ศรีสะเกษ - ชาวบ้านชุมชนโนนสำราญและหลายหมู่บ้านใน อ.เมืองศรีสะเกษ รวมกลุ่มต่อต้านโครงการก่อสร้างพนังกั้นน้ำ “ห้วยสำราญ” ป้องกันน้ำท่วมเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ 22 กิโลเมตร 955 ล้านบาท ระบุจะทำให้น้ำท่วมเขตรอบนอกหลายหมู่บ้าน-ชุมชนสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านเดือดร้อนหนักหลายพันครอบครัว จวกงุบงิบไม่ได้ทำประชาคม ประชาชนส่วนใหญ่ผู้ได้รับกรรมโดยตรงไม่รู้เรื่องโครงการ จี้ทบทวน ขู่เตรียมดำเนินการทางกฎหมาย
วันนี้ (21 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศาลาประชาคมชุมชนโนนสำราญ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีแกนนำชาวบ้านชุมชนโนนสำราญ และจากหลายหมู่บ้านหลายชุมชนในเขต อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นำโดยนายทิวา รุ้งแก้ว ประธานคณะกรรมการประสานงานเพื่อพัฒนาจังหวัดศรีสะเกษ (คปศ.) และนางทองคำ ชัยชาญ แกนนำชาวบ้านชุมชนโนนสำราญ ซึ่งเป็นผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างพนังกั้นน้ำห้วยสำราญ ตามโครงการศึกษาออกแบบรายละเอียดระบบป้องกันน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ระยะทางก่อสร้างทั้งสิ้น 15.5 กม. และนอกเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ (เทศบาลตำบลน้ำคำ) ระยะทางก่อสร้างทั้งสิ้น 22.3 กิโลเมตร (กม.) รวมเป็นมูลค่าการก่อสร้างทั้งสิ้น 955 ล้านบาท ได้พากันมาประชุมเพื่อหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ เนื่องจากโครงการก่อสร้างพนังกั้นน้ำจะทำให้เกิดน้ำท่วมในเขตรอบนอกหลายหมู่บ้านและหลายชุมชน ชาวบ้านจะได้รับความเดือดร้อนหลายพันครอบครัว ซึ่งบรรดาแกนนำชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบได้แสดงความเห็นกันอย่างแพร่หลาย โดยมี นายพยม ธารีชาญ ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ เป็นตัวแทนภาคราชการเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย
นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานคณะกรรมการประสานงานเพื่อพัฒนาจังหวัดศรีสะเกษ (คปศ.) กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้มีข้อสรุปแนวทางการต่อสู้อยู่ 2 ประเด็นด้วยกัน คือ จะส่งตัวแทนไปยื่นหนังสือต่อส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ยับยั้งการก่อสร้าง และเพื่อให้มีการทำประชาคมอีกครั้งหนึ่งเพื่อสอบถามความเห็นจากประชาชนชาวศรีสะเกษว่าสมควรที่จะทำการก่อสร้างพนังกั้นน้ำตามลำห้วยสำราญเพื่อป้องกันน้ำท่วมหรือไม่
อีกประการหนึ่งคือ มอบหมายให้แกนนำผู้ได้รับผลกระทบที่เป็นนักกฎหมายได้ศึกษาแนวทางของกฎหมายว่า หากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไม่ยุติการก่อสร้างพนังกั้นน้ำ จะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไปอย่างไร
นายทิวากล่าวต่อว่า หากมีการก่อสร้างพนังกั้นน้ำตามแผนที่วางไว้ น้ำจะท่วมหลายชุมชนเดือดร้อนหลายพันครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนโนนสำราญน้ำจะท่วมทั้งหมดและระดับน้ำท่วมจะสูงประมาณ 2 เมตร เนื่องจากบริเวณชุมชนโนนสำราญเป็นแอ่งกระทะรับน้ำเพราะไม่มีการป้องกันน้ำส่วนนี้ไว้เลย แต่ส่วนอื่นมีการกั้นน้ำไว้หมดแล้ว
ยกตัวอย่างเช่น ทางด้านทิศตะวันตกก็จะใช้ถนนสายบ้านโนนสำนัก-บ้านแก้ง เป็นคันคูสูงขึ้นมาอีก 2 เมตร ทางด้านฝั่งลำห้วยสำราญก็จะยกคันคูขึ้นมาอีก 2 เมตร แต่ชุมชนโนนสำราญไม่มีการป้องกันไว้เลย จึงทำให้น้ำท่วมสูงอย่างน้อย 2 เมตร
“หากดูตามผังโครงการนี้แล้วจะพบว่าคนที่ได้รับผลกระทบจะมีมากกว่าคนที่ได้ประโยชน์ ทางออกที่ดีที่สุดในเรื่องนี้เห็นว่าจะต้องชะลอโครงการนี้ไว้ก่อนเพื่อทำการประชาคมรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านก่อน ไม่ใช่ว่าเรียกใครก็ได้ที่เป็นพวกตัวเองเข้าไปประชาคมแต่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่องด้วยทั้งที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งไม่ถูกต้อง”
นายพยม ธารีชาญ ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า การที่ตัวแทนชุมชนโนนสำราญและชุมชนต่างๆ ได้มีการประชุมหารือเกี่ยวกับปัญหานี้ นับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะได้มีการรับทราบสภาพปัญหาร่วมกัน ซึ่งตนจะนำรายละเอียดเรื่องนี้รายงานให้ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้ทราบ เพื่อจะได้ร่วมกันพิจารณาหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป