พิษณุโลก - หนีตายกันวุ่น หลังก๊าซแอมโมเนียโรงน้ำแข็งรั่ว ชุดเผชิญเหตุเข้าเคลียร์พื้นที่เจอก๊าซเข้าเต็มๆ น็อกคาที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดอุบัติเหตุก๊าซแอมโมเนียรั่วภายในโรงผลิตน้ำแข็งหลอด โรงน้ำแข็งภาคเหนือ ถ.เอกาทศรถ ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก เมื่อเย็นวานนี้ (1 พ.ค.) เจ้าของโรงงานได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยควบคุมสถานการณ์ โดยบริเวณเกิดเหตุเป็นโรงผลิตน้ำแข็งหลอด อยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 50 เมตร ด้านหลังติดแม่น้ำน่าน แต่ตลอดทั้งเส้นถนนเป็นย่านที่อยู่อาศัยของบ้านเรือนและร้านค้าของประชาชนที่หนาแน่น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดการจราจรถนนเส้นนี้โดยเด็ดขาด
ขณะที่บริเวณหน้าโรงงานนั้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครพิษณุโลกได้ระดมรถน้ำหลายคัน เข้ามาเตรียมพร้อม พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญก๊าซพิษสวมหน้ากากออกซิเจนเพื่อเข้าไปควบคุมสถานการณ์ภายใน
โดยบรรยากาศบริเวณหน้าทางเข้าโรงงานขณะเกิดเหตุ กลิ่นของก๊าซแอมโมเนียคละคลุ้งแรงและฉุนมาก ผู้ที่สูดดมจะมีอาการแสบจมูก ระคายเคืองตาอย่างมาก ทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าไปชุดแรก พนักงานโรงน้ำแข็ง และผู้สื่อข่าว แม้ว่าจะใช้หน้ากากปิดจมูก แต่กลิ่นของก๊าซแอมโมเนียก็แรงจนไม่สามารถเข้าใกล้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ชุดป้องกันอันตรายส่วนบุคคลชนิดใช้ออกซิเจนด้านหลัง หรือ SCBA ซึ่งมีนายประเสริฐ ติชะพันธ์ พนักงานดับเพลิงเทศบาลนครพิษณุโลก เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุเป็นชุดแรก และเป็นชุดที่เคยร่วมซ้อมแผนเผชิญเหตุก๊าซแอมโมเนียรั่ว ได้เข้าไปในโรงงานเพื่อปิดวาล์วก๊าซซึ่งใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างจะทำการปิดวาล์วก๊าซแอมโมเนีย ปรากฏว่าก๊าซพุ่งใส่ใบหน้า ทำให้นายประเสริฐน็อกหมดสติเพราะสูดดมก๊าซแอมโมเนียในปริมาณที่มาก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสามารถปิดวาล์วตัวใหญ่ได้สำเร็จ จากนั้นได้รีบนำร่างนายประเสริฐออกจากที่เกิดเหตุส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะสามารถปิดวาล์วก๊าซที่รั่วสำเร็จแล้ว แต่กลิ่นของก๊าซในอากาศบริเวณรอบโรงงานยังมีในปริมาณที่มาก แม้เวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมงกลิ่นก๊าซก็ยังแรงอยู่ เจ้าหน้าที่ได้ใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำคลุมรอบบริเวณหลังคาโรงงานลดการฟุ้งกระจายของก๊าซให้เจือจางลง
นายธีระ ปัตพงศ์ เจ้าของโรงน้ำแข็งภาคเหนือ เปิดเผยว่า ขณะกำลังผลิตน้ำแข็งหลอดอยู่นั้น เวลาประมาณ 16.45 น.เกิดท่อของก๊าซแอมโมเนียรั่วขึ้นมา จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาควบคุมสถานการณ์ โดยโรงผลิตน้ำแข็งหลอดมีถังเก็บก๊าซแอมโมเนียเพื่อทำความเย็นอยู่ 1 ถัง เมื่อเกิดรั่วขึ้นมา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ควบคุมสถานการณ์โดยปิดวาล์วก๊าซได้ แต่กลิ่นก็ยังตกค้างแรงอยู่มาก ทั้งนี้ พนักงานของโรงน้ำแข็งไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
นายวินัย ทองชุบ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก เปิดเผยว่า ก๊าซแอมโมเนียเป็นก๊าซที่ใช้ในกระบวนการทำความเย็นในโรงน้ำแข็ง จะมีกลิ่นที่ฉุนแรงมาก และจะเป็นอันตรายสำหรับผู้ที่ได้รับในปริมาณมาก ที่ผ่านมาจังหวัดพิษณุโลกได้มีการซ้อมแผนเผชิญเหตุก๊าซแอมโมเนียโรงน้ำแข็งรั่วติดต่อกันมา 3 ปีแล้ว ในวันนี้เมื่อเกิดสถานการณ์จริง การเข้าควบคุมจึงเป็นไปตามขั้นตอน แต่การกันประชาชนนั้นยังทำได้ไม่ดี ควรจะกันประชาชนให้ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ต่ำกว่า 150 เมตร รวมถึงผู้สื่อข่าวด้วย
ซึ่งสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก จะเข้าตรวจสอบก๊าซพิษที่ยังตกค้างอีกครั้ง หลังสามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบได้ ส่วนสาเหตุต้องให้สำนักงานอุสาหกรรมร่วมด้วย เบื้องต้นจะต้องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสำรวจผู้ที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณรอบๆ ว่ามีผลกระทบมากน้อยเพียงไร วันนี้โชคดีที่ลมไม่พัดรุนแรง ทำให้ก๊าซไม่ฟุ้งกระจายไปไกล
ทั้งนี้ ก๊าซแอมโมเนียเป็นก๊าซที่มีน้ำหนักและติดไฟ ก่อให้เกิดการระคายเคืองตา แสบตา แสบผิวหนังและเยื่อบุของจมูก สำหรับผู้ที่ได้รับก๊าซแอมโมเนียมาก โดยเฉพาะคนงาน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จะต้องชำระร่างกายด้วยน้ำสะอาด หลังจากนั้นต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ซึ่งจะทำการล้างตัวอีกครั้งก่อนรักษา ส่วนผู้ที่อยู่ในระยะห่าง 150 เมตร อาจจะได้รับผลเกี่ยวกับแสบตา แสบและระคายเคืองผิวหนัง อาบน้ำแล้วก็บรรเทาได้ไม่เป็นอะไร