จันทบุรี - ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาราคาเงาะตกต่ำ พร้อมทั้งระดมความคิดวางแผนแก้ปัญหาระยะยาว หลังเมื่อคืนเกษตรกรชาวสวนฮือเทเงาะประท้วงปิดถนนเนื่องจากราคาตกต่ำ
วันนี้ (17 พ.ค.) นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบกด้วย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด สหกรณ์จังหวัด องค์กรเอกชน และตัวแทนเกษตรกรชาวสวนจังหวัดจันทบุรี มาร่วมประชุมในการแก้ปัญหาราคาเงาะตกต่ำ หลังเมื่อคืนที่ผ่านมาเกษตรกรชาวสวนเงาะได้ฮือในการเทเงาะ ปิดถนนสายสุขุมวิท
สาเหตุมาจากราคาเงาะตกต่ำเหลือเพียงกิโลกรัมละ 5 บาท ทำให้เกษตรกรชาวสวนไม่พอใจและลุกฮือมาประท้วงปิดถนนเพื่อเรียกร้องให้ทางจังหวัดเข้ามาช่วยเหลือ และแก้ไขอย่างเร่งด่วน ประกอบกับในช่วงนี้ผลผลิตเงาะของเกษตรกรกำลังออกสู่ตลาดจำนวนมาก ทำให้ผลผลิตที่ออกมาจึงมีการกระจุกตัว ไม่สามารถระบายออกนอกพื้นที่แหล่งผลิตได้ทัน ส่งผลให้ราคาที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจึงตกต่ำ และถูกพ่อค้าคนกลางกดราคาเหลือเพียงกิโลกรัมละไม่ถึง 10 บาท เกษตรกรได้รับผลกระทบ
ในเบื้องต้น ทางจังหวัดได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้การช่วยเหลือแล้ว โดยนำเงิน คชก.เข้าซื้อเงาะแทรกแซงราคานำตลาดเกรด A กิโลกรัมละ 11.50 บาท เป็นเงาะคุณภาพ 28 ลูก ต่อ 1 กิโลกรัม มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สหกรณ์ และสถาบันเกษตรกร เข้าร่วมโครงการรับซื้อเงาะแทรกแซงราคาตลาดช่วยเหลือเกษตรกรทั้งสิ้น 37 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่แหล่งผลิตทั้งหมด เพื่อลดค่าใช้จ่ายการขนส่งของเกษตรกร
อีกทั้งจังหวัดขอความร่วมมือเกษตรกรหากต้องเก็บผลผลิตออกจำหน่ายให้เลือกเก็บผลผลิตที่มีคุณภาพออกจำหน่ายก่อน ส่วนเงาะคละให้ชะลอการเก็บเกี่ยวผลผลิตออกไป และควรเก็บผลผลิตในช่วงเช้า หลังจากนั้น ช่วงบ่ายให้เร่งนำผลผลิตจำหน่ายก่อนค่ำไม่เช่นนั้นอาจถูกพ่อค้าคนกลางกดราคาลงได้
อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดได้เร่งกระจายผลผลิตไปยังตลาดปลายทางต่างจังหวัด มีการเพิ่มช่องทางขยายโควตา ตลาดเงาะประเทศกัมพูชาเพื่อนบ้านที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม และบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จากเดิมส่งออกวันละ 40 ตัน เพิ่มเป็นวันละ 60 ตัน
ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว จังหวัดได้ระดมความคิดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสถาบันการศึกษาในการวิจัยหาวิธีการรักษาคุณภาพผลผลิตเงาะสดให้ได้ระยะเวลานานกว่านี้ และจะมีการส่งเสริมการลงทุนแปรรูปเงาะ เช่น เงาะแช่แข็ง เงาะกระป๋อง เงาะอบแห้ง กระจายไปยังตลาดยุโรป และตะวันออกกลาง เพิ่มมูลค่าผลผลิต และเพิ่มช่องทางการตลาดให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งให้ความรู้ และขอความร่วมมือเกษตรกรลดพื้นที่การปลูกเงาะหันมาปลูกพืชเศรษฐกิจตัวอื่นทดแทน