เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ ( 24 พ.ค.) ที่บริเวณหน้ารัฐสภา ตัวแทนองค์กรร่วมเพื่อพิทักษ์ศักดิ์ศรีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้เดินทางมาแสดงจุดยืนพร้อมทั้งทำจดหมายเปิดผนึกเพื่อเรียกร้องให้ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ขอโทษต่อประชาคมชาวรามคำแหง ทั้งศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยรามคำแหง
เนื่องจากในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ได้ลุกขึ้นต่อว่านายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ว่า “คนจบรามฯ มันโง่” ซึ่งคำพูดดังกล่าวถือว่าเป็นการเหยียดหยาม ดูหมิ่น สร้างความเสียหาย และความน่าเชื่อถือของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ทั้งนี้ องค์กรร่วมฯ ขอประณามพฤติกรรมอันต่ำทรามของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ และขอยืนยันต่อสังคมว่า มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นองค์กรการศึกษาที่ส่งเสริมให้คนที่เรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นคนที่มีคุณธรรม ตลอด 40 กว่าปีที่ผ่านมา ได้ผลิตบัณฑิตกว่า 8 แสนคน เพื่อรับใช้สังคม และทำอย่างต่อเนื่องเสมอมา
ดังนั้น จึงไม่ควรที่จะมีบุคคลที่มีวุฒิภาวะต่ำ ไม่มีต้นทุนทางสังคม ไม่ปรากฏเรื่องประวัติคุณงามความดีต่อบ้านเมือง จะมาบังอาจกล่าวร้ายต่อสถาบันที่อัญเชิญพระนามของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
องค์กรร่วมเพื่อพิทักษ์ศักดิ์ศรีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ไม่อาจปล่อยให้เรื่องดังกล่าวผ่านไปได้ เพราะจำเป็นต้องมีมาตรการ เพื่อเป็นมาตรฐานให้กับพวกที่ชอบใช้ปากอ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง อ้างความเป็นประชาธิปไตย พูดจาไม่ใช้สมอง แล้วอ้างว่าเป็นภาษาการเมืองโดยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ
ทางองค์กรร่วมฯ ขอเรียกร้องว่า
1.ให้ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ กล่าวขอโทษต่อประชาคมชาวรามคำแหงผ่านสื่อมวลชน รวมทั้งนำดอกไม้ธูปเทียนไปขอขมาต่อพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหง ที่ประดิษฐานอยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง และหยุดพฤติกรรมการใช้วาจาดูหมิ่น ประชดประชัน และหยาบโลนดังกล่าว เพื่อความสง่างามของสภาฯ จะได้ไม่เข้าตำรา ปลาหมอตายเพราะปาก
2. ให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ สังกัดอยู่ ดำเนินการ หรือมีมาตรการให้จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องข้อที่ 1. อย่างเร่งด่วน และมีมาตรการเพื่อควบคุมจริยธรรมสมาชิกของพรรค เพื่อไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียอีกต่อไป
3. ให้ประธานสภาฯ ทบทวนบทบาทการทำงานในฐานะประธานฯ ของตัวเองที่ปล่อยให้มีการอาศัยที่ประชุมสภาฯ เป็นเวทีในการทำลายความน่าเชื่อถือของมหาวิทยาลัย รวมทั้งต้องมีมาตรการไม่ให้เกิดเรื่องดังกล่าวอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนองค์กรร่วมฯ ยังได้โชว์รายชื่อบุคคลสำคัญ และคนดังของบ้านเมืองหลายคน ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงกว่า 150 คน ด้วย
เนื่องจากในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ได้ลุกขึ้นต่อว่านายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ว่า “คนจบรามฯ มันโง่” ซึ่งคำพูดดังกล่าวถือว่าเป็นการเหยียดหยาม ดูหมิ่น สร้างความเสียหาย และความน่าเชื่อถือของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ทั้งนี้ องค์กรร่วมฯ ขอประณามพฤติกรรมอันต่ำทรามของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ และขอยืนยันต่อสังคมว่า มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นองค์กรการศึกษาที่ส่งเสริมให้คนที่เรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นคนที่มีคุณธรรม ตลอด 40 กว่าปีที่ผ่านมา ได้ผลิตบัณฑิตกว่า 8 แสนคน เพื่อรับใช้สังคม และทำอย่างต่อเนื่องเสมอมา
ดังนั้น จึงไม่ควรที่จะมีบุคคลที่มีวุฒิภาวะต่ำ ไม่มีต้นทุนทางสังคม ไม่ปรากฏเรื่องประวัติคุณงามความดีต่อบ้านเมือง จะมาบังอาจกล่าวร้ายต่อสถาบันที่อัญเชิญพระนามของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
องค์กรร่วมเพื่อพิทักษ์ศักดิ์ศรีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ไม่อาจปล่อยให้เรื่องดังกล่าวผ่านไปได้ เพราะจำเป็นต้องมีมาตรการ เพื่อเป็นมาตรฐานให้กับพวกที่ชอบใช้ปากอ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง อ้างความเป็นประชาธิปไตย พูดจาไม่ใช้สมอง แล้วอ้างว่าเป็นภาษาการเมืองโดยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ
ทางองค์กรร่วมฯ ขอเรียกร้องว่า
1.ให้ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ กล่าวขอโทษต่อประชาคมชาวรามคำแหงผ่านสื่อมวลชน รวมทั้งนำดอกไม้ธูปเทียนไปขอขมาต่อพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหง ที่ประดิษฐานอยู่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง และหยุดพฤติกรรมการใช้วาจาดูหมิ่น ประชดประชัน และหยาบโลนดังกล่าว เพื่อความสง่างามของสภาฯ จะได้ไม่เข้าตำรา ปลาหมอตายเพราะปาก
2. ให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ สังกัดอยู่ ดำเนินการ หรือมีมาตรการให้จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องข้อที่ 1. อย่างเร่งด่วน และมีมาตรการเพื่อควบคุมจริยธรรมสมาชิกของพรรค เพื่อไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียอีกต่อไป
3. ให้ประธานสภาฯ ทบทวนบทบาทการทำงานในฐานะประธานฯ ของตัวเองที่ปล่อยให้มีการอาศัยที่ประชุมสภาฯ เป็นเวทีในการทำลายความน่าเชื่อถือของมหาวิทยาลัย รวมทั้งต้องมีมาตรการไม่ให้เกิดเรื่องดังกล่าวอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนองค์กรร่วมฯ ยังได้โชว์รายชื่อบุคคลสำคัญ และคนดังของบ้านเมืองหลายคน ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงกว่า 150 คน ด้วย