มหาสารคาม - รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามนำคณะอนุกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัดลงพื้นที่ตรวจติดตามการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2554/55 เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ เนื่องจากมีเกษตรกรนำข้าวไปจำนำวันละกว่า 5,000 ตัน
นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจติดตามการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2554/55 ที่ศูนย์ธุรกิจสหกรณ์การเกษตร อ.เชียงยืน และ อ.โกสุมพิสัย เพื่อรับทราบปัญหาและความคืบหน้าการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ซึ่งอาจจะมีช่องว่างที่เปิดโอกาสให้มีการสวมสิทธิการจำนำข้าว
โดยเฉพาะกรณีที่เกษตรกรนำข้าวไปจำนำไม่เต็มตามจำนวนใบรับรองเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หากไม่ระบุรายละเอียดไว้เป็นหลักฐาน โรงสีก็อาจจะนำไปสวมสิทธิเกษตรกรรายดังกล่าวได้ จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดรับจำนำมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด พร้อมแนะนำให้เกษตรกรรักษาสิทธิและผลประโยชน์ที่ควรจะได้รับของตนเอง อย่างไรก็ตาม จากการตรวจติดตามการรับจำนำข้าว ทั้ง 2 จุดยังไม่พบข้อมูลการสวมสิทธิเกษตรกรแต่อย่างใด
ส่วนปัญหาที่พบคือ ความล่าช้าในการจำนำข้าว และการทำสัญญาเกษตรกร ซึ่งเริ่มจากหลังหยุดยาวเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาเกษตรกรต่างเร่งเก็บเกี่ยวข้าวเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวนไปเข้าคิวรอจำนำเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ปริมาณข้าวแต่ละจุดไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 ตัน โดยโรงสีจะเปิดรับจำนำในเวลา 08.00-18.00 น. ซึ่งไม่สามารถรับจำนำข้าวนอกเวลาได้
ในส่วนของราคารับซื้อข้าวเป็นการตกลงกันระหว่างโรงสีกับเกษตรกร ว่าจะสามารถซื้อขายข้าวในราคาที่ตกลงกันไว้หรือไม่ การแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเนื่องจากจังหวัดมหาสารคามไม่มีโรงสีข้าวในพื้นที่ที่มีศักยภาพพอที่จะเปิดจุดรับจำนำข้าวเพิ่มได้
จึงต้องทำเรื่องเสนอไปยังองค์การคลังสินค้า หรือ อคส.ให้โรงสีต่างพื้นที่เข้าไปเปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2554/55 ต่อไป