เชียงราย - ทีวีจีนแพร่ภาพเจ้าหน้าที่เหมาเครื่องบินรับตัว “หน่อคำ” โจรสลัดแม่น้ำโขงจากทางการลาวแล้ว
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงรายแจ้งว่า สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี ของจีน ได้แพร่ภาพยืนยันการทำข้อตกลงระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนกับ สปป.ลาว ณ นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว เพื่อส่งมอบตัวนายหน่อคำ หรือจายหน่อคำ หนึ่งในผู้ที่ถูกระบุว่าเป็นหัวหน้าโจรสลัดแม่น้ำโขง ซึ่งก่อกวนด้วยการปล้น เรียกค่าคุ้มครอง และยิงเรือสินค้าและเจ้าหน้าที่จีนในแม่น้ำโขงมาแล้วหลายครั้งในรอบ 1-2 ปีที่ผ่านมา
นายหน่อคำถูกเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ควบคุมยาเสพติดของจีน จับกุมพร้อมกับพรรคพวกอีกหลายคนได้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งเขตเมืองมอม เมืองท่าริมแม่น้ำโขงของแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ประมาณ 15 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 25 เมษายน 55 ที่ผ่านมา ก่อนถูกส่งตัวไปคุมขังที่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว และส่งไปยังนครเวียงจันทน์ในเวลาต่อมา
การส่งมอบตัวครั้งนี้มีรายงานว่า สถานทูตจีนประจำ สปป.ลาวได้มีการเช่าเหมาลำเครื่องบินเพื่อรับมอบตัวนายหน่อคำเป็นการเฉพาะ ซึ่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ของจีนได้รับมอบตัวนายหน่อคำ โดยมีกระทรวงป้องกันความสงบ สปป.ลาว เป็นผู้ลงนามในการส่งมอบ จากนั้นคณะจากประเทศจีนได้นำตัวนายหน่อคำขึ้นเครื่องบินไปยังประเทศจีนต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าทางการจีนนำตัวนายหน่อคำไปดำเนินคดีที่ปักกิ่ง หรือคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลหยุนหนัน ซึ่งเป็นมณฑลที่อยู่ใกล้ประเทศไทยที่สุดเพียงประมาณ 250 กิโลเมตร ติดชายแดน สปป.ลาว และพม่า
ทั้งนี้ ตามข่าวของทางการจีนระบุว่า นายหน่อคำถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจในลุ่มแม่น้ำโขง-อาเซียน โดยมีสมุนอยู่ในสังกัดกว่า 100 คน และมีอาวุธครบมือ ทั้งปืนอาก้า เอ็ม 16 บาซูกา ปืนกล และเชื่อว่าเป็นกลุ่มที่คอยก่อเหตุยิงเรือสินค้าจีนมาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งพัวพันคดีการปล้นเรือสินค้าจีน 2 ลำ คือเรือบรรทุกกระเทียมและแอปเปิล Hua Ping และเรือบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง Yu Xing 8 Hao เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 54 บริเวณชายแดนพม่า-สปป.ลาว ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ประมาณ 25 กิโลเมตร จนเป็นเหตุให้ลูกเรือเสียชีวิต 13 ศพ
ทางการไทยพบเรือลอยลำเข้ามาถึงบ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน บนเรือพบศพและอาวุธปืนเล็กกลเอสเค 47 จำนวน 1 กระบอก ยาบ้าบนเรือทั้ง 2 ลำรวมกว่า 920,000 เม็ด แต่ต่อมาได้มีการดำเนินคดีต่อทหารไทยจำนวน 9 นายในข้อหาฆ่าผู้อื่นและปิดบังซ่อนเร้นศพเพราะสงสัยว่าไปพัวพันกับกลุ่มของนายหน่อคำด้วย
“จายหน่อคำ” เป็นบุคคลที่หลายประเทศต้องการตัวไปดำเนินคดี โดยรัฐบาลไทยระบุว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และตั้งค่าหัวนำจับเอาไว้ถึง 2 ล้านบาท เพราะมีข่าวเรื่องการค้ายาเสพติดและยังเก็บค่าผ่านทางยาบ้าที่ผ่านเขตอิทธิพลของตนเม็ดละ 3 บาท ขณะที่ทางการพม่าก็แถลงในที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่น หรือทีบีซีหลายครั้งว่า เป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมพัวพันกับการค้ายาเสพติด
ส่วนทางการจีนเคยประสบปัญหามีกลุ่มติดอาวุธเรียกค่าคุ้มครองเมื่อเรือสินค้าแม่น้ำโขงจากจีนตอนใต้-เชียงแสน แล่นผ่านเขตอิทธิพลของนายหน่อคำ จนมีเรือสินค้าถูกยิง ปล้น หรือแม้แต่เรือตำรวจจีนที่ลาดตระเวนลงมาก็เคยถูกซุ่มยิงมาแล้วหลายครั้ง กระทั่งทางการจีนเริ่มต้องการตัวมากขึ้นเพราะเกิดเหตุยิงลูกเรือจีน 13 ศพ จึงได้ผลักดันและเร่งรัดให้ประเทศไทย สปป.ลาว และพม่า ตั้งศูนย์คุ้มกันเรือในแม่น้ำโขงที่เมืองกวนเหล่ย เมืองท่าหน้าด่านในแม่น้ำโขงของจีน
ส่วนทางการไทยได้ตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง (ศปปข.) มีศูนย์บัญชาการอยู่ที่ ภ.ภาค 5 และ ศปปข.ส่วนหน้าที่ท่าเรือเชียงแสน นอกจากนี้จีนยังรับเป็นธุระจัดหาเรือลาดตระเวนในแม่น้ำโขงให้พม่าและ สปป.ลาว ประเทศละ 1 ลำ โดยที่ผ่านมามีการร่วมมือกันฝึกกำลังหลายครั้ง และยังมีการบุกเข้าโจมตีฐานที่มั่นเดิมของนายหน่อคำที่บ้านสามพู ประเทศพม่า เกาะกลางแม่น้ำโขง และฝั่งตรงกันข้ามคือบ้านห้วยต่าง สปป.ลาว ที่ใช้เป็นสถานที่ซ่องสุมกลางแม่น้ำโขง หลังถูกปราบปรามอยู่พักใหญ่จึงถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว