xs
xsm
sm
md
lg

เยือนแดนโสม สัมผัสธรรมชาติ ห้ามพลาด “ยอซู เอ็กซ์โป”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยอนีและซูนี รอต้อนรับทุกคนที่มาเที่ยวงานยอซู เอ็กซ์โป
ในขณะนี้สภาพอากาศบ้านเรากำลังร้อนระอุตับแลบ แต่ช่วงเวลาเดียวกันสภาพอากาศที่ประเทศเกาหลีกำลังเย็นสบาย ไม่หนาวจัด อากาศกำลังดีใส่เสื้อกันหนาวพันผ้าพันคอกันได้แบบสวยๆ ช่วงนี้ใครหลายคนจึงถืออากาศหลบร้อนไปเที่ยวเมืองโสมกันเสียเลย

การได้ไปเที่ยวต่างประเทศถือเป็นกำไรชีวิต แต่หากใครจะไปเกาหลีในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ก็ยิ่งจะได้กำไรกว่าคนอื่น เพราะในช่วงนั้นประเทศเกาหลีกำลังจัดงาน “Expo 2012 Yeosu Korea” หรืองาน “ยอซู เอ็กซ์โป 2012” ที่เมืองยอซู โดยหัวข้อในการจัดแสดงจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับท้องทะเลและมหาสมุทร
สถานที่จัดงานเอ็กซ์โปซึ่งใกล้แล้วเสร็จ มองจากเกาะโอดงโด
ในวันนี้ตะลอนเที่ยวได้เดินทางมาเยือนเกาหลีกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี โดยบินลัดฟ้ามาแบบสบายๆ กับสายการบินเอเชียน่า แอร์ไลน์ ใช้เวลา 5 ชั่วโมงก็มาถึงท่าอากาศยานอินชอนในกรุงโซล แต่ในคราวนี้ตั้งใจจะมาดูสถานที่จัดงานเอ็กซ์โปและแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง ดังนั้นเพื่อความรวดเร็ว เราจึงเดินทางไปยังสนามบินกิมโป เพื่อขึ้นเครื่องในประเทศบินต่อไปยังเมืองยอซู มุ่งหน้ามายังสถานที่จัดงานยอซู เอ็กซ์โป 2012

เมืองยอซูนั้น อยู่ในเขตจังหวัดชอลลานัมโด (Jeollanam-Do) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 9 จังหวัดของประเทศเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ จังหวัดชอลลานัมโดนี้ประกอบด้วยเมืองย่อยอีก 22 เมือง มีเมืองควางจูเป็นเมืองใหญ่และเป็นศูนย์กลางของจังหวัด ภูมิภาคนี้ได้รับการขนานนามให้เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของเกาหลีเพราะมีพื้นที่เกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ จึงยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก อีกทั้งยังมีอ่าวและชายหาดที่สวยงาม เหมาะแก่การจัดงานเอ็กซ์โปในหัวข้อเกี่ยวกับทะเลและมหาสมุทรเป็นอย่างยิ่ง
 ประภาคารบนเกาะโอดงโด สามารถขึ้นไปชมวิวแบบ 360องศา
สำหรับงานเอ็กซ์โปในครั้งนี้ แม้ไม่ได้เป็นงานใหญ่ขนาด World Expo แต่ก็เป็นงานมหกรรมนานาชาติที่มีความอลังการและน่าสนใจไม่น้อย ในครั้งนี้จัดขึ้นในหัวข้อ “The Living Ocean and Coast” เพื่อเป็นเวทีในการแสดงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ระหว่างนานาประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับท้องทะเลและชายฝั่ง เพื่อหาแนวทางพัฒนาทรัพยากรทางทะเลของโลกให้ยั่งยืน ซึ่งในงานนี้ประเทศไทยเราก็ได้นำเอาความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของทะเลไทยไปให้ชาวโลกได้ชมด้วยเช่นกัน
Penis Tree ต้นไม้ที่ทุกคนต้องมองเหลียวหลัง
ครั้งนี้ประเทศเกาหลีทุ่มงบนับล้านล้านวอนเนรมิตอาคารจัดแสดงแบบทันสมัยริมทะเล แถมด้วยเทคโนโลยีล้ำๆ ในการถ่ายทอดเรื่องราวความรู้เกี่ยวกับท้องทะเล และสำหรับไฮไลท์ของงานจะอยู่ที่ Big O พื้นที่ลานกิจกรรมริมทะเลขนาดใหญ่ที่โดดเด่นด้วยโครงเหล็กกลมรูปตัว O ที่เป็นสถานที่การจัดแสดงอลังการตลอดทั้งวัน Expo Digital Gallery อุโมงค์แสดงนิทรรศการก็เป็นอีกที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดชม รวมถึง Marine Life Pavilion อะควาเรียมขนาดมหึมาให้เราได้ชมโลกใต้ทะเลกันแบบจุใจ

