รวบสองโจรใจบาปแก๊งขายของเก่าตลาดคลองถม ตระเวนงัดแงะขโมยของวัด

สองโจรใจบาปกรรมตามทัน! ถูกพระภิกษุสงฆ์วัดหนังราชวรวิหาร ล้อมจับตัวไว้ได้ทันหลังร่วมกับพวกร่วมแก๊งขายของเก่าตลาดคลองถมย่องเบาเข้ามาขโมยพระพุทธรูปพร้อมิ่งของมีค่าภายในวัดหวังนำไปขายแลกเงิน แต่กรรมตามทันวิ่งหนีจนสะดุดขาตัวเองหัวฟาดพื้นหน้าแหกเลือดโชกตัว ก่อนถูกจับส่ง ตร.ดำเนินคดีตามกฎหมาย

วันนี้ (28 ก.ย.) เวลา 05.00 น.ในขณะที่ พ.ต.ท.โสภณ เนตรสว่าง สวป.สน.บางขุนเทียน กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ได้รับแจ้งจากพระลูกวัดวัดหนังราชวรวิหาร ถ.วุฒากาศ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. ว่าพระได้ช่วยกันจับกุมตัวผู้ต้องหาลักทรัพย์ภายในวัดไว้ได้ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ สว.สส. ร.ต.อ.ภีรชาติ คุ้มสังข์ รอง สว.สส. และอปพร.เขตบางบอน พบผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลางรถตู้โตโยต้าสีน้ำเงิน ทะเบียน ตศ 6764 กรุงเทพมหานคร ที่ใส่ตู้พระไตรปิฎกสมัยรัชกาลที่ 3 พัดยศสมัย ร.3 ของหลวงปู่ผล อดีตเจ้าอาวาส พร้อมโต๊ะรองขาตั้ง พระพุทธรูปไม้ 1 องค์ อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .22 พร้อมเครื่องกระสุน 6 นัด ไขควง 6 อัน มีดพก 1 เล่ม ชะแลง คีมตัดเหล็ก กระสอบ และถุงมือ

บริเวณจุดเกิดเหตุอยู่ข้างพิพิธภัณฑ์หลวงปู่เอี่ยม พบพระลูกวัดวัดหนังฯ 6 รูปกำลังช่วยกันจับกุมตัวนายสมบูรณ์ นากัณหา อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55ม.5 ต.ทุ่งกุลา อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ และนายไพบูลย์ ปรีพลู อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 ม.14 ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ ในสภาพศีรษะแตก เลือดท่วมตัว พร้อมของกลางหลายรายการ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานพร้อมควบคุมตัวมาสอบสวน

พระครูสมุห์พา ยุตตจาโร พระลูกวัดให้การว่า ช่วงเวลาประมาณตี 3 ได้ยินเสียงเหมือนเสียงคนเดิน และยกตู้กระจก จึงตื่นมาดูโดยไม่ได้เปิดไฟ พบคนร้าย 2 คน กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ข้างกำแพง จึงโทรศัพท์ตามพระที่อยู่กุฏิใกล้กันจำนวน 6 รูปมาช่วยกันจับตัว เมื่อนายสมบูรณ์เห็นพระมากันมากจึงยอมมอบตัวแต่โดยดี ส่วนนายไพบูลย์ดิ้นรนต่อสู้ แล้วพลาดท่าสะดุดเท้าตัวเองหน้าผากกระแทกพื้นจนเลือดอาบ แล้วยังหลบหนีต่อไปหลบอยู่ด้านหลังวัด แต่สุดท้ายก็ตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า เป็นคนขายของเก่าอยู่ที่ตลาดมืด คลองถม และจะขโมยเอาสิ่งของโบราณ และพระเก่าไปขายที่คลองถม โดยเข้ามาเอาของชุดแรกออกไปใส่ไว้ในรถเรียบร้อยแล้ว แต่คิดว่าอยากได้ของเพิ่มเพราะคิดว่ายังไม่คุ้มค่าเหนื่อยจึงย้อนกลับเข้ามาอีกครั้งจนกระทั่งมาถูกพระจับตัวไว้ดังกล่าว และจากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาทั้งสองยังไม่พบการกระทำความผิด

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ต้องหาต้องเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง เพราะมีชาวบ้านในวัดดาวคะนอง ที่เป็นที่พักของนายไพบูลย์ยืนยันว่าทุกวันจะเห็นนายไพบูลย์รวมตัวกับเพื่อนๆ ราว 6-7คน พร้อมด้วยรถตู้ 3 คัน ก่อนจะแยกย้ายกันไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป