xs
xsm
sm
md
lg

“สวนดุสิตโพล” ชี้ คนกรุงผวาเพลิงไหม้ตึกสูง-สวดระบบกันอัคคีภัยห่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เพลิงไหม้ตึกฟิโก้ ย่านอโศก เมื่อสัปดาห์ก่อน
“สวนดุสิตโพล” เผย คนกรุงเทพฯ กว่าร้อยละ 60 ไม่มั่นใจการป้องกันไฟไหม้ หลังเกิดเหตุไฟไหม้ตึกสูงกลางกรุง 2 แห่งในรอบไม่ถึงสัปดาห์ ชี้ เหตุการณ์เกิดบ่อย แต่การช่วยเหลือและการกู้ภัยของเจ้าหน้าที่มักมีปัญหา ซ้ำยังเกิดในย่านใจกลางเมือง ควรมีระบบความปลอดภัยและดูแลเอาใจใส่กว่านี้

วันนี้ (11 มี.ค.) “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนที่พักอาศัยในกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล จำนวน 1,267 คน ระหว่างวันที่ 9-10 มีนาคม 2555 ต่อกรณีไฟไหม้ตึกสูงในกรุงเทพฯ ที่เกิดขึ้น 2 ครั้งในเวลาห่างกันไม่ถึงสัปดาห์ สรุปผลได้ดังนี้

1.คนกรุงเทพฯ คิดอย่างไร? กับเหตุการณ์ไฟไหม้ตึกสูงใจกลางเมือง
อันดับ 1ควรมีระบบการป้องกันอัคคีภัยที่ดีกว่านี้ มีการตรวจเช็คระบบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ48.90%
อันดับ 2สาเหตุน่าจะเกิดจากความประมาท จนเป็นเหตุให้มีทั้งผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ
ตลอดจนทรัพย์สินได้รับความเสียหาย22.55%
อันดับ 3เป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้น /รู้สึกกลัวและตกใจ /กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก 12.08%
อันดับ 4ส่งผลต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศเพราะเกิดขึ้นในย่านใจกลางเมือง 9.46%
อันดับ 5ภาครัฐควรตรวจสอบและควบคุมดูแลอาคารสูงให้เข้มงวดกว่านี้โดยให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย 7.01%

2. คนกรุงเทพฯ คิดว่า จากเหตุการณ์ไฟไหม้ตึกสูงที่เกิดขึ้นทั้ง 2 แห่งในกรุงเทพฯ ซึ่งห่างกันไม่ถึงสัปดาห์ ส่งผลกระทบด้านใด? มากที่สุด
อันดับ 1ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน33.35%
อันดับ 2ด้านเศรษฐกิจ /ธุรกิจการลงทุน27.59%
อันดับ 3ด้านภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือของประเทศ14.63%
อันดับ 4ด้านการท่องเที่ยว12.24%
อันดับ 5ด้านสภาพจิตใจของประชาชน รู้สึกกังวลและกลัว12.19%

3.คนกรุงเทพฯ คิดว่า หน่วยงานใด? ที่มีความสำคัญมากที่สุดในการเข้ามาช่วยดูแล กรณี เกิดเหตุไฟไหม้
อันดับ 1หน่วยดับเพลิง/สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย48.54%
อันดับ 2กรุงเทพมหานคร18.13%
อันดับ 3สำนักงานเขต17.68%
อันดับ 4สำนักการโยธา15.65%

4.ในฐานะ ประชาชน จะมีแนวทางป้องกันเหตุไฟไหม้ได้อย่างไร?
อันดับ 1ช่วยกันสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตา/ปฏิบัติตามกฎระเบียบการป้องกันอัคคีภัยอย่างเคร่งครัด ไม่ประมาท51.91%
อันดับ 2มีการซ้อมหนีไฟ ศึกษาหาข้อมูลเพื่อเตรียมพร้อมหรือรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น25.63%
อันดับ 3มีการติดตั้งอุปกรณ์เตือนภัยหรือถังดับเพลิงไว้ที่บ้าน /ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ปลั๊กไฟและสวิตช์ไฟ อย่างสม่ำเสมอ 22.46%

5.ภาคเอกชน /เจ้าของธุรกิจ ควรมีแนวทางป้องกันเหตุไฟไหม้ได้อย่างไร?
อันดับ 1เพิ่มมาตรการการป้องกันและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง /มีความเข้มงวดในระบบรักษาความปลอดภัย79.58%
อันดับ 2ไม่ต่อเติมหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างอาคารที่ไม่ได้รับการอนุญาตหรือไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด11.78%
อันดับ 3มีการอบรมให้ความรู้และมีการซักซ้อมหนีไฟให้กับพนักงานอย่างสม่ำเสมอ 8.64%

6.กทม./หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรมีแนวทางป้องกันเหตุไฟไหม้ได้อย่างไร?
อันดับ 1ต้องมีการเตรียมพร้อมอยู่เสมอโดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ทั้งอุปกรณ์เครื่องมือ รถดับเพลิง
พนักงานดับเพลิงจะต้องไปถึงที่เกิดเหตุอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพในการทำงาน41.28%
อันดับ 2มีการตรวจสอบอาคารและสิ่งก่อสร้างทั้งเก่าและใหม่ในทุกเขตพื้นที่ของกทม.อย่างเข้มงวดและทั่วถึง30.79%
อันดับ 3การบังคับใช้กฎหมายที่เด็ดขาด เพิ่มมาตรการการป้องกันภัยที่เหมาะสมกับประเภทของอาคารและสภาพแวดล้อมในบริเวณนั้นๆ27.93%

7.ความเชื่อมั่นของคนกรุงเทพฯ กับ การป้องกันเหตุไฟไหม้
อันดับ 1ไม่ค่อยเชื่อมั่น 53.93%
เพราะ ในระยะหลังมานี้รู้สึกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นบ่อยครั้งและมักประสบปัญหากับการช่วยเหลือและการกู้ภัยของเจ้าหน้าที่ ฯลฯ
อันดับ 2ค่อนข้างเชื่อมั่น 33.09%
เพราะ หน่วยงานที่รับผิดชอบมีการทำงานที่รวดเร็ว อุปกรณ์ต่างๆมีความพร้อมและทันสมัย ในแต่ละพื้นที่มีหน่วยงานคอยดูแล ฯลฯ
อันดับ 3ไม่เชื่อมั่น10.30%
เพราะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นย่านใจกลางเมือง ควรมีความปลอดภัยและได้รับการดูแลเอาใจใส่มากกว่านี้ ฯลฯ
อันดับ 4เชื่อมั่น 2.68%
เพราะ ทุกฝ่ายทำดีที่สุดแล้ว เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ฯลฯ

8.บทเรียนที่ได้รับ จากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้
อันดับ 1อย่าปล่อยให้วัวหายแล้วล้อมคอก นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเป็นอุทาหรณ์ เพื่อหาแนวทางป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น50.43%
อันดับ 2ไม่ควรประมาท มีความตื่นตัวและเพิ่มความระมัดระวัง รอบคอบให้มากกว่านี้26.76%
อันดับ 3เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ทุกฝ่ายควรร่วมมือกันในการป้องกันอัคคีภัย22.81%
กำลังโหลดความคิดเห็น