ช่วงที่ “ตะลอนเที่ยว” ได้ไปเยือนไซต์งานเอ็กซ์โปนั้นการก่อสร้างยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็คืบหน้าไปมากกว่า 90% โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 12 พ.ค.-12 ส.ค. 55 ระยะเวลา 3 เดือน ด้วยกัน ใครที่อยากไปชมก็ต้องเตรียมตัววางแผนกันได้แล้ว
ดอกคาเมเลียที่พบได้มากบนเกาะโอดงโด
แต่หากจะวางแผนการท่องเที่ยวควบคู่ไปด้วย “ตะลอนเที่ยว” ขอเป็นคนพาไปดูว่าในจังหวัดชอลลานัมโดนั้น มีเมืองไหนใกล้เคียงที่มีสิ่งน่าสนใจอะไรกันบ้าง เริ่มจากที่ใกล้ๆ กับสถานที่จัดงานเอ็กซ์โปก่อนเลย นั่นก็คือ “เกาะโอดงโด” (Odongdo) ที่แม้จะเป็นเกาะ แต่ก็ตั้งอยู่ไม่ไกลจากแผ่นดิน แถมยังมีถนนผ่ากลางทะเลเชื่อมตัวเกาะกับแผ่นดิน สามารถเลือกได้ว่าจะนั่งเรือ นั่งรถราง หรือจะเดินไปเองก็ยังได้ เพราะมีระยะทางเพียง 768 เมตร เท่านั้น เดินไปชมบรรยากาศทะเลไปเพลินๆ แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ถึงตัวเกาะ แถมยังมีสิ่งที่น่าสนใจระหว่างทางเดินอย่างคุณลุงคุณป้าชาวเกาหลีที่ไม่แคร์ลมหนาว ลงไปนั่งแคะหาหอยนางรมกันบนโขดหินริมทะเล เอาหอยและอาหารทะเลต่างๆ ที่หาได้นั้นมาขายกันสดๆ ริมถนน

สำหรับเกาะโอดงโดนั้น เป็นส่วนหนึ่งของ Hallyeohaesang National Park ตัวเกาะมีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับดอกคาเมเลีย ซึ่งเป็นต้นไม้ที่พบเห็นได้ง่ายบนเกาะและมีอยู่มากถึงกว่า 3,000 ต้น โดยต้นคาเมเลียที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะนั้นมีอายุมากถึง 200 ปี เลยทีเดียว ซึ่งหากใครได้มาเที่ยวในช่วงนี้ก็จะได้เห็นต้นคาเมเลียออกดอกสีแดงสวยสด สามารถชมกันได้ได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน
ต้นคาเมเลียอายุกว่า 200 ปี
บนเกาะโอดงโดนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นเขาไปตามเส้นทางที่จัดไว้ให้เพื่อชมพรรณไม้แปลกๆ หายากกว่า 200 ชนิด เช่น ต้นไผ่ชนิดต่างๆ แต่ที่แปลกที่สุดต้องยกให้กับต้นนี้ Penis Tree ซึ่ง “ตะลอนเที่ยว” ไม่ขอบรรยาย เพราะดูจากชื่อก็คงจะรู้แล้วว่ารูปร่างเหมือนอะไร หรือใครไม่ทราบก็ขอเชิญชมภาพประกอบกันเองดีกว่า

นอกจากต้นไม้แปลกแล้ว ทัศนียภาพของเกาะแห่งนี้ก็ยังสวยงามไม่น้อย ซึ่งหากใครอยากชมทิวทัศน์แบบ 360 องศา ก็ต้องขึ้นไปบนประภาคารที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ซึ่งเมื่อมองลงมาจะเห็นทิวทัศน์รอบด้านตัวเกาะ เห็นความงามของท้องทะเลและเกาะแก่งต่างๆ รวมถึงเห็นสถานที่จัดงานเอ็กซ์โปได้อย่างชัดเจน
ทุ่งต้นกกสีทองอร่ามที่ Suncheon Bay
คราวนี้เราออกจากเมืองยอซู มาเที่ยวกันต่อที่เมืองซุนชอน (Suncheon) ที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามไม่ควรพลาดชมอย่าง Suncheon Bay ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำริมชายฝั่ง ที่มีความหลากหลายของพื้นที่ ทั้งปากแม่น้ำ ทุ่งต้นกก นาเกลือ ที่ราบและเกาะแก่งต่างๆ ที่น้ำท่วมถึง ส่งผลให้มีความหลากหลายของระบบนิเวศตามไปด้วย โดยความสมบูรณ์ของธรรมชาติในแถบนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ จนในปี ค.ศ.2006 พื้นที่จึงเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งแรกของเกาหลีที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในอนุสัญญาแรมซาร์ คือ อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญในระดับนานาชาติ

