อดีตลูกจ้างกรมทรัพย์เครียด ปีนเสาวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่โทรศัพท์เกลี้ยกล่อม จนยอมลงมาทั้งที่อยู่ในอาการอ่อนล้า อิดโรย ขณะที่เจ้าตัว เผย เคยเป็นลูกจ้างที่อุทยานแห่งชาติสาละวิน เมื่อ 10 ปีก่อน แต่ถูกไล่ออกไม่เป็นธรรม จึงตระเวนร้องขอความเป็นธรรม แต่ไม่ได้รับการเหลียวแล จนล่าสุดได้มายื่นที่กระทรวงทรัพย์ แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับเรื่อง หิวข้าว ไม่พอใจเลยก่อเหตุ ด้านปลัดกระทรวงทรัพย์ ได้ประสานไปที่ สนง.พื้นที่เชียงใหม่ เพื่อให้ไปสมัครเข้างานต่อไป
วันนี้ (28 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.เจษฎา วัฒนเหลืองอรุณ สวป.สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุชายปีนเสาวิทยุกระจายเสียงกรมประชาสัมพันธ์ ซ.อารีย์สัมพันธ์ ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานขอเบาะลม เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นเสาวิทยุกระจายเสียงของกรมประชาสัมพันธ์สูง 150 เมตร พบ นายสุรศักดิ์ อมรไพร อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 328 ม.1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน กำลังปีนอยู่บนเสาวิทยุดังกล่าวในระดับความสูงประมาณ 100 เมตร โดย นายสุรศักดิ์ มีสีหน้าเคร่งเครียดและมีอาการเหนื่อย อิดโรย โดยระหว่างที่อยู่บนเสาวิทยุ นายสุรศักดิ์ ได้โยนอัลบัมภาพถ่ายของตนเองที่ถ่ายไว้ที่อุทยานแห่งชาติสาละวิน โดยมีข้อความเขียนว่า “ผมไม่ปกป้องแล้วใครจะปกป้อง การทำไม้ในป่าสาละวิน ข้าต่อสู้มา” ต่อมาเจ้าหน้าที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับ นายสุรศักดิ์ เพื่อเจรจาเกลี้ยกล่อมให้นายสุรศักดิ์ ลงมา ซึ่ง นายสุรศักดิ์ ได้ยอมลงมาแต่โดยดี
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้รับตัว นายสุรศักดิ์ มาที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อพบกับ นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตนเคยทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว ที่อุทยานแห่งชาติสาละวิน แต่ได้ถูกไล่ออกอย่างไม่เป็นธรรม หลังจากนั้น ได้ตระเวนร้องขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานต่างๆ เรื่อยมา แต่กลับไม่ได้รับการเหลียวแล ซึ่งล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้นำเอกสารหลักฐานพร้อมรูปถ่ายมายื่นขอความเป็นธรรมที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่รับเรื่อง ประกอบกับหิวข้าว จึงรู้สึกไม่พอใจ ระหว่างที่เดินผ่านกรมประชาสัมพันธ์จึงได้ตัดสินใจปีนเสาวิทยุดังกล่าว
ด้าน นายโชติ กล่าวว่า เบื้องต้นทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะรับเรื่องร้องเรียนของ นายสุรศักดิ์ ไว้ และจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ พร้อมจะดูข้อเท็จจริงต่างๆ ประกอบด้วย ซึ่งตนได้โทรศัพท์ไปยังสำนักบริหารพื้นที่เชียงใหม่ โดยจะให้ นายสุรศักดิ์ ไปสมัครงานที่นั่น ซึ่งหลังจากพูดคุยนายสุรศักดิ์ก็รู้สึกพอใจ และยินดีเดินทางกลับบ้านแต่โดยดี
วันนี้ (28 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.เจษฎา วัฒนเหลืองอรุณ สวป.สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุชายปีนเสาวิทยุกระจายเสียงกรมประชาสัมพันธ์ ซ.อารีย์สัมพันธ์ ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานขอเบาะลม เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นเสาวิทยุกระจายเสียงของกรมประชาสัมพันธ์สูง 150 เมตร พบ นายสุรศักดิ์ อมรไพร อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 328 ม.1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน กำลังปีนอยู่บนเสาวิทยุดังกล่าวในระดับความสูงประมาณ 100 เมตร โดย นายสุรศักดิ์ มีสีหน้าเคร่งเครียดและมีอาการเหนื่อย อิดโรย โดยระหว่างที่อยู่บนเสาวิทยุ นายสุรศักดิ์ ได้โยนอัลบัมภาพถ่ายของตนเองที่ถ่ายไว้ที่อุทยานแห่งชาติสาละวิน โดยมีข้อความเขียนว่า “ผมไม่ปกป้องแล้วใครจะปกป้อง การทำไม้ในป่าสาละวิน ข้าต่อสู้มา” ต่อมาเจ้าหน้าที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับ นายสุรศักดิ์ เพื่อเจรจาเกลี้ยกล่อมให้นายสุรศักดิ์ ลงมา ซึ่ง นายสุรศักดิ์ ได้ยอมลงมาแต่โดยดี
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้รับตัว นายสุรศักดิ์ มาที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อพบกับ นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตนเคยทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว ที่อุทยานแห่งชาติสาละวิน แต่ได้ถูกไล่ออกอย่างไม่เป็นธรรม หลังจากนั้น ได้ตระเวนร้องขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานต่างๆ เรื่อยมา แต่กลับไม่ได้รับการเหลียวแล ซึ่งล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้นำเอกสารหลักฐานพร้อมรูปถ่ายมายื่นขอความเป็นธรรมที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่รับเรื่อง ประกอบกับหิวข้าว จึงรู้สึกไม่พอใจ ระหว่างที่เดินผ่านกรมประชาสัมพันธ์จึงได้ตัดสินใจปีนเสาวิทยุดังกล่าว
ด้าน นายโชติ กล่าวว่า เบื้องต้นทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะรับเรื่องร้องเรียนของ นายสุรศักดิ์ ไว้ และจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ พร้อมจะดูข้อเท็จจริงต่างๆ ประกอบด้วย ซึ่งตนได้โทรศัพท์ไปยังสำนักบริหารพื้นที่เชียงใหม่ โดยจะให้ นายสุรศักดิ์ ไปสมัครงานที่นั่น ซึ่งหลังจากพูดคุยนายสุรศักดิ์ก็รู้สึกพอใจ และยินดีเดินทางกลับบ้านแต่โดยดี