xs
xsm
sm
md
lg

“วิทยา” รุดเยี่ยมเจ้าชายนิทราวัย 4 ขวบป่วยเป็นวัณโรคขึ้นสมอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พระนครศรีอยุธยา- “รมว.สาธารณสุข” นำคณะแพทย์ รุดเยี่ยม “น้องกันต์” เด็กชายวัย 4 ขวบที่นอนป่วยเป็นเจ้าชายนิทรามานานหลายเดือน เหตุช่วงน้ำท่วมบ้านแล้วลงเล่นน้ำในบ้านที่สกปรกและสำลักน้ำเข้าไปจนกลายเป็นวัณโรคขึ้นสมอง พร้อมเตรียมให้ความช่วยเหลือ

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (26 เม.ย.) นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข นพ.สมพงษ์ บญสืบชาติ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พญ.ดวงพร อัศวราชันย์ รองผู้อำนวยการ รพ.พระนครศรีอยุธยา และ พญ.เนาวรัตน์ ลีโทชวลิต แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู เดินทางไปตรวจเยี่ยมอาการของ ด.ช.กันตพงศ์ หรือน้องกันต์ มีสมผล อายุ 4 ขวบ ซึ่งนอนป่วยเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ที่ใต้ต้นไม้หน้าศูนย์อนามัยชุมชนวัดกล้วย ม.11 ต.กระมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วยอาการวัณโรคขึ้นสมองหลังจากที่ทราบว่าน้องกันต์ป่วยมานานหลายเดือนตั้งแต่ก่อนน้ำท่วมบ้านในปี 2554 โดยที่ผ่านมาแพทย์โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาได้ทำการรักษาน้องกันต์ มานานนับเดือน และเคยนำตัวน้องกันต์ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเด็กแล้ว แต่ก็ต้องนำกลับมารักษาต่อที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา และในที่สุดก็ต้องออกมานอนรักษาตนเองอยู่ที่บ้านเป็นที่สลดใจของผู้ที่พบเห็น

จากการตรวจดูอาการน้องกันต์เบื้องต้นพบว่า มีสภาพร่างกายซูบผอม และหลับอยู่ตลอดเวลา ไม่มีอาการรับรู้หรือตอบสนองมากนัก ซึ่ง พญ.ดวงพรเปิดเผยว่า น้องกันต์มีอาการเป็นวัณโรคขึ้นสมอง เนื่องจากก่อนหน้านี้ตรวจพบอาการระยะแรกก่อนน้ำท่วม ต่อมาขาดการติดต่อกับทางโรงพยาบาลเนื่องจากน้ำท่วม และยังทราบว่าเด็กเล่นน้ำที่ท่วมขังในบ้านทำให้ร่างกายอ่อนแอ มีอาการแทรกซ้อน มีผลต่อระบบประสาทจนทำให้ไม่สามารถควบคุมระบบการควบคุมอาการชักได้ ทำให้มีอาการชัดบ่อยๆ

ส่วนการนอนหลับอย่างต่อเนื่องนั้น น่าจะมาจากการที่รับประทานยาคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งจะไปควบคุมเรื่องอาการเกร็งหรือชักทำให้เกิดอาการง่วงซึม ซึ่งอาจจะปรับลดปริมาณยาลงมา

อย่างไรก็ตาม การรักษาคงต้องมีการทำกายภาพบำบัดด้วย เนื่องจากหากไม่ทำกายภาพเด็กอาจจะแขนขาลีบลงไปเรื่อยๆ ส่วนปัจจัยที่ทำให้เด็กป่วยเป็นวัณโรคขึ้นสมองได้นั้นเนื่องจากคนในบ้านมีประวัติการเป็นวัณโรค และมีการสัมผัส ซึ่งก็ต้องไปดูต้นตอ ส่วนเด็กจะไม่สามารถไปแพร่เชื้อได้ แต่จะมีอาการกับระบบสมองได้ และปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีคนเริ่มเป็นวัณโรคมากขึ้นเนื่องจากปัจจัยมาจากโรคเอชไอวีด้วย ที่จะมีอาการไอตามมา อยากแนะนำพ่อแม่ที่เห็นลูกไอต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ไม่หายต้องรีบพบแพทย์เพื่อป้องกัน