“ตะลอนเที่ยว” แวะเข้าไปชม Suncheon Bay Eco-Museum เป็นการปูพื้นก่อนที่จะออกไปชมสถานที่จริง จึงได้รู้ว่าพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งนี้เป็นพื้นที่ปากแม่น้ำ Dong-cheon และแม่น้ำ Isa-cheon ที่ไหลมารวมกันก่อนจะออกสู่ทะเล ก่อนหน้านี้พื้นที่แห่งนี้ก็ถูกละเลยและถูกรุกล้ำด้วยพื้นที่อุตสาหกรรม แต่เมื่อคนท้องถิ่น ภาครัฐและกลุ่มอนุรักษ์ต่างตระหนักถึงความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งนี้ พื้นที่ตรงนี้จึงได้รับการอนุรักษ์ไว้จนกลายมาเป็นแหล่งเรียนรู้พร้อมทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามของเมือง Suncheon จนปัจจุบัน
พื้นที่ชุ่มน้ำที่ Suncheon Bay ที่ไม่อยากให้พลาดชม
ในช่วงที่ “ตะลอนเที่ยว” มาเยือน Suncheon Bay นั้น ทุ่งต้นกกริมแม่น้ำกำลังออกดอกสีทองอร่ามเต็มพื้นที่ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถเดินชมทิวทัศน์ของทุ่งต้นกกไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งรอบเล็กรอบใหญ่ มีทั้งเส้นทางเดินเลียบริมน้ำเลาะไปตามต้นกก หรือจะเดินขึ้นเขา Yong-san เพื่อไปชมทิวทัศน์ในมุมสูงก็สวยงามไปอีกแบบ

แต่ในครั้งนี้ “ตะลอนเที่ยว” เลือกวิธีนั่งเรือชมธรรมชาติแทน ซึ่งก็ได้เห็นทัศนียภาพของ Suncheon Bay อันสวยงามไม่แพ้กัน ได้ชมทั้งทุ่งต้นกกสีทองอร่าม ระหว่างทางจะเห็นนกน้ำต่างๆ ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ บ้างก็ว่ายน้ำหาปลา บ้างก็เกาะอยู่บนต้นไม้เป็นคู่ๆ บ้างก็บินเล่นลมกันสนุกสนาน และถ้าโชคดีก็จะได้เห็นนกกระเรียน พระเอกของ Suncheon Bay และถือเป็นสัญลักษณ์นำโชคของชาวเกาหลีด้วย
นั่งเรือชมพื้นที่ชุ่มน้ำที่ Suncheon Bay
ชมทิวทัศน์สวยๆ ของเมือง Suncheon ไปแล้ว คราวนี้ย้ายเมืองขึ้นมาทางเหนือ มาทำกิจกรรมสนุกๆ กันที่เมืองกกซอง (Gokseong) เมืองนี้ได้ชื่อว่า Gokseong Train Village เพราะกิจกรรมท่องเที่ยวของที่นี่คือการปั่น Rail Bike หรือรถรางเล็กๆ 4 ล้อ สำหรับใช้ในการสำรวจตรวจสอบรางรถไฟ แต่ตอนนี้ได้ปรับเปลี่ยนเอามาใช้ปั่นชมวิวสองข้างทางรถไฟ
รถจักรไอน้ำที่พาเราชมวิวสวยๆ ที่เมือง Gokseong
อ้อ... ส่วนทางรถไฟที่ใช้ปั่นกันนี้ก็เป็นทางรถไฟสายเก่าที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว แต่ด้วยทิวทัศน์สองข้างทางรถไฟที่วิ่งเลียบแม่น้ำ Seomjingang นั้นงดงามยิ่งนัก มีทั้งแม่น้ำ ภูเขา ทุ่งนา ทิวสน ไม่ว่าจะฤดูไหนก็สวยงามมีเสน่ห์ ฤดูหนาวก็จะมีหิมะขาวโพลนไปทั่วบริเวณ ฤดูใบไม้ผลิก็จะมีดอกไม้นานาชนิดผลิบานริมทางรถไฟ ทางเมือง Gokseong จึงเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวสามารถมาปั่น Rail Bike หรือจะเลือกนั่งชมวิวสวยๆ บนรถจักรไอน้ำ ซึ่งเป็นรถไฟขบวนเก่าที่ยังเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดีก็ได้เช่นกัน

