เพชรบุรี - “ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ” เดินหน้าประกาศตัวเป็น “แลนด์มาร์กแหล่งชอปปิ้ง” และท่องเที่ยวรูปแบบใหม่เชิงไลฟ์สไตล์ในย่านหัวหิน-ชะอำ ที่มาพร้อมสโลแกน “Amused Shopping Experience” หรือ “สีสันใหม่แห่งประสบการณ์ความสนุก” หวังดึงนักท่องเที่ยว และนักชอปเป็นสำคัญชูเป็นโมเดลแหล่งท่องเที่ยวระดับนานาชาติแถบชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ตามยุทธศาสตร์ Royal Coast หลังได้พิธีเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 5 พ.ค.55 โดยผู้ว่าฯ เพชรบุรี เป็นประธาน
น.ส.นัสวีร์ ตันติจิรสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ธีม พลาซ่า ดีวีลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัวโครงการซานโตรินี พาร์ค ชะอำ อย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 5 พ.ค.2555 ที่ผ่านมา โดยมีนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานเปิดงาน โดยในวันเปิดมีการจุดพลุฉลองพิธิเปิดอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา มีเหล่าดาราศิลปินมากมายที่ขึ้นเวทีให้ความสนุกสนานแก่นักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงาน
น.ส.นัสวีร์ กล่าวถึงความเป็นมาของซานโตรินี พารค์ ชะอำ ด้วยว่า ทางโครงการซานโตรินี พาร์ค ชะอำ ใช้เงินลงทุนกว่า 500 ล้านบาท บนพื้นที่ 60 ไร่ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ ต้องการให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่ระดับพรีเมียมในแถบชายฝั่งทะเลอ่าวไทย เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง สร้างสรรค์ประสบการณ์ชอปปิ้งและท่องเที่ยวรูปแบบใหม่เชิงไลฟ์สไตล์ในย่านหัวหิน-ชะอำ โดยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ตลอดจนเทศกาลต่างๆ อีกทั้งสถานที่ และบรรยากาศในช่วงเย็นจนถึงค่ำยังเหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนพบปะสังสรรค์ รับประทานอาหารในหมู่เพื่อน และครอบครัว
“จุดขายที่สำคัญของโครงการนี้ คือ การให้น้ำหนักกับบรรยากาศที่เราสร้างคือคอนเซ็ปต์ซึ่งอิงกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้เทคโนโลยีผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งพัฒนาไปรวดเร็วมากคือ คนชอบถ่ายรูป ชอบแชร์รูป ดังนั้น คอนเซ็ปต์ของเราคือ ทุกมุมภายในโครงการฯ ต้องถ่ายรูปสวย มีความแตกต่างด้วยสถาปัตยกรรมสีฟ้า-ขาวสไตล์เกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ ฉากหลังของโครงการฯ เราเป็นภูเขา ซึ่งมีเสน่ห์มากเราจึงลงทุน และใส่ใจกับด้านสถาปัตยกรรม และงานประติมากรรมในพื้นที่ค่อนข้างสูง”
น.ส.นัสวีร์ เปิดเผยต่ออีกว่า จากการสำรวจทางการตลาดพบว่า ย่านหัวหิน-ชะอำ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่หัวหิน 4 ล้านคนต่อปี และด้วยที่ตั้งสำคัญ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักทางเดียวที่จะมุ่งสู่ภาคใต้และกลับเข้ากรุงเทพฯ จึงมีรถยนต์ผ่านหน้าโครงการฯ ในช่วงวันจันทร์-วันศุกร์ เฉลี่ย 60,000 คันต่อวัน ส่วนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เฉลี่ยอยู่ที่ 80,000 คันต่อวัน และในช่วงวันหยุดเทศกาลมีปริมาณสูงถึง 1.2 แสนคันต่อวัน และส่วนใหญ่ประมาณ 80% เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล
ดังนั้น เป้าหมายของโครงการ ที่กำหนดให้ซานโตรินีพาร์ค ชะอำเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยวในแถบชายฝั่งทะเลตะวันออกนั้น เป็นโมเดลที่จะสอดคล้องกับแผนของภาครัฐที่ต้องการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลให้สู่ระดับนานาชาติ ภายใต้โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลอ่าวไทย (Royal Coast)
น.ส.นัสวีร์ กล่าวต่ออีกว่า ซานโตรินีพาร์ค ชะอำ ถือเป็นสถานที่แห่งสีสันที่จะจัดให้มีกิจกรรมตลอดทั้งปี โดยได้ออกแบบพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 3,000 ตารางเมตร ให้สอดคล้องกับกิจกรรมต่างๆ ที่จะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีสัดส่วนการใช้งานที่ลงตัว และยังได้รังสรรค์บรรยากาศให้เหมาะสำหรับการพักผ่อนต่างสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดพื้นที่สวนที่เปิดโล่งเพื่อให้สามารถนั่งฟังเพลงจากคอนเสิร์ตเล็กๆ พร้อมวิวสวยๆ รอบตัว
