ชาวแพร่แห่ตักน้ำบ่อลูกรังทา-ดื่ม เชื่อศักดิ์สิทธิ์รักษาโรคได้-สสจ.เตือนระวังอันตราย

แพร่ - ชาวบ้านแห่ตักน้ำบ่อดินลูกรังเก่าเมืองแพร่ หลังข่าวแพร่สะพัดเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ “ทา-ดื่ม” แล้วช่วยให้หายเจ็บป่วยได้ เชื่อเป็นอิทธิฤทธิ์ “เจ้าพ่อจำแดง” ที่ปกปักรักษาผืนป่าไว้ตั้งแต่อดีต ขณะที่เจ้าของที่เผยเคยส่งตัวอย่างน้ำให้โรงงานน้ำดื่มตรวจแล้ว ยันปลอดภัย ด้าน นอภ.-สสจ.ห้ามชาวบ้านดื่มกิน

รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่แจ้งว่า ขณะนี้บ่อน้ำที่ผู้รับเหมาบริษัทแพร่วิศวกรรม จำกัด ทำการขุดดินลูกรังบริเวณหมู่ 5 ต.ป่าแมต อ.เมือง จ.แพร่ เพื่อนำดินไปสร้างถนนสายแพร่-อ.ลอง ได้กลายเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว ชาวบ้านใน อ.เมืองแพร่ และอำเภอใกล้เคียงที่ทราบข่าวบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์รักษาโรคได้ต่างพากันเดินทางมาจุดธูปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนตักน้ำไปดื่ม ทา และอาบ เป็นยารักษาโรคได้สารพัด

หลังจากมีข่าวแพร่สะพัดว่า มีผู้ที่ยืนยันการนำน้ำในบ่อดังกล่าวไปใช้แล้วพบว่าหายจากโรคร้ายที่โรงพยาบาลรักษาไม่หาย เช่นโรคผิวหนังเรื้อรัง ยังพบว่ามีผู้ที่นำไปชโลมบริเวณหัวเข่าคนชราที่เป็นโรคข้อเสื่อมทำให้อาการของโรคดีขึ้นและหายได้ ผู้สูงอายุสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง ประชาชนที่สนใจต่างทยอยกันมาตักน้ำตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนพลบค่ำ วันหนึ่งๆ มีคนสนใจมาตักน้ำมากกว่า 500 รายแล้ว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ชาวบ้านที่เดินทางมาตักน้ำต่างเชื่อว่าน้ำในบ่อที่เป็นยารักษาโรคได้เกิดจากอำนาจของผีที่เคยมีอิทธิฤทธิ์ในสมัยที่บริเวณนี้เป็นป่า คือ เจ้าพ่อจำแดง เป็นผีป่าที่รักษาห้วยจำแดง ในอดีตเป็นพื้นที่ที่น่ากลัว ใครที่เข้ามาในบริเวณดังกล่าวจะเกิดฟ้าฝนรุนแรงและบางครั้งก็จะเดินหลงในป่าจนไม่สามารถออกไปจากป่าได้ แต่ถ้ามีใครเจ็บป่วยมาเลี้ยงผีเจ้าพ่อจำแดงก็จะทำให้หายป่วยได้ เหตุการณ์ความน่ากลัวและความเชื่อในการรักษาโรคดังกล่าวเป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมานานและขณะนี้ชาวบ้านเชื่อว่าเจ้าพ่อจำแดงออกมาแผลงฤทธิ์อีกครั้ง ให้เห็นถึงอำนาจลี้ลับของป่าโดยกลับมาช่วยเหลือคนให้หายจากอาการเจ็บป่วย

ซึ่งแม้ว่านายวิชิต บุญกังวาน นายอำเภอเมืองแพร่ จะออกประกาศห้ามนำน้ำดังกล่าวมาดื่มเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายได้ โดยขณะนี้สาธารณสุขจังหวัดแพร่กำลังนำตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบว่าปลอดภัยหรือไม่ และได้ทำการสั่งห้ามรับประทานหรือถ้าจะรับประทานควรผ่านการต้มเสียก่อน แต่ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาขอน้ำไปรักษาโรคมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายสาโรจน์ ศุภศิริ อายุ 59 ปี เจ้าของที่ดินดังกล่าว ได้เข้ามาดูชาวบ้านที่เข้ามาขอน้ำไปรักษาโรคมากขึ้นทุกวัน บอกว่ามันเป็นเรื่องแปลกที่ตนได้อนุญาตให้บริษัทสร้างทางเข้ามาขุดดินไปถมถนนสร้างใหม่ บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่แห้งแล้งไม่มีน้ำ เป็นที่ดินลูกรัง แต่พอขุดลงไปกลับปรากฏว่ามีน้ำไหลออกมา แต่มาดูในช่วงเช้าอีกครั้งพบว่ามีน้ำออกมาจำนวนมหาศาล การที่มีคนนำน้ำไปอาบ ดื่ม เป็นยารักษาโรค ตนได้ทดลองนำน้ำในบ่อดังกล่าวไปใส่อ่างและลองแช่เหมือนแช่น้ำแร่ดู ก็รู้สึกว่าเป็นการผ่อนคลายที่ดี ในความเชื่อยุคใหม่น้ำบริเวณนี้น่าจะมีแร่ธาตุปนออกมา

นายสาโรจน์กล่าวอีกว่า ได้นำน้ำตัวอย่างจากบ่อดังกล่าวไปให้บริษัทแพร่วอร์เตอร์ จำกัด ที่จำหน่ายน้ำดื่มในตัวเมืองตรวจสอบดูความเป็นกรด ด่าง และความสะอาด พบว่าน้ำที่นำไปตรวจเป็นน้ำที่สะอาดมาก จึงเชื่อว่าปลอดภัยได้ระดับหนึ่ง ดังนั้นจะไม่ห้ามประชาชนที่สนใจมาตักไปใช้ โดยไม่คิดมูลค่า และถ้ามีคนมามากๆ ก็ต้องไม่มีใครเป็นมาเฟียเรียกรับผลประโยชน์

“ส่วนศรัทธาชาวบ้านที่มาตักน้ำมีการทำบุญให้กับเจ้าที่เจ้าทาง จะให้คนเฝ้าที่ดิน รวบรวมถวายพระวัดใกล้ๆ ต่อไป”

นายสาโรจน์ยังบอกอีกว่า เขาทราบดีถึงเรื่องเล่าความลี้ลับของป่าบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะเขาทางด้านหน้า คือ ภูเขาฆ้องก้อง ห้วยยาง ห้วยจำแดง ห้วยอ้งโล่ง และลึกเข้าไปเป็นห้วยผาคำ บริเวณดังกล่าวมีสายแร่ทองคำอยู่ ชาวบ้านในอดีตร่อนแร่ทองกัน

“บางครั้งไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ตำนานเรื่องเล่าเก่าๆ อิทธิพลของผีอำนาจลี้ลับในป่า”นายสาโรจน์กล่าวย้ำในตอนท้าย