เชียงราย - สนามแข่งขันเลือกตั้งนายก อบจ.เมืองพ่อขุนฯ เพิ่มอุณหภูมิขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด “รัตนา” แชมป์เก่าส่งทนายยื่นฟ้อง “สลักจฤฎดิ์-เมียยงยุทธ” เพิ่มอีก หลังการเลือกตั้งครั้งก่อนเคยยื่นฟ้องกันมาแล้ว ล่าสุดคดีอยู่ในชั้นศาลฎีกา
วันนี้ (22 พ.ค.) รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงรายแจ้งว่า ขณะนี้การหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงรายที่จะมีการเลือกตั้งกันในวันที่ 27 พฤษภาคม 55 ที่จะถึงนี้ ระหว่างผู้สมัครที่มีอยู่ 4 คน คือ นางรัตนา จงสุทธนามณี อดีตนายก อบจ.เชียงราย ในสมัยที่ผ่านมา นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ภรรยาของนายยงยุทธ ติยะไพรัช นักการเมืองชื่อดังซึ่งเป็นตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย นายสฤษฎ์ อึ้งอภินันท์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย พรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน รวมทั้งเป็นอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน และ น.ส.พนิดา มะโนวรรณ แกนนำกลุ่มเชียงรายตะวันแดงกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงใน จ.เชียงราย เป็นไปอย่างดุเดือด
นอกจากจะมีการเปิดเวทีปราศรัย และตระเวนหาเสียงกันอย่างคึกคัก โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทยและแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.เดินทางไปช่วยผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยคือ นางสลักจฤฎดิ์ กันอย่างต่อเนื่องแล้ว ล่าสุดนางรัตนาซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญได้มอบหมายให้นายศุภการ สิทธิกรงนิช ทนายความเข้ายื่นฟ้องนางสลักจฤฎดิ์ (ผู้สมัครหมายเลข 1) และนายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษ์ ส.ส.เชียงราย เขต 1 พรรคเพื่อไทย ในข้อหาฐานความผิดพระราชบัญญัติการเลือกตั้งท้องถิ่นปี 2545
โดยระบุว่า นางสลักจฤฎดิ์เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงและมีการกล่าวพาดพิงถึงนางรัตนา โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการใช้งบประมาณจัดงานเชียงรายดอกไม้บาน และการแจกจ่ายผ้าห่มกันหนาวแก่ประชาชนในฤดูหนาว
ซี่งทีมทนายความของนางรัตนาได้นำหลักฐานเป็นแฟ้มเอกสารการบันทึกการปราศรัย ฯลฯ ไปยื่นฟ้อง และศาล จ.เชียงรายได้ประทับรับฟ้องตามคดีหมายเลขดำที่ 2052/2555 วันที่ 21 พฤษภาคม 2555 ความอาญา โดยใช้เวลาในการดำเนินตามขั้นตอนราว 30 นาที
นายศุภารกล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายให้ยื่นฟ้องเกี่ยวกับเรื่องการร่วมกันกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งด้วยการขึ้นเวทีปราศรัย ด้วยการหลอกลวงจูงใจด้วยข้อความอันเป็นเท็จให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ก็ได้นำเอกสารอีกชุดหนึ่งไปร้องเรียนต่อ กกต.เชียงรายแล้วเช่นกัน ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นหน้าที่ของชุดสืบสวน กกต.และศาลในการหาข้อเท็จจริงตามขั้นตอนกระบวนการเลือกตั้งและกระบวนการยุติธรรมต่อไป ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายกฎหมายของตนจะทำการส่งหลักฐานเพิ่มเติมหากได้รับการร้องขอจาก กกต.และศาลต่อไป
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทั้งนางรัตนา และนางสลักจฤฎดิ์ เคยฟ้องร้องต่อกันมาแล้วโดยเป็นข้อหาในลักษณะคล้ายกัน ปัจจุบันคดีอยู่ในชั้นศาลฎีกา จนหลายฝ่ายเกรงว่าจะส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งนี้หากผู้สมัครที่ตกเป็นจำเลยถูกพิพากษาว่าผิดจริง
ทั้งนี้ นอกจากการแข่งขันระหว่างนางรัตนา กับนางสลักจฤฎดิ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว ในบรรดากลุ่มคนเสื้อแดงเองก็มีความขัดแย้งกันเรื่องสนับสนุนผู้สมัครเช่นเดิม โดยนายธวัชชัย ทองนาค แกนนำกลุ่มคนเจียงฮายรักประชาธิปไตย ระบุว่า พวกตนยังคงสนับสนุนนายสฤษฎ์ เพราะการต่อสู้ที่ผ่านมาคนเสื้อแดงต่อสู้โดยมีนายสฤษฎ์ร่วมด้วยตลอด แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลกลับไม่มีการประชุมหารือเพื่อเลือกตัวแทนของภาคประชาชนลงสมัครเป็นนายก อบจ.เชียงราย พรรคกลับเลือกคนของตัวเองลงสมัครโดยไม่ฟังเสียงส่วนรวม
แกนนำคนเสื้อแดงคนหนึ่งกล่าวว่า หลังได้เป็นรัฐบาลได้ไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้าน ส.ส.คนหนึ่ง แต่ ส.ส.คนนั้นพูดบนเวทีว่า บ้านนี้ไม่ใช่บ้านคนเสื้อแดง ต่อมาก็มีการเลือกเครือญาติของตนลงสมัครในสนามเลือกตั้งท้องถิ่น ดังนั้นคนเสื้อแดงที่แท้จริงและร่วมต่อสู้กันมาตั้งแต่ต้นจะส่งผู้สมัครลง หากได้รับเลือกก็จะแสดงให้เห็นถึงพลังของประชาชน แต่หากเป็นตัวแปรให้ผู้สมัครอีกฝ่ายได้รับเลือกตั้งก็จะเป็นการให้บทเรียนแก่พรรคเพื่อไทย หรือหากผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งก็ดีใจด้วยเพราะอย่างน้อยก็มาจากขั้วเดียวกัน