บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ กระจายกำลังล่า 3 วัยรุ่นชายก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำพระเลี่ยมทองหนัก 3 บาทตาวัย 75 คาร้านค้า พร้อมใช้กำลังชกต่อยทำร้าย โดยใช้กลอุบายทำทีมาซื้อน้ำเปล่า พอได้ของอ้างเงินทอนไม่ครบ ก่อนสบโอกาสกระชากสร้อยขาดร่วง ก่อนขับจักรยานยนต์หลบหนี
วันนี้ (29 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ได้กระจายกำลังออกติดตามไล่ล่า 3 วัยรุ่นชายที่ได้ร่วมกันก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำพระเลี่ยมทองหนัก 3 บาทของนายแผน ม่วงนางรอง อายุ 75 ปี เจ้าของร้านขายของชำ หน้าค่ายกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ตั้งอยู่เลขที่ 130 หมู่ 11 ริมถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ขณะขายของอยู่กับนางจันทร์ สิริโกเมท อายุ 70 ปี ภรรยาภายในร้าน
โดยวัยรุ่นทั้ง 3 คนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์สีดำแดงมาจอดหน้าร้าน จากนั้น 2 ใน 3 ซึ่งสวมหมวกไหมพรมได้ลงมาจากรถทำทีมาซื้อน้ำเปล่า 1 ขวด ราคา 6 บาท โดยจ่ายธนบัตรฉบับละ 100 บาทให้ จากนั้นยายจึงได้ทอนเงินให้ 94 บาท แต่พอสักพักสองวัยรุ่นย้อนกลับมาอ้างว่านางจันทร์ทอนเงินให้ไม่ครบตามจำนวน ขณะยายกำลังอธิบาย นายแผน สามีซึ่งใส่สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทไม่ได้สวมเสื้อ ได้ยินเสียงดังจึงเดินมาดู
ทั้งสองวัยรุ่นจึงลงมือชกต่อยพร้อมกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทในคออย่างแรง ทำให้สร้อยขาดเป็น 2 ท่อนหล่นลงกับพื้น นางจันทร์ ภรรยาจึงตะโกนให้คนช่วย ทันใดนั้นลูกชายนางจันทร์วิ่งออกมาจากในบ้านดักด้านหน้า ทำให้วัยรุ่นหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดรอไปได้ 2 คน ส่วนอีกคนวิ่งหนีไปในป่าหลังบ้านก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับคนร้ายดังกล่าว
ล่าสุด ขณะนี้ทั้งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจยังช่วยกันออกตามล่าทั้งในป่า และบ้านร้างแต่ก็ยังไร้วี่แวว เพราะหมู่บ้านดังกล่าวติดกับป่าวนอุทยานเขากระโดง ซึ่งเป็นผืนป่ากว้างซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะหลบหนีไปในป่าลึก อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเวรยามตามหาคนแปลกหน้าเพื่อตามหาคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (29 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ได้กระจายกำลังออกติดตามไล่ล่า 3 วัยรุ่นชายที่ได้ร่วมกันก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำพระเลี่ยมทองหนัก 3 บาทของนายแผน ม่วงนางรอง อายุ 75 ปี เจ้าของร้านขายของชำ หน้าค่ายกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ตั้งอยู่เลขที่ 130 หมู่ 11 ริมถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ขณะขายของอยู่กับนางจันทร์ สิริโกเมท อายุ 70 ปี ภรรยาภายในร้าน
โดยวัยรุ่นทั้ง 3 คนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์สีดำแดงมาจอดหน้าร้าน จากนั้น 2 ใน 3 ซึ่งสวมหมวกไหมพรมได้ลงมาจากรถทำทีมาซื้อน้ำเปล่า 1 ขวด ราคา 6 บาท โดยจ่ายธนบัตรฉบับละ 100 บาทให้ จากนั้นยายจึงได้ทอนเงินให้ 94 บาท แต่พอสักพักสองวัยรุ่นย้อนกลับมาอ้างว่านางจันทร์ทอนเงินให้ไม่ครบตามจำนวน ขณะยายกำลังอธิบาย นายแผน สามีซึ่งใส่สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทไม่ได้สวมเสื้อ ได้ยินเสียงดังจึงเดินมาดู
ทั้งสองวัยรุ่นจึงลงมือชกต่อยพร้อมกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทในคออย่างแรง ทำให้สร้อยขาดเป็น 2 ท่อนหล่นลงกับพื้น นางจันทร์ ภรรยาจึงตะโกนให้คนช่วย ทันใดนั้นลูกชายนางจันทร์วิ่งออกมาจากในบ้านดักด้านหน้า ทำให้วัยรุ่นหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดรอไปได้ 2 คน ส่วนอีกคนวิ่งหนีไปในป่าหลังบ้านก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับคนร้ายดังกล่าว
ล่าสุด ขณะนี้ทั้งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจยังช่วยกันออกตามล่าทั้งในป่า และบ้านร้างแต่ก็ยังไร้วี่แวว เพราะหมู่บ้านดังกล่าวติดกับป่าวนอุทยานเขากระโดง ซึ่งเป็นผืนป่ากว้างซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะหลบหนีไปในป่าลึก อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเวรยามตามหาคนแปลกหน้าเพื่อตามหาคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป