พระนครศรีอยุธยา - เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานหาต้นเหตุเพลิงไหม้หอสมุดโบราณวัดพนัญเชิงวรวิหาร ประเมินค่าเสียหายรวมทั้งทรัพย์สินของมีค่าทางศาสนาแล้ว ณ เวลานี้เกิน 100 ล้านบาท
เมื่อเช้าวันนี้ (25 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานนำโดย พ.ต.อ.ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ หัวหน้าพิสูจน์หลักฐาน 1 พ.ต.อ.อนุราช จิตศิลป์ ผกก.พิสูจน์หลักฐาน 1 และ พ.ต.ท.โกศล ภาคาหาญ สว.เวรเจ้าของคดี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบเก็บหาหลักฐานซากกองเพลิงของหอสมุดโบราณวัดพนัญเชิงวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นโท ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ถูกไฟไหม้ไปเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (24 เม.ย.) โดยมีพระเทพรัตนากร เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิง ให้รายละเอียดการตกแต่งก่อสร้างภายในทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ได้ทราบ ซึ่งจากร่องรอยของกองเพลิงพบว่า เปลวเพลิงต้นตอลุกโชติช่วงออกมาจากด้านใน
ในการตรวจเก็บหลักฐานยังพบว่า ภายในหอสมุดมีการเดินระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสารเก็บอย่างมิดชิดไว้ด้านในเพื่อความสวยงาม จะเป็นสาเหตุทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่ยังต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบสรุปถึงสาเหตุให้แน่ชัด เนื่องจากประชาชนให้ความสนใจติดตามข่าวสารกันอย่างต่อเนื่องถึงสาเหตุไฟไหม้ครั้งนี้
พระเทพรัตนากร ยังเปิดเผยว่า หอสมุดโบราณที่ถูกไฟไหม้หลังนี้เป็นอาคารเก่าแก่ รูปทรงจัตุรมุขสองชั้น สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 มีการปรับปรุงซ๋อมแซมบูรณะมาแล้วครั้งหนึ่ง การบูรณะครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ภายในได้มีการตกแต่งให้สวยงามด้วยไม่จันหอม ซึ่งเป็นไม้หายากทางวัดได้จัดซืิ้็้อมาเฉพาะไม้จันหอมรวมเป็นมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท
“ส่วนสาเหตุต้องรอเจ้าหน้าที่อย่างเดียว ทางวัดไม่อาจจะด่วนสรุปเองได้ ประเมินค่าเสียหาย รวมทั้งทรัพย์สินของมีค่าทางศาสนาแล้ว ณ เวลานี้เกินกว่า 100 ล้านบาท” พระเทพรัตนากร กล่าว
รายงานข่าวเผยว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า เพลิงได้เผาไหม้ตู้พระไตรปิฎกบางส่วนที่อยู่ด้านบน แต่ของเก่าเดิมไม่ได้ถูกเพลิงไหม้อยู่ชั้นล่าง และเอกสารเกี่ยวกับการศึกษาพระธรรมที่เก็บอยู่ที่ชั้นล่างจำนวนมาก ส่วนชั้นบนมีเพียงตู้ที่เพิ่งสร้างเอาไว้แสดงสิ่งของ หรือเก็บข้าวของที่ยังไม่มีการใช้งาน เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามที่จะตรวจสอบดูบริเวณจุดที่มีการติดตั้งระบบควบคุมกระแสไฟฟ้าภายในอาคาร และระบบการเดินสายไฟฟ้าต่างๆ ภายในอาคาร ซึ่งยังไม่สามารถที่จะระบุจุดที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ แต่ยืนยันว่าสาเหตุสำคัญ คือ การเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรจากชั้นบนของอาคารอย่างแน่นอน