เชียงราย - จับได้คาหนังคาเขา โจ๋เชียงรายรับจ้าง “ต้อมแดน 2” โยนมือถือ-อุปกรณ์ พร้อมยาบ้าข้ามกำแพงคุก สารภาพทำมาแล้วกว่า 10 ครั้งจนมีเงินซื้อจักรยานยนต์ใหม่เอี่ยมได้ แถมมีเงินซื้อยาบ้าเสพวันละ 2-3 เม็ด สาวประวัติพบเคยถูกจับแล้วอยู่ระหว่างประกันยังก่อเหตุอีก ผบ.เตรียมค้นคุกหาหลักฐานต่อ
วันนี้ (8 พ.ค.) นายไพโรจน์ พันธุ์แก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลาง จ.เชียงราย ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เรือนจำว่าสามารถจับกุมชายได้ 1 คนขณะกำลังโยนสิ่งของเข้าไปในเรือนจำ จึงไปตรวจสอบ
โดยพบว่าที่ข้างรั้วของแดน 2 เรือนจำใกล้กับประปาเรือนจำ และสถานที่จอดรถของญาติที่ไปเยี่ยมผู้ต้องขัง เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายเกียรติกุล เชอหมือ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/ช ม.10 ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดงดำ สภาพใหม่เพิ่งซื้อจำนวน 1 คัน พร้อมของกลางที่อยู่ใต้เบาะรถเป็นห่อพลาสติกสีดำห่อด้วยเทปกาวอย่างดี ภายในมีหูฟังโทรศัพท์มือถือจำนวน 10 อัน เงินสด 220 บาท
สอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้นายเกียรติกุลได้ขับรถจักรยานยนต์ไปจอดที่ถนนทางเข้าเรือนจำ จากนั้นเดินไปบริเวณประปาเรือนจำใกล้กับรั้วเรือนจำ แล้วโยนวัตถุลักษณะเดียวกันกับที่ถูกตรวจยึดที่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ข้ามกำแพงเรือนจำเข้าไปแล้ว 1 ลูก เหลืออยู่ใต้เบาะอีก 1 ลูก
ซึ่งนายเกียรติกุลสารภาพว่าเคยทำมาแล้วกว่า 10 ครั้ง และสามารถโยนโทรศัพท์มือถือ-อุปกรณ์ผ่านกำแพงเข้าไปให้ผู้ต้องขังในเรือนจำได้ 6 ครั้ง ส่วนอีก 4 ครั้งพลาดเป้าโยนไม่ข้ามกำแพง รวมทั้งเคยโยนบริเวณแดน 3 แต่ระยะทางห่างไกล จึงหันไปโยนที่แดน 2 แทน
นายเกียรติกุลสารภาพอีกว่า สาเหตุที่ทำเพราะได้รับการว่าจ้างจากนาย “ต้อมแดน 2” ซึ่งเป็นผู้ต้องขังในแดน 2 ของเรือนจำดังกล่าวให้โยนวัตถุดังกล่าวเข้าไปให้เพื่อแลกกับเงินค่าจ้างก่อนโยนจำนวน 5,000 บาท และหากทำสำเร็จจะได้รับอีกจำนวน 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 25,000 บาท โดยที่ผ่านมาได้เงินมากจนสามารถนำไปซื้อจักรยานยนต์คันใหม่ได้ รวมทั้งซื้อยาบ้ามาเสพในราคาเม็ดละ 80 บาทได้วันละ 2-3 เม็ด
จากนั้นนายไพโรจน์จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เรือนจำได้เข้าไปตรวจค้นบริเวณที่นายเกียรติกุล ขว้างก้อนพลาสติกห่ออุปกรณ์หูฟังโทรศัพท์มือถือบริเวณด้านในของแดน 2 ปรากฏว่าไม่พบคาดว่ามีนักโทษรับไปเรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าหน้าที่กลับพบห่อพลาสติกเก่าภายในห่ออาหารและคาดว่าเป็นเศษของยาบ้าที่ละลายติดกับห่อพลาสติกจึงนำไปตรวจสอบเพิ่มเติม รวมทั้งเตรียมตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมายที่หายไปในเรือนจำต่อไป
นายไพโรจน์กล่าวว่า นายเกียรติกุลเคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมมาแล้วครั้งหนึ่งในข้อหานำสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในเรือนจำโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกันตัว แต่จากการสอบถามปรากฏว่าช่วงประกันก็ยังลักลอบโยนสิ่งของเข้าเรือนจำอีกนับ 10 ครั้ง กระทั่งมาถูกจับกุมครั้งนี้อีก จึงจะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมจากข้อหาเดิมเป็นข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ และเสพยาเสพติดต่อไป
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายเกียรติกุล และของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ยาว อ.เมือง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เรือนจำกลาง จ.เชียงราย เคยถูกตรวจพบการกระทำผิดในลักษณะนี้หลายครั้ง โดยแม้ว่ากำแพงจะสูงและมีพื้นที่ว่างด้านในและนอกรั้วลวดหนามฝั่งละ 6 เมตร แต่ก็มีคนพยายามโยนสิ่งของข้ามไปได้อีก ซึ่งกรณีของนายเกียรติกุลสารภาพว่าได้ฝึกโยนวัตถุที่บ้านจนชำนาญแล้วจึงมารับจ้างโยนของเข้าเรือนจำ