บุรีรัมย์ - สุดทน แม่ค้า “ร้านบักหุ่ง” ขายส้มตำอาหารอีสานบุรีรัมย์ เขียนป้ายแขวนต้นมะละกอ วอนโจรหยุดขโมย ระบุ “ที่เหลือขอ จะเอาไว้ทำพันธุ์” หลังถูกขโมยเกือบเกลี้ยงต้น ทั้งที่ปลูกไว้เพื่อเก็บมาตำส้มตำขายและทำพันธุ์เพราะมะละกอราคาแพงขึ้นกว่าเท่าตัว เผยหวังหัวขโมยเห็นใจหยุดซ้ำเติมคนหาเช้ากินค่ำในช่วงสินค้าราคาแพง
วันนี้ (24 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ “ร้านบักหุ่ง” ของ น.ส.วรรณา เจือกรัมย์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/5 ถ.ธานี ชุมชนประปาเก่า เขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเปิดร้านขายส้มตำและอาหารอีสาน ได้สร้างความสนใจแก่ลูกค้า และประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาบริเวณดังกล่าว เมื่อ น.ส.วรรณาได้นำป้ายมีข้อความว่า “ที่เหลือขอนะคะ จะเอาไว้ทำพันธุ์ ขอโทษไม่ได้หวง แต่ห้ามเก็บ” ไปผูกติดไว้กับต้นมะละกอที่ปลูกไว้ริมรั้วข้างร้าน แต่กลับถูกมือดีมาลักขโมยลูกมะละกอไปเกือบเกลี้ยงต้น เหลืออยู่เพียงไม่กี่ลูก ทั้งที่ปลูกไว้เพื่อเก็บมาตำส้มตำขาย และทำพันธุ์เพาะปลูกต่อไป เนื่องจากขณะนี้มะละกอมีราคาแพงมาก
น.ส.วรรณาเจ้าของ “ร้านบักหุ่ง” เล่าว่า เมื่อประมาณช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้ไปซื้อเมล็ดมะละกอพันธุ์ดำเนินจากตลาดสดมาทดลองเพาะปลูกไว้ริมรั้วข้างร้าน ปรากฏว่าผ่านไป 3-4 เดือนมะละกอได้ให้ผลผลิตออกมาดกเต็มต้น จึงเก็บมาตำส้มตำขาย แต่เมื่อช่วงปลายเดือน เมษายนที่ผ่านมาได้มีโจรมาลักเก็บมะละกอไปจำนวนมากจนเหลือติดต้นไว้ไม่กี่ลูก ทำให้ตนต้องเขียนข้อความมาติดไว้ที่ต้นมะละกอ อ้อนวอนหัวขโมยอย่าได้มาลักขโมยมะละกอไปอีกเลย ขอไว้ทำพันธุ์บ้าง ไม่ได้หวง หากอยากได้จะมาขอกันดีๆ ก็ยินดีแบ่งให้
เจ้าของ “ร้านบักหุ่ง” ยังฝากถึงหัวขโมยด้วยว่า หากคิดจะมาลักขโมยอีกก็ขอให้อ่านป้ายก่อนเพื่อจะได้เกิดจิตสำนึกและเปลี่ยนใจ เพราะเป็นมะละกอพันธุ์ดีจะเก็บเอาไว้ตำส้มตำขาย และทำพันธุ์
อีกทั้งขณะนี้มะละกอมีราคาแพงด้วย เมื่อก่อนซื้อถุงหนึ่ง 10 กิโลกรัมราคา 60-70 บาท แต่ตอนนี้ 10 กิโลกรัมราคา 160-170 บาท จึงอยากฝากถึงโจรที่มาลักขโมยมะละกอไปขอให้เห็นใจคนหาเช้ากินค่ำบ้าง อย่ามาซ้ำเติมในช่วงที่สินค้ามีราคาแพง