และสำหรับคนที่ชื่นชอบหนังเกาหลี สถานีรถไฟ Old Gokseong Station และทางรถไฟสายนี้ก็ยังใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง (แทกึกกี) Taegukgi ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามเกาหลี นำแสดงโดย แจง ดอง กัน และวอน บิน อีกด้วย
กิจกรรมการปั่น Rail Bike ได้ทั้งชมวิวสวย ได้ทั้งออกกำลังกาย
ปั่น Rail Bike กันมาเหนื่อยๆ แล้ว มาพักสายตาสูดอากาศบริสุทธิ์กันที่เมืองดัมยาง (Damyang) เมืองที่เงียบสงบและมีจุดเด่นในเรื่องของอากาศบริสุทธิ์เพราะยังมีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ดัมยางเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องไม้ไผ่ มีการปลูกไม้ไผ่ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก คนเมืองนี้ผูกพันกับไม้ไผ่จนมี Bamboo Museum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ไม้ไผ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดแสดงเรื่องราวของไม้ไผ่และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับไม้ไผ่ทั้งหลายอย่างครบสมบูรณ์ และหากได้มาลองลิ้มอาหารที่เมืองดัมยางไม่ว่าจะมื้อไหน ก็อย่าลืมสั่งข้าวที่หุงร้อนๆ ในกระบอกไม้ไผ่ กินแล้วจะรู้สึกเหมือนได้สัมผัสใกล้ชิดเมืองดัมยางขึ้นมาอีกหน่อย
สตรอเบอร์รี่สดๆ หวานๆ จากไร่ในเมือง Damyang
ไม่เพียงไม้ไผ่เท่านั้น ที่เมืองดัมยางนี้ยังเป็นแหล่งปลูกพืชผลผลไม้ ที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามฤดูกาล มีทั้งสตรอเบอร์รี่ เมลอน แตงโม องุ่น แอปเปิ้ล สาลี่ ส่วน “ตะลอนเที่ยว” ได้ไปเยือนเมืองดัมยางในฤดูสตรอเบอร์รี่พอดี จึงได้ลิ้มรสสตรอเบอร์รี่ฉ่ำหวานลูกโต จากไร่ Damyang Karosugil Dongwan แถมใกล้ๆ กับไร่ยังมีถนนสายโรแมนติกซึ่งปลูกต้นสนเป็นแถวเรียงราย เห็นแล้วอยากจูงมือใครซักคนมาเดินด้วยกัน คงจะโรแมนติกท้าลมหนาวกันสุดๆ
เมื่อมาเยือนเมืองไม้ไผ่ ต้องไม่พลาดชิมข้าวหุงในกระบอกไม้ไผ่
ด้วยเวลาอันมีจำกัด ทำให้ “ตะลอนเที่ยว” ยังตะลอนได้ไม่ทั่วจังหวัดชอลลานัมโด ยังมีอีกหลากหลายสถานที่ที่น่าไป อย่างเมืองควางจู (Gwangju) ซึ่งเป็นเมืองสำคัญศูนย์กลางของจังหวัด และยังเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของเกาหลี มีแหล่งน่าช้อปปิ้งไม่แพ้เมียงดงในกรุงโซล เมือง Boseong ที่มีไร่ชากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นสถานที่ถ่ายทำละครและภาพยนตร์เกาหลีหลายๆ เรื่องก็น่าไปเที่ยว และอีกหลายๆ แห่งที่หากใครไปเที่ยวงานยอซู เอ็กซ์โปแล้วยังพอมีเวลาไปเที่ยวก็อยากแนะนำให้ไปชมไปเก็บบรรยากาศสวยๆ กัน
เส้นทางต้นสนแสนโรแมนติกในเมือง Damyang


*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 

สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเกาหลีได้ที่ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี โทร. 0 2354 2080 - 1 หรือดูรายละเอียดได้ในเว็บไซต์ www.kto.or.th  
สายการบินเอเชียน่าแอร์ไลน์ มีเที่ยวบินตรง สุวรรณภูมิ-อินชอน พร้อมให้บริการทุกวัน สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.asiana-gsa.com  
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!!

ส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น