ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เครือข่ายต้านคอร์รัปชั่นภาคพลเมืองขอนแก่นย้ำญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับขัดต่อรัฐธรรมนูญชัด ยื่นร้องอัยการสูงสุดดำเนินการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด่วนเพื่อยุบพรรคการเมืองที่เป็นต้นเรื่องล้มรัฐธรรมนูญ พร้อมตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิตบรรดา ส.ส.ที่ถวายชีวิตร่วมล้มล้างอธิปไตยไทย
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (19 เม.ย.) กลุ่มเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่นได้ทำหนังสือยื่นร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อขอให้ดำเนินการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับขัดต่อรัฐธรรมนูญ
นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จากกรณีที่รัฐสภาได้พิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อจัดตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งรัฐสภาได้มีมติรับหลักการแก้ไขวาระที่ 1 โดยมีร่างขอแก้ไขรัฐธรรมนูญและผู้เสนอจำนวน 3 ฉบับ คือ 1. คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ 2. นายภราดร ปริศนานันทกุล และคณะเป็นผู้เสนอ 3. สุนัย จุลพงศกร และคณะเป็นผู้เสนอ และได้ดำเนินการตามแบบพิธีด้วยการโหวตเสียงของสมาชิกรัฐสภา รับหลักการจำนวน 399 เสียง และไม่รับหลักการ 199 เสียง
จากพฤติกรรมการกระทำที่ผู้เสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ทั้งฉบับ จึงเป็นเจตนากระทำที่ละเมิดและจงใจฝ่าฝืน ล้มล้างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีเจตนากระทำเพื่อเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้งและเป็นที่ประจักษ์ด้วยเสียงข้างมาก
เพราะเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีเจตนารมณ์ให้ ส.ส. ส.ว.คณะรัฐมนตรีหรือภาคพลเมือง ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมได้เฉพาะบางมาตราเท่านั้น มิใช่ดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ทั้งฉบับ หรือดำเนินการจัดตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งหมด
นายตุลย์กล่าวต่อว่า ดังนั้น การกระทำของผู้ริเริ่มยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญและการกระทำของรัฐสภาที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นจนถึงขั้นรับหลักการตั้งแต่วาระที่ 1 และวาระที่ 2 กำลังดำเนินการแปรญัตติมีลักษณะเร่งรีบรวบรัดตัดตอน ตัดปะเอกสาร และเอกสารรายงานการประชุมของคณะกรรมาธิการไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงมติว่าด้วยจำนวน ส.ส.ร. กรรมาธิการเสียงข้างน้อยชนะการลงมติในรอบแรกด้วยคะแนน 10 ต่อ 12
แต่กรรมาธิการเสียงข้างมากได้เสนอให้ลงมติในรอบที่สองใหม่จึงไม่ชอบด้วยหลักข้อบังคับการประชุมรัฐสภาของคณะกรรมาธิการ จึงเข้าองค์ประกอบเจตนากระทำความผิดและขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 มาตรา 68 และมาตรา 136 (16) อันมีลักษณะจงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและคำปฏิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาว่า จะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ (มาตรา 123)
เพื่อเป็นการปกป้องบทบัญญัติสูงสุดแห่งรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย และรักษาไว้ซึ่งเจตจำนงทั่วไปของราษฎรในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยสูงสุด พวกข้าพเจ้าจึงดำเนินการตามสิทธิในมาตรา 68 แห่งรัฐธรรมนูญ และขอให้อัยการสูงสุดดำเนินการดังต่อไปนี้
1. ขอให้อัยการสูงสุดส่งเรื่องต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยโดยเร็ว (มาตรา68) 2. ขอให้อัยการสูงสุดดำเนินการเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยยุบพรรคการเมืองที่กระทำผิดด้วย 3. ให้อัยการสูงสุดดำเนินการเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตห้ามลงสมัคร ส.ส.หรือ ส.ว.ด้วย
ส่วนกรณีพยานเอกสารและพยานบุคคลที่เป็นตัวการสำคัญก็ขอให้อัยการสูงสุดดำเนินการขอไปยังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, เลขาธิการวุฒิสภา และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏรเพื่อประกอบสำนวนต่อไป (ความล่าช้าคือความอยุติธรรม)