ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- สวนสัตว์โคราชเดินหน้าปล่อย “นกกระเรียน” พันธุ์ไทยใกล้สูญพันธุ์กลับสู่ธรรมชาติเพิ่ม หลังประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ล่าสุดขนย้ายนกกระเรียนไปปรับสภาพอีก 8 ตัวก่อนปล่อยในพื้นที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เผยปีนี้เตรียมปล่อย 2 ชุด รวม 16 ตัว ส่วนปีหน้าตั้งเป้า 20 ตัว ระบุกระเรียนทุกตัวต้องผ่านการเก็บตัวเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนคืนสู่ธรรมชาติ เผยที่ผ่านมาปล่อย 10 ตัว ตาย 2 เหลือ 8 ตัว ถือว่าสำเร็จสูง
วันนี้ (19 เม.ย.) ที่กรงเพาะเลี้ยงนกกระเรียนพันธุ์ไทย ภายในสวนสัตว์นครราชสีมา ต.ไชยมงคล อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวันชัย สวาสุ หัวหน้าฝ่ายบำรุงสัตว์ สวนสัตว์นครราชสีมา ในฐานะหัวหน้า “โครงการวิจัยการเตรียมความพร้อมเพื่อทดลองปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทยจากกรงเพาะเลี้ยงกลับคืนสู่พื้นที่ชุ่มน้ำตามธรรมชาติ ในประเทศไทย สวนสัตว์นครราชสีมา” พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ และนักวิจัย ได้ร่วมกันทำพิธีเซ่นไหว้เจ้าที่ตามประเพณีความเชื่อของไทย ก่อนช่วยกันเข้าไปจับลูกนกกระเรียนพันธุ์ไทยจำนวน 8 ตัว เพื่อเตรียมปล่อยคืนธรรมชาติในพื้นที่อ่างเก็บน้ำสนามบิน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์
นายวันชัย สวาสุ หัวหน้าโครงการวิจัยการเตรียมความพร้อมเพื่อทดลองปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทยฯ กล่าวว่า นกกระเรียนพันธุ์ไทยทั้ง 8 ตัวนี้เป็นนกกระเรียนพันธุ์ไทยชุดที่ 2 ของปี 2555 ที่จะนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ซึ่งเป็นลูกนกกระเรียนพันธุ์ไทยที่เกิดในปี 2554 มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 8-9 เดือน
โดยนกกระเรียนทุกตัวจะต้องผ่านการฝึกด้วยการเลี้ยงแบบสวมชุดแม่นกกระเรียน ที่มีหลักการคือ การฝึกลูกนกกระเรียนที่อยู่ในกรงเพาะขยายพันธุ์เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตตามธรรมชาติได้ โดยนกกระเรียนที่เคลื่อนย้ายทั้งหมดจะต้องผ่านเกณฑ์การประเมินด้วยการสังเกตพฤติกรรมการหากินอาหาร การระวังภัย การเคลื่อนไหว การพักผ่อน และต้องวิเคราะห์สถิติ และก่อนดำเนินการย้ายทุกครั้งจะต้องมีการตรวจสุขภาพ โรคไม่ติดต่อ (โรคไข้หวัดนก) การติดห่วงที่ขาเพื่อทำสัญลักษณ์รายตัว
นายวันชัยกล่าวต่อว่า ในการขนย้ายนกกระเรียนครั้งนี้ ได้มีการขออนุญาตจากปศุสัตว์อำเภอเมืองนครราชสีมาแล้ว โดยการขนย้ายจะใช้กล่องไม้ขนาด 0.5x2 เมตร บริเวณพื้นได้ใส่ฟาง เพื่อลดการกระทบกระเทือน โดยการย้ายนกกระเรียนทั้ง 8 ตัวจากสวนสัตว์นครราชสีมาไปยังกรงปรับสภาพ ที่อยู่ภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งจะมีการให้อาหารวันละ 1 ครั้ง ตัวละ 200 กรัม และรักษาระดับน้ำให้อยู่ที่ 30 เซนติเมตรเป็นอย่างน้อย
ส่วนขั้นตอนที่สำคัญคือ การสังเกตพฤติกรรมรายตัว โดยมีการสังเกตพฤติกรรมหลัก 4 อย่าง คือ การหากินอาหาร การระวังภัย การเคลื่อนไหว การพักผ่อน เพื่อประเมินโดยการวิเคราะห์ทางสถิติว่านกกระเรียนตัวใดพร้อมที่จะดำรงชีวิตอยู่ในธรรมชาติ ก่อนที่จะมีการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ สำหรับนกกระเรียนชุดแรกในปีนี้จำนวน 8 ตัวที่อยู่ในกรงปรับสภาพ เตรียมดำเนินการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้
ทั้งนี้ ในปี 2554 ที่ผ่านมา สวนสัตว์นครราชสีมาได้ทดลองปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทยใกล้สูญพันธุ์ไปแล้วจำนวน 10 ตัว ที่เขตห้ามล่า อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก จ.บุรีรัมย์ ซึ่งล่าสุดมีนกกระเรียนตายไป 2 ตัว สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือด คงเหลือ 8 ตัว แต่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก และในปี 2555 ชุดที่ 1 ได้ย้ายนกกระเรียนไปไว้ในกรงปรับสภาพอีก 8 ตัว และในชุดที่ 2 ซึ่งเป็นชุดล่าสุดที่เคลื่อนย้ายไปในวันนี้อีกจำนวน 8 ตัว รวมปีนี้ได้มีการขนย้ายนกกระเรียนไปแล้วทั้งสิ้น 16 ตัว
ส่วนในปี 2556 ทางสวนสัตว์นครราชสีมามีเป้าหมายจะดำเนินการปล่อยนกกระเรียนอีก 20 ตัวให้ได้ เพื่อประเทศไทยจะได้มีนกกระเรียนพันธุ์ไทยไว้ให้ลูกหลานได้ศึกษาตลอดไป