นอกจากนี้ ยังตอบรับการเป็นเมืองท่องเที่ยวของคนรักดนตรีด้วยลานคอนเสิร์ตที่สามารถจุได้ถึง 2,000 ที่นั่ง หรือ 5,000 คนยืน ซึ่งพร้อมสำหรับจัดกิจกรรมบันเทิงกลางแจ้งเต็มรูปแบบ และด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม พร้อมกับการตกแต่งอย่างตั้งใจในทุกรายละเอียด ซึ่งไม่ได้เน้นแค่ความสวยงามแต่ให้รู้สึกถึงการเป็นสถานที่ที่สร้างสรรค์ แปลกใหม่ และให้ความสุขใจจึงเหมาะกับการเลือกเป็นสถานที่จัดงานสำหรับคู่รักที่ชื่นชอบรูปแบบงานแต่งงานที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย
โดยที่ที่มีการแบ่งแยกเป็นโซนวิลเลจ (Village) รวบรวมร้านค้าที่ตอบสนองความต้องการและความชอบได้ทุกเพศทุกวัย ที่ไม่เพียงมีสินค้าแบรนด์เนมชื่อดั งแฟชั่นแอ็กเซสเซอรี สินค้าไลฟ์สไตล์ และอาร์ต แอนด์ เดคอร์เท่านั้น แต่ยังเปิดรับสินค้าจากผู้ประกอบการ SME ที่มีแนวความคิดอินเทรนด์ไม่ซ้ำใคร ซึ่งล้วนผ่านการเลือกเฟ้นมาอย่างดีทั้งสิ้น การเดินชอปปิ้ง ในโซนนี้จะให้ความรู้สึกราวกับกำลังเดินชมร้านรวงบนเกาะซานโตรินีทุกร้าน ทุกแบรนด์จะออกแบบหน้าร้านให้กลมกลืนกับตัวอาคาร นอกจากนี้ ยังมีส่วนของร้านอาหารชั้นนำเพสตรี้ช็อป และคาเฟ่ให้ได้เพลิดเพลินในระหว่างชอปปิ้ง
สำหรับร้านค้าในโครงการฯ มีทั้งหมดประมาณ 140 ร้าน เน้นสินค้าไลฟ์สไตล์ แฮนด์เมด และร้านอาหาร โดยมีแบรนด์เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายชั้นนำ โซนพาร์ค (Park) ที่ยกเอาสวนสนุกขนาดย่อมมาไว้บนพื้นที่สีเขียว เครื่องเล่นทุกชิ้นผ่านการคัดสรรมาอย่างดีในแง่ความสนุก ความแปลกใหม่ และความปลอดภัย ทั้ง Ferris Wheel ชิงช้าสวรรค์ที่สูงถึง 40 เมตร ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นโครงการฯ ในมุมมอง Bird’s eye view อย่างจุใจ และยังเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของโครงการนี้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมี Merry Go Round หรือม้าหมุน 2 ชั้น และ Ponycycle ม้าโยกสุดคลาสสิกที่จะหมุนพาไปสู่สัมผัสแห่งเทพนิยาย สำหรับผู้ที่รักความตื่นเต้นก็มีเครื่องเล่นหลากหลายไม่ว่าจะเป็น G-Max Reverse Bungee แคปซูลดีดขึ้นฟ้า และ G-MaxGiant Swing นำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ ผู้นำด้านกิจกรรมแอดเวนเจอร์ Water Ball ลูกบอลกลางน้ำที่จะทำให้เด็กๆ ได้สนุกภายในลูกบอลยักษ์รวมถึง XD Dark Ride เครื่องเล่น 7D สุดไฮเทคสั่งตรงจากประเทศแคนาดา และ 4DX Rider โรงภาพยนตร์สุดยอดประสบการณ์ 4 มิติ พิเศษสำหรับ Slider และ Wallholla เครื่องเล่นปีนป่ายที่มีรางวัลการันตีจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นตัวแรกในเอเชีย เป็นความสนุกเพิ่มเติมที่เราจัดมาบริการฟรีอีกด้วย
สำหรับโครงการซานโตรินีพาร์ค ชะอำ เปิดบริการทุกวันโดยวันจันทร์-วันพฤหัสบดี เวลา 10.00-21.00 น. เปิดให้เข้าชมฟรี (ยกเว้นเครื่องเล่นเก็บค่าบัตรตามปกติเริ่มต้นที่ 120 บาทต่อท่าน) และช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ วันศุกร์-วันอาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-22.00 น. ค่าบัตรผ่านประตูราคา 50 บาท ต่อ 1 ท่าน
นอกจากนี้ ในวันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน 2555 ที่จะถึงนี้ ทางโครงการจัดงาน GTHFun Face @ Santorini Park ชะอำ ที่ทุกท่านจะได้เอาหน้าแนบหน้ากับดาราแบบ Face to Face โดยมีจะเหล่าบรรดาศิลปินมากมายมาร่วมให้ความสนุก ความบันเทิง เช่น ทีมงานจากภาพยนต์ Suck Seed, พีค ภัทรศยา, เต้ย จรินท์พร, แจ๊ค แฟนฉัน, ป๊อป Calories Blah Blah, เต๋อ ฉันทวิชช์, ไอซ์ ปรีชญา, คริสหอวัง, ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, Paradox และ Jetset’erที่เปิดให้จองบัตรแล้วผ่านทาง THAITICKETMAJOR ทุกสาขา บัตรราคา 249 บาท (ราคานี้รวมค่าบัตรผ่านประตู/เสื้อ T-SHIRT และค่าเครื่องเล่น) งานเริ่มตั้งแต่ 4 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน หรือเข้าไปติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.tacebook.com/gthchannel และ www.gth.co.th/funtace