เลือกนายก อบจ.เชียงรายเดือด “สฤษฎ์” แจ้งความป้ายหาย “เมียยงยุทธ” โหมเปิดเวทีใหญ่

เชียงราย - อดีต ส.ส.ไทยรักไทย/พลังประชาชน ที่เปิดหน้าลงสมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ.เชียงราย แข่งกับ “เมียยงยุทธ - รัตนา แชมป์เก่า และแกนนำเสื้อแดง” โร่ขึ้นโรงพักแจ้งความป้ายหาเสียงหายกว่า 500 ป้าย ชี้การเมืองท้องถิ่นวันนี้สุดสกปรก ขณะที่ “สลักจฤฏดิ์ -เมียยงยุทธ” เปิดสนามบินเก่าตั้งเวทีปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้าย ขนแกนนำแดงส่วนกลาง-ท้องถิ่น พร้อม ส.ส.พท.ขึ้นเวที

นายสฤษฎิ์ อึ้งอภินันท์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ,ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ผดุงพล ธนะกิจไพบูรณ์ สารวัตรเวร สภ.เมือง จ.เชียงราย ว่า ป้ายหาเสียงขนาด 110X240 ซม.ของตน ที่ติดตั้งบริเวณข้างถนนในชุมชนและถนนหลักพื้นที่ อ.เมือง ได้หายไปกว่า 500 แผ่น เพราะถูกลักขโมย และบางแผ่น ก็ถูกทำลายจนใช้การไม่ได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้บันทึกรายละเอียดเอาไว้

นายสฤษฎ์ กล่าวว่า การเมืองท้องถิ่นวันนี้เล่นกันสกปรกมาก มีทั้งการหาเสียงด้วยการใส่ร้ายป้ายสีกัน การขโมยและทำลายป้าย โดยป้ายหาเสียงของตนก็ไม่ได้ถูกขโมยเพียงแค่พื้นที่ อ.เมือง แต่ยังกระจายไปทั่วทั้ง 18 อำเภอ กว่า 4,000 ป้าย ก็ถูกขโมยไป หรือบางส่วนก็ถูกทำลายเหลือทิ้งไว้แต่โครงไม้ ขณะเดียวกันป้ายหาเสียงของคนอื่นก็ถูกขโมยไปเป็นจำนวนมากเช่นกัน รวมทั้งทราบว่ามีหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งนำไปเขียนว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานอื่นขนไป ซึ่งตนเองก็ยังไม่ทราบว่าจริงหรือเท็จอย่างไร

นายสฤษฎ์ กล่าวว่า ชาวบ้านคนหนึ่งที่ไม่กล้าเป็นพยานแจ้งว่าพบเห็นรถสีขาวขนาดใหญ่ เข้าไปเก็บเอาป้ายหาเสียงของตนไป ซึ่งหากมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนก็จะไปสอดคล้องกับการที่มีข่าวปล่อยโจมตีว่า ตนได้ถอนตัวและไม่ลงแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว ดังนั้นตนจึงขอแจ้งผ่านสื่อมวลชนว่า ตนยังลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.เชียงราย ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้(27 พ.ค.55)นี้แน่นอน

ด้านความเคลื่อนไหวหาเสียงของช่วงโค้งสุดท้ายของนางสลักจฤฏดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัคร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ได้จัดเวทีปราศรัยหาเสียงก่อนการเลือกตั้งขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 25 พ.ค.55 ที่ผ่านมาอีกครั้ง ณ บริเวณลานบินฝูงบิน 416 (สนามบินเก่า) อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปช.) เช่น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ,นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ,นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ฯลฯ เข้าร่วม ขณะเดียวกันมีแกนนำคนเสื้อแดงในพื้นที่นำมวลชนเข้าไปร่วมรับฟัง

เนื้อหาการปราศรัยส่วนใหญ่คือ ที่พรรคเพื่อไทยและ ส.ส.เชียงราย มีมติเลือกนางสลักจฤฎดิ์ เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อให้การประสานงานระหว่างรัฐบาลและท้องถิ่นมีความราบรื่นสามารถพัฒนา จ.เชียงราย ได้ดี ขณะที่ตัวแทนคนเสื้อแดงในท้องถิ่นบางกลุ่มก็บอกว่า คนเสื้อแดงเชียงราย ลังฉันทามติแล้วให้สนับสนุนนางสลักจิฤฏดิ์ ตามการตัดสินใจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

นายจตุพร กล่าวว่า นางสลักจฤฎดิ์ เปรียบเสมือนพี่สาวของตน จึงขอฝากให้ประชาชนเลือก เพราะหากแพ้ก็มีคนรอกระทืบเราอยู่ จึงขอให้เราอย่าแผ่วรวมพลังกันเลือก เพื่อให้เห็นว่าคนเสื้อแดงยังเข้มแข็ง การแข่งขันมีอยู่ 2 พวกคือ สีแดงและสีน้ำเงิน จึงขอให้ทุ่มคะแนนเสียง เรามีนายกรัฐมนตรี ที่เป็นหญิงแล้วขอให้มีนายก อบจ.ที่เป็นหญิงด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการโหมปราศรัยว่า หากใคร พ.ต.ท.ทักษิณ รัก น.ส.ยิ่งลักษณ์ รักนายจตุพร รักเจ๋ง ดอกจิก รักหมวดเจี๊ยบ รัก ส.ส.พรรคเพื่อไทย และรักนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และรักนางสลักจฤฎดิ์ ขอให้เลือกนางสลักจฤฎดิ์

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย ครั้งนี้มีผู้สมัคร 4 คนคือนางสลักจฤฎดิ์ หมายเลข 1 ,นางรัตนา จงสุทธนามณี อดีตนายก อบจ.เชียงราย หมายเลข 2 ,น.ส.พนิดา มะโนธรรม แกนนำกลุ่มเชียงรายตะวันแดงกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มคนเสื้อแดงเช่นกัน หมายเลข 3 และนายสฤษฎ์ อึ้งอภินันท์ อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ซึ่งมีกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนให้การสนับสนุน หมายเลข 4 ซึ่งการแข่งขันเป็นไปด้วยความดุเดือดมีการฟ้องร้องและคดีความต่างๆ เกิดขึ้นตลอดการหาเสียง