ด้าน นายวิทยาเปิดเผยว่า กรณีของน้องกันต์ พ่อแม่ไม่มีความเข้าใจเรื่องการใช้สิทธิ์ในการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความเกรงกลัวว่าต้องใช้เงินในการรักษา ทั้งที่รัฐบาลมีนโยบายการรักษาในเด็กอายุ 0-6 ปีโดยจะประสานกับ สปสช.ในการให้สิทธิ์รักษาอย่างต่อเนื่องได้และจะให้ส่งตัวไปรักษาที่รพ.ราชวิถี

นอกจากนี้ ได้ประสานกับทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านให้ใหม่ เนื่องจากบ้านเดิมเสียหายจากน้ำท่วม สิ่งที่เป็นห่วงในช่วงที่อากาศร้อนมากนี้ให้พ่อแม่ระวังการลงไปเล่นน้ำของเด็กๆ ในคลองส่งน้ำ ตามบ่อน้ำ อาจจะเป็นไข้ หรือตะคริว หรือกินน้ำสกปรกเข้าไปทำให้เจ็บป่วยได้

นายอำนาจ มีสมผล อายุ 48 ปี ผู้เป็นลุงของน้องกันต์ เปิดเผยว่า น้องกันต์เป็นลูกคนเล็กในจำนวนพี่น้อง 3 คน พ่อชื่อนายวีระศักดิ์ มีสมผล อายุ 37 ปี มีอาชีพจักรยานยนต์รับจ้าง ส่วนมารดา คือ นางคำนาย มีสมผล อายุ 48 ปี เป็นแม่บ้านโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงน้ำท่วมหนักเดือน ต.ค. 2554 บ้านของนายวีระศักดิ์ถูกน้ำท่วมครึ่งหลัง ต้องหนุนพื้นภายในบ้านหลับนอน

“ในช่วงที่นายวีระศักดิ์และภรรยาออกไปทำธุระ น้องกันต์จะลงไปเล่นน้ำที่ท่วมในบ้าน ซึ่งน้ำท่วมขังนานจนกลายเป็นน้ำเน่าเสีย จากนั้นพอน้ำเริ่มลด น้องกันต์ก็มีอาการเป็นไข้ และมีอาการชักหมดสติ จึงนำไปส่ง รพ.พระนครศรีอยุธยา นอนรักษาตัวอยู่นานหลายสัปดาห์ โดยแพทย์ระบุว่าเกิดจากการกินน้ำ หรือสำลักน้ำที่เน่าเหม็นเข้าไป เกิดเป็นวัณโรคในสมอง เมื่อเห็นว่านอนรักษาตัวนานเกือบ 2 เดือนอาการไม่ดีขึ้น จึงแนะนำให้นำน้องกันต์ไป รพ.เด็กที่กรุงเทพฯ จึงพาไปรักษา แต่เมื่อไปถึงทางโรงพยาบาลบอกให้นำกลับไปบ้าน โดยไม่บอกสาเหตุว่าทำไมจึงไม่รับ ผมและพ่อแม่เด็กจึงได้นำกลับมารักษาที่ รพ.พระนครศรีอยุธยาอีกครั้ง คราวนี้อยู่ได้ประมาณ 15 วัน ทางโรงพยาบาลก็ให้นำกลับมาบ้าน บอกว่าอาการดีขึ้น ซึ่งเมื่อกลับมาแล้วก็ยังต้องนอนนิ่งอยู่ทุกวันนี้ ต้องมาช่วยกันดูแลโดยไม่รู้จะให้ทำอย่างไร”
กำลังโหลดความคิดเห็น