xs
xsm
sm
md
lg

2 สาวใหญ่กรุงเก่าปีนเสาวิทยุหลังศาลากลางประท้วงรัฐจ่ายชดเชยน้ำท่วมล่าช้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พระนครศรีอยุธยา - 2 สาวใหญ่ ชาวตำบลคานหาม อำเภออุทัย เมืองกรุงเก่า สุดทนภาครัฐจ่ายเงินชดเชยน้ำท่วมปี 54 ล่าช้า ปีนเสาวิทยุขนาดใหญ่หลังศาลากลางจังหวัดประท้วง ตำรวจ และอาสาสมัครต้องเกลี้ยกล่อมนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถช่วยเหลือลงมาได้

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (18 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีหญิงปีนขึ้นไปบนเสาวิทยุสื่อสารที่ด้านหลังศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางตรวจสอบพบมีเสาวิทยุขนาดใหญ่รูปทรง 3 ขา ความสูง 45 เมตร พบว่ามีหญิง 2 คนนั่งอยู่ด้านบนคานเสา สูงจากพื้น 10 เมตร โดยมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร รวมถึงชาวบ้านที่มาติดต่อราชการภายในศาลากลางมาดูเหตุการณ์จำนวนมาก

เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร เกลี้ยกล่อมนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงตัดสินใจปีนขึ้นไปเนื่องจากหวั่นว่าหญิงทั้ง 2 คนจะเป็นลม และพลาดหล่นลงมาได้เป็นผลสำเร็จ แต่ด้วยร่างกายที่ตากแดด และอ่อนเพลีย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งปฐมพยาบาลทันที แต่โชคดีที่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเกิดการสูญเสีย ทราบชื่อต่อมา คือนางสุวรรณ เทียมศรี อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 46/3 หมู่ 1 ตำบลคานหาม อำเภออุทัย และนางนงนาถ เต๊ะเบ๊ะบ๋า อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 47/2 หมู่ 1 ตำบลคานหาม อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยทั้ง 2 คนมาร้องความเป็นธรรมเรื่องเงินน้ำท่วม เนื่องจากบ้านที่อยู่อาศัยถูกน้ำท่วมเสียหายหนักเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่เห็นตัวเลขของเงินที่จะได้รับช่วยเหลือที่แน่นอนแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 1-9 ตำบลคานหาม อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กว่า 100 คนได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมกรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวได้รับเงินช่วยเหลือน้ำท่วมจากภาครัฐอย่างไม่เป็นธรรมมาแล้ว โดยบางรายได้รับเงินชดเชยแค่ 350 บาทเท่านั้น จึงรวมตัวประท้วงที่ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนายทวี นริสศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มารับเรื่องพร้อมรับปากว่า จะรีบดำเนินการและช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน

นางสุวรรณ และนางนงนาถ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (17 เม.ย.) ตนก็เดินทางมาพร้อมกับชาวบ้านกลุ่มดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บอกว่าตัวเลขเงินช่วยเหลือมีการขยับขึ้นจากที่สรุปมาจากหลักพันบาทขึ้นไป เป็นหลักหมื่นบาทให้พวกตนเตรียมไปรับเงินช่วยเหลือได้เลย

“แต่พอเช้าวันนี้ ฉันได้เดินทางไปที่อำเภออุทัย พบว่าตัวเลขเงินช่วยเหลือก็ยังคงเท่าเดิมและไม่สามารถรับเงินได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นเอกสารปลอม ตัวที่จะรับเงินได้คือตัวเลขแรก จึงเดินทางกลับมาอีกครั้งเนื่องจากตัวเลขที่ให้ดูไม่เป็นความจริง อีกทั้งยังไม่สามารถรับเงินช่วยเหลือได้เลย เนื่องจากเวลาล่วงเลยมานานแล้ว เหมือนกับว่าชาวบ้านโดนหลอก จึงต้องตัดสินใจปีนเสาประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรม”





กำลังโหลดความคิดเห็น