิถุนายน 2555 เป็นวันเลือกตั้ง วันนั้นใครจะเข้าวิน ประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบสุดท้าย