สุรินทร์- “บัวขาว บัญชาเมฆ” นักมวยไทยชื่อก้อง ย่องเงียบอุปสมบทที่วัดบ้านเกิดสุรินทร์ พร้อมเก็บตัวปิดเงียบไม่ยอมเปิดเผยอยู่วัดใด ด้านพระอุปัชฌาย์เผย “บัวขาว” ได้ฉายาว่า “อุปคุตโต” กำหนดบวช 7 วันเพื่อศึกษาพระธรรมวินัย ขณะผู้สื่อข่าวตามไปที่ “วัดบ้านเกาะแก้ว” คาดเป็น “พระบัวขาว” พอเห็นนักข่าวรีบปิดผ้าม่านและล็อกประตูกุฏิทันที เหลือแต่รองเท้าแตะ 1 คู่ไว้หน้าห้อง
วันนี้ (7 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านสองหนอง บ้านเลขที่ 13 ม.4 ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ นายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือ “บัวขาว ป.ประมุข” อายุ 30 ปี นักมวยไทยชื่อดังเจ้าของแชมป์มวยไทยไฟต์ 2012 และแชมป์เควัน 2 สมัยจากประเทศญี่ปุ่น และกำลังมีปัญหาคดีความ เนื่องจากถูกเจ้าของค่ายมวย ป.ประมุขยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายเหตุละเมิดสัญญา จำนวน 100 ล้านบาท อยู่ในขณะนี้นั้น ล่าสุดบรรยากาศในบ้านเป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีคนอยู่เฝ้าบ้านเพียงไม่กี่คน โดยบริเวณหน้าบ้านได้เปิดเป็นร้านขายของชำ และมีรถเก๋ง BMW 320i สีดำ หมายเลขทะเบียน สน 7168 กทม. ของนายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว จอดอยู่บริเวณหลังบ้านด้านข้างค่ายมวยบัญชาเมฆที่เพิ่งสร้างขึ้นหลังบัวขาวกลับมาอยู่บ้าน
ส่วน นายเล็ง บัญชาเฆม พ่อของบัวขาว ได้ย้ายไปอยู่กับภรรยาคนใหม่ที่ ต.กุดหวาย อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ นานแล้ว ส่วนน้องสาว และพี่ชายของบัวขาวเดินทางไปทำงานยังต่างจังหวัด
นายเสน่ห์ สุขโข อายุ 51 ปี ญาติของบัวขาว เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) บัวขาวได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุแบบเงียบๆ และจัดพิธีอย่างเรียบง่ายไม่ใหญ่โตอะไรที่ วัดสว่างอารมณ์ ต.หนองไผ่ล้อม อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ซึ่งมีเพียงญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านไม่กี่คนเท่านั้นที่ไปร่วมงาน
ขณะที่ พระครูสุวิจิตรธรรมา เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ เปิดเผยว่า วานนี้ (6 พ.ค.) ได้เป็นพระอุปัชฌาย์ทำพิธีอุปสมบทให้แก่บัวขาว ได้ฉายาว่า “อุปคุตโต” กำหนดบวชไว้ 7 วันเพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และได้ไปจำวัดอยู่ที่วัดเกาะแก้ว ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางต่อไปยังวัดเกาะแก้ว ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ พบว่าบรรยากาศภายในวัดเงียบสงบดี ผู้สื่อข่าวได้สอบถามพระสงฆ์ที่อยู่ในวัดแต่ไม่ยอมบอกว่าพระบัวขาวอยู่กุฏิหลังไหน ต่อมาผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นพระสงฆ์รูปหนึ่งอยู่ภายในกุฏิรูปร่างคล้ายพระบัวขาว จึงได้สอบถามว่าพระบัวขาวอยู่ในกุฏิหรือไม่ จากนั้นพระสงฆ์รูปดังกล่าวก็รีบปิดผ้าม่านและล็อกประตูกุฏิทันที เหลือไว้เพียงรองเท้าแตะวางอยู่หน้าห้อง 1 คู่
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวเชื่อว่าพระบัวขาวอยู่ในกุฏิหลังดังกล่าวแน่นอน แต่เมื่อมีความชัดเจนว่าพระบัวขาวไม่ต้องการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ทางผู้สื่อข่าวจึงได้ลาพระสงฆ์ในวัดเดินทางกลับ เพื่อให้พระบัวขาวได้ปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างสงบตามความประสงค์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม เป็นที่สังเกตว่าจากการที่ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามประชาชนเพื่อนบ้านของพระบัวขาว และพระสงฆ์ภายในวัด ต่างก็พยายามปิดบังข้อมูลเป็นอย่างดี และไม่ยอมเปิดเผยวัดที่พระบัวขาวจำวัดอยู่ และบางคนถึงกับสะกิดเตือนกันไม่ให้บอกผู้สื่อข่าว ซึ่งหากมองอีกด้านหนึ่งแสดงให้เห็นว่าเพื่อนบ้านและประชาชนชาวอำเภอสำโรงทาบทุกคนรัก และเป็นห่วง พระบัวขาวเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังพบมีป้ายขนาดใหญ่พิมพ์ข้อความให้กำลังใจพระบัวขาว ถูกติดตั้งไว้บริเวณ 3 แยก ปากทางเข้าตัวเมือง อ.สำโรงทาบ อีกด้วย โดยมีข้อความว่า “ชาวอำเภอสำโรงทาบ ขอเป็นกำลังใจให้บัวขาว บัญชาเมฆ นักสู้ผู้ไม่ยอมละทิ้งหน้าที่...สู้ต่อไป พวกเราจะยืนเคียงข้างคุณ” ซึ่งได้กลายเป็นป้ายข้อความที่สร้างความประทับใจแก่ผู้ที่พบเห็น และสัญจรผ่านไปมา