ตม.จันท์ จับชายหนุ่ม-สาวประเภทสองขับรถยนต์หนีไฟแนนซ์ขายเขมร

จันทบุรี- ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี จับชายหนุ่ม และสาวประเภทสอง ขับรถยนต์หนีไฟแนนซ์เข้าไปขายประเทศเขมร สารภาพรับจ้างทำมาแล้วหลายครั้ง

วันนี้ (24 พ.ค.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี (ตม.) อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี พ.ต.ท.เพื่อน ดวงจินา สารวัตรใหญ่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี แถลงข่าวผลการจับกุมการลักลอบนำรถยนต์ข้ามประเทศ เพื่อจำหน่ายให้แก่นายทุนที่ประเทศกัมพูชา

พ.ต.ท.เพื่อน กล่าวว่า เมื่อเวลา 19.50 น.ของวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีนายสมประสงค์ มัทวรัตน์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 ถนนเทศบาล17 ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง และนายประณต ปรางทอง อายุ 20 ปี (สาวประเภทสอง) อยู่บ้านเลขที่ 93/1 ม.8 ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นำเอกสารรถยนต์มายื่นที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองถาวรบ้านผักกาด ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เพื่อแสดงความประสงค์จะเดินทางออกจากประเทศไปยังประเทศกัมพูชา

สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล คือ อีซูซุ 4 ประตู สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กง 5895 สระบุรี แต่ขณะยื่นเอกสาร จนท.ตรวจคนเข้าเมืองพบมีพิรุธ เอกสารไม่ตรงกับรถยนต์ที่จะเดินทางออกนอกประเทศ จึงขอตรวจสอบรถ ทั้งสองจึงไหวตัวทันขับรถหลบหนีแต่ไม่พ้น ด.ต. มนต์ชัย มีนิล และส.ต.อ.ชวณัฐ เมืองวงษ์ จนท.ด่านฯ ได้ขับรถติดตามสกัดจับได้ที่บ้านคลองใหญ่ ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จันทบุรี และนำตัวมาสอบสวนที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นของ ส.ท.วีรยุทธ มูลศรีแก้ว สังกัดทหารบกที่จังหวัดลพบุรี จึงประสานไปยังเจ้าของรถ จนทราบว่าได้มีการขายดาวน์ให้แก่นายทหารยศ ร้อยเอก ที่ จ.ปราจีนบุรี ก่อนที่จะหายล่องหนมาโผล่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี ช่องบ้านผักกาด จากการตรวจสอบรถยนต์โดยละเอียดพบมีการเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียน ปลอมเอกสารรถยนต์แก้ไขแผ่นป้ายเสียภาษี และป้าย พ.ร.บ.เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างจากนายทุนให้ขับเข้าประเทศกัมพูชาโดยจะมีคนชาวกัมพูชามารับรถและจ่ายเงินในราคา 3 แสนบาท ซึ่งผู้ต้องหาทั้งคู่ให้การต่อว่ากระทำแบบนี้มาแล้ว 5 ครั้ง จึงแจ้งข้อหาร่วมกันปลอม และใช้เอกสารปลอม, ลักทรัพย์หรือรับของโจร, แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน โดยทั้งคู่รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ก่อนส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.โป่งน้ำร้อน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.ท. เพื่อน กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีดังกล่าวจะมีการขยายผล เพื่อสืบสวนสอบสวนผู้ครอบครองรถจนถึงนายทหารยศร้อยเอกทหารบก ว่า มีส่วนพัวพันหรือเกี่ยวข้องกับขบวนการดาวน์รถยนต์ เพื่อลักลอบขายต่างประเทศหรือไม่ต่อไป