สุรินทร์ - “เป็ดเหลิม” โผล่สุรินทร์ กำชับฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น และ ป.ป.ส. จับมือป้องกันปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่
วันนี้ (30 เม.ย.) ที่ห้องประชุมโรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาพบปะขอความร่วมมือและมอบนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายพลเรือน ตำรวจ และทหาร รวมถึงกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสุรินทร์กว่า 2,600 คน
โดยก่อนเดินทางเข้าไปยังห้องประชุมภายในโรงแรมทองธารินทร์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อายุ 53 ปี กว่า 200 นาย ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก ยศ “ด.ต.” เป็น “ร.ต.ต.” แบบเลื่อนไหล ซึ่งได้รับคำสั่งจากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ให้เดินทางมารอตั้งแต่เช้า เพื่อเข้าแถวต้อนรับ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่ง ร.ต.อ.ดร.เฉลิมได้กล่าวให้โอวาทนายร้อยตำรวจอายุ 53 ปีว่า สิ่งที่นายตำรวจรุ่นนี้ได้รับ เป็นเพราะผลงานของตนที่ผลักดันให้ตำรวจได้รับยศที่สูงขึ้น เพื่อให้ตั้งใจทำงานในช่วงสุดท้ายของการรับราชการ เป็นความภูมิใจของคนทำงาน และครอบครัว
จากนั้น ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามอบนโยบายต่อที่ประชุมว่า นโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยมีกรอบดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ “7 แผน 3 ยุทธศาสตร์ 6 ยุทธการ” ทั้ง 7 แผนประกอบด้วย แผนสร้างพลังสังคมและพลังชุมชน แผนการแก้ไขปัญหาผู้เสพ-ผู้ติดยาเสพติด แผนสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติด แผนปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมาย แผนความร่วมมือระหว่างประเทศ แผนสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน และแผนบริหารจัดการแบบบูรณาการ
ส่วน 3 ยุทธศาสตร์นั้น เน้นตัดวงจรปัญหา 3 วงจร การปราบปรามผู้ผลิต-ผู้ค้ายาเสพติด และลดปริมาณยา ลดผู้เสพ-ผู้ติดยาเสพติด ลดกลุ่มเสี่ยง-ปัจจัยเสี่ยง
สำหรับ 6 ยุทธการ ประกอบด้วย 1. ความร่วมมือระหว่างประเทศภูมิภาคสองฝั่งโขง 2. การปิดกั้นยาเสพติดพื้นที่ชายแดน 3. ปราบปรามตัดวงจรการค้าทุกระดับ 4. การจัดระเบียบแหล่งมั่วสุ่มพื้นที่เขตเมือง 5. ชุมชนเอาชนะยาเสพติด 6. การบำบัดเยียวยาลูกหลานคืนสู่สังคม
โดยจังหวัดสุรินทร์นับเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของยาเสพติดน้อย แต่ต้องมีการเฝ้าระวังและปราบปรามอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีพื้นที่ติดกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งที่ผ่านมามีการจับกุมได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ใหญ่โตและรุนแรงก็ตาม
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังมอบนโยบายว่า ได้เน้นให้ร่วมมือกันในการรณรงค์ป้องกันยาเสพติด แล้วสกัดกั้นการนำเข้ายาเสพติดจากนอกประเทศเข้ามาประเทศไทย ซึ่งไม่ได้ผลิตในประเทศไทย ที่ผ่านมาเน้นทางภาคเหนือเป็นหลัก แต่กลุ่มคนร้ายและผู้ค้าใช้วิธีการเคลื่อนย้ายมาภาคอีสาน จึงช่วยกันเน้นเป็นพิเศษในการป้องกันปราบปราม จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดหนึ่งที่สำคัญในภาคอีสาน ที่จะเป็นศูนย์กลางในการสกัดกั้นตรวจค้น แม้จะมีการระบาดของยาเสพติดไม่มากนัก แต่เป็นเส้นทางผ่าน
“การเดินทางมาในครั้งนี้ไม่ได้เน้นการมอบนโยบายแต่มาเพื่อขอความร่วมมือ โดยเฉพาะการทำงานของผู้ว่าฯ ขอให้ทำงานร่วมกันกับตำรวจ ร่วมกับฐานมวลชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทหาร รวมถึง ป.ป.ส.ภาค 3 ในการแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติดอย่างจริงจัง” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า ในส่วนของเจ้าพ่อยาเสพติดและโจรสลัดลุ่มน้ำโขงลูกน้องขุนส่าคนสำคัญ คือ นายหน่อคำ ที่ทางการ สปป.ลาวจับกุมได้ในขณะนี้นั้น ก็เป็นดุลพินิจของประเทศลาวว่าจะส่งตัวให้ประเทศไหน ซึ่งทาง ป.ป.ส.ได้ทำหนังสือไปถึงแล้วเช่นกัน ไม่มั่นใจว่าจะส่งตัวให้ประเทศไทยหรือไม่ ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ อย่างไรก็ตาม เมื่อจับได้แล้วส่งดำเนินคดีที่ใหนก็ไม่เป็นไรจากนั้นเราก็ขอตัวมาดำเนินคดีอีกก็ได้
สำหรับกรณีเรื่องการค้าและเสพยาเสพติดของนักโทษในเรือนจำที่ จ.นครศรีธรรมราช ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า หากสอบสวนพบว่าเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องต้องดำเนินการทางวินัยอย่างเฉียบขาด แต่ต้องให้โอกาสชี้แจงด้วย ไม่ใช่ว่าสงสัยก็ไล่ออกหมดก็พังกัน แต่มั่นใจว่าไม่เกิน 7 วันคงรู้